งานนี้เป็นงานของมาโมรุ โฮโซดะ ที่ดำเนินอย่างเนิบช้าและเรียบง่ายกว่าตัวหนังชุดก่อน ๆ อยู่มาก พลอยให้นึกถึงความเรียบง่ายปนไซไฟแบบ The Girl Who Leapt Through Time และ Summer Wars แต่กับ Wolf Children จะให้ความสำคัญกับการเติบโตของตัวละครอย่าง อาเมะ และ ยูกิ ที่ทำให้เราได้เห็นแง่มุมการเลี้ยงดูผ่านสายตาของผู้เป็นแม่ อีกทั้งตัวหนังยังพูดถึงตัวตนของคนผ่านความแฟนตาซีเหนือจริงอย่างการมีอยู่ของมนุษย์หมาป่าได้อย่างเฉียบคมมาก ๆ
ธีมหลักอันแข็งแกร่งที่ส่องผ่าน Wolf Children ก็คือความรัก ที่ก่อกำเนิดจากความรักบริสุทธิ์ของชายหญิงสองคน แม้ด้วยสายพันธ์ที่แตกต่างอาจจะอยู่ความเหนือจริงไปบ้าง แต่เราก็เชื่อมั่นเหลือเกินว่าความรักที่พวกเขามีล้วนจับต้องได้และมีอยู่จริง ฮานะ ที่เป็นตัวแทนของซิงเกิ้ลมัมผู้แบกรับความรับผิดชอบในการดูแลลูกน้อยสองคนในสภาพแวดล้อมที่สงบเงียบ ก็ต้องเตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่ลูกน้อยเหล่านั้นมี สิ่งหนึ่งสิ่งเดียวที่ทำให้การรับชม Wolf Children จบลงด้วยหยาดน้ำตา ก็คือบทสรุปที่แสนสวยงาม ที่ผู้เป็นแม่อย่าง ฮานะ ที่ผ่านอุปสรรคนานานัปการ ทั้งในแง่ของการเป็นหญิงแกร่งและแม่เลี้ยงเดี่ยว ยอมรับในตัวตนของลูกน้อยเหล่านั้น ไม่ว่าเส้นทางเดินของพวกเขาจะเป็นเช่นไรก็ตาม และคนเป็นแม่ก็จะเฝ้ามองดูพวกเขาเติบโตอยู่ไม่ห่าง
สรุปแล้ว Wolf Children คือแอนิเมชั่นแฟนตาซีอีกเรื่องของโฮโซดะที่พูดถึงมุมมองความรักผ่านความสัมพันธ์ของแม่ลูก ผ่านความเหนือจริงของการเลี้ยงดูลูกครึ่งมนุษย์ครึ่งหมาป่าที่แสนอบอุ่น เนื้อหาของการเติบโตและเปลี่ยนแปลงผ่านพ้นวัยที่เล่าได้งดงาม อีกทั้งยังแสดงให้เห็นสายใยรักของแม่ ที่พร้อมจะเฝ้ามองดูการเติบโตของลูก ที่แสนจะน่าประทับใจ