20 ก.ย. 2021 เวลา 01:20 • ปรัชญา
"เข้าใจโลก"
" ...ถ้าเราเข้าใจโลก เราก็จะไม่ตะเกียกตะกายหาภาระ
หาความทุกข์มาใส่ตัวเองหรอก
เราอยู่กับโลกอย่างโปร่งเบา พออยู่พอกินทั้งกายทั้งใจ
ถ้าทางกายพอเพียงก็คือ มีข้าวกิน มีบ้านอยู่
มีอาชีพการงานที่เลี้ยงตัวได้ ไม่เป็นภาระกับคนอื่น
ไม่เป็นภาระสังคม อันนี้น่าพอใจแล้ว
คนเรารวยแค่ไหนมันก็กินข้าวได้วันหนึ่งแค่นี้
มันจะรวยแค่ไหนมันก็ใช้เสื้อผ้าได้ทีละชุด
แล้วเวลามันตายมันก็มีโลงอยู่ใบเดียว
แล้วโลงใบเดียวของมันก็ถูกเอาไปเผาอีก
แล้วมันเหลืออะไร มันมามือเปล่า ๆ มันก็ไปมือเปล่า ๆ
สิ่งที่ติดตัวไปคือกรรมของเรา บุญบาปของเรานั่นเอง
เพราะฉะนั้นจิตสำคัญ
พยายามอบรมฝึกฝนมันให้มันเติบโต
โลกก็สอนธรรมะเราสอนให้เราเห็น
โลกนี้ไม่สมบูรณ์หรอกมีทุกข์ตลอดเวลา
เราต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจ
ต้องประสบกับสิ่งที่ไม่รักที่ไม่พอใจ
ร่างกายเราเองก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย
จิตใจเราเองเที่ยวหาความสุขมา ความสุขก็ไม่ยั่งยืน
เกลียดความทุกข์ไล่มันก็ไม่ได้
พอเราเข้าใจ เรียกว่าเราเข้าใจความจริง
การเข้าใจความจริงก็คือเข้าใจธรรมะ
ธรรมะก็คือตัวสัจธรรมตัวความจริงนั่นล่ะ
ความจริงในทางโลกกับความจริงในทางธรรม
ก็เป็นความจริง
เรียกโลกิยธรรมกับโลกุตตรธรรม
ถ้าเราเข้าใจความจริงของโลก
เราก็อยู่กับโลกอย่างมีความสุข
ถ้าเราเข้าใจความจริงในโลกุตตระ
เรามีความสุขที่ไม่อิงอาศัยคนอื่น
ไม่อิงอาศัยสิ่งอื่น ความสุขตัวนี้ยั่งยืน
1
ในขณะที่ความสุขในโลกนั้นไม่ยั่งยืน
ฉะนั้นเราทิ้งของซึ่งไม่สำคัญ แค่อาศัยอยู่
พออยู่พอกิน พอเลี้ยงชีวิต
ไม่มีภาระกับสังคมกับอะไรอย่างนี้
แค่นี้พอใจ อยู่ได้แล้ว
1
แต่ถ้ามีโอกาสรวยได้ก็ไม่เป็นไร
พอเรารวยแล้ว
เราก็จะได้ช่วยเหลือเจือจานคนอื่นได้เยอะขึ้น
นี่คืออุดมคติของชาวพุทธเรา
อย่างคนรวย ๆ แต่ก่อนไม่ได้เอาไปเสพอะไรมาก
เอาไปสร้างวัด สร้างโบสถ์ สร้างเจดีย์อะไร
ให้กลายเป็นที่ท่องเที่ยวทุกวันนี้
เหลือก็ไปสงเคราะห์คน
อย่างอนาถบิณฑิกะ
หุงข้าวแจกคนยากคนจนตลอดชีวิตเลย
ถึงชื่ออนาถบิณฑิกะ ผู้มีก้อนข้าวให้คนอนาถา
อนาถบิณฑิกะไม่ใช่ชื่อแก แกชื่อสุทัตตะ
แต่เป็นฉายาแก เป็นผู้มีก้อนข้าวให้กับคนอนาถา
รวยได้ไหม รวยได้ แต่ไม่ใช่รวยแล้วโลภไม่รู้จักสิ้นสุด
เขารวยเพื่อจะได้มีโอกาสเจือจาน
ช่วยเหลือคนที่ยากลำบากกว่า
ในทางจิตใจก็พัฒนาของตัวเองไป
ฉะนั้นในทางโลกรู้จักพอ ส่วนที่เกินพอก็เจือจานคนอื่น
ในทางธรรมภาวนาจนมันพอ มันพอจริงๆ นะ
1
ภาวนาถึงจุดหนึ่งมันพอ
ตอนนี้ยังไม่พอก็ภาวนาต่อ ... "
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
28 สิงหาคม 2564
ขอบคุณรูปภาพจาก : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา