23 ก.ย. 2021 เวลา 00:08 • ปรัชญา
พระมหาครูบา ฮุ่ยเหนิง ตอนที่ 8
🌀ยังไม่เห็นแจ้ง ในจิตเดิมแท้🌀
ทันทีที่เขียนโศลกคำกลอน ตรงผนังระเบียงหน้ากุฏิ
ของ พระธรรมจารย์หงเหยิ่น เสร็จ
เสินซิ่ว ก็รีบเดินกลับเข้าห้องพักของตน
โดยมิมีใคร รู้เห็นการกระทำดังกล่าวแม้แต่น้อย
1
" ถ้าพรุ่งนี้ อาจารย์เห็นโศลกของเรา
แล้วบังเกิดความพึงพอใจ
ก็แสดงว่า เราพอที่จะมีบุญสัมพันธ์
1
แต่ถ้าท่านปฏิเสธ ด้วยเห็นว่า
เรายังไม่ถึงขั้นเห็นแจ้งในจิตเดิมแท้
ก็คงได้แต่โทษตัวเราเองที่ยังลุ่มหลง
ยังจมปลักอยู่ในวัฎฎะเวรกรรม
แลมิอาจได้รับการถ่ายทอดธรรมอันลึกซึ้ง ... "
1
" ... วิถีธรรมแห่งพระอริยะ
ช่างยากเย็นแสนเข็ญ
เกินกว่าจะคาดคะเนได้เสียจริงเชียว "
1
เสินซิ่ว ได้แต่ครุ่นคิด อยู่แต่ในห้อง
หลังจากที่ได้กลับมาถึงที่พัก
จะนั่ง จะนอน ก็ล้วนไม่เป็นสุข
แม้ผ่านพ้นยามห้าไปแล้วก็ตาม
1
...
...
ครั้งเมื่อถึงรุ่งเช้า พระธรรมจารย์หงเหยิ่น
ผู้ดำรงความเป็น พระสังฆปริณายกองค์ที่ห้า
ซึ่งทราบดีอยู่ก่อนแล้ว
ว่า เสินซิ่ว ยังก้าวไม่ถึงฝั่งประตูแห่งการสดับธรรม
ยังไม่อาจเห็นแจ้งในจิตเดิมแท้
1
จึงได้ให้ศิษย์คนหนึ่งไปเชิญท่านหลูเจิน
จิตรกรหลวงแห่งราชสำนัก
มาเตรียมการที่จะวาดภาพตรงผนังระเบียงทางเดิน
1
กระทั่งเมื่อ พระธรรมจารย์หงเหยิ่น
พร้อมด้วยท่านหลูเจิน
เดินมาถึงตรงระเบียงทางเดินทิศใต้
พลันได้เห็นโศลกที่ถูกเขียนไว้ข้างผนัง
1
ท่าน จึงได้กล่าวต่อท่านหลูเจินว่า
" รบกวนท่านเดินทางมาเสียไกล
แต่สุดท้าย ก็ไม่ต้องเขียนภาพข้างผนังแล้ว
จริงอย่างที่วัชรสูตร ได้กล่าวไว้
ว่า สรรพสิ่งใดๆ ที่มีรูปลักษณ์
ล้วนเป็นอนิจจังและมายาทั้งสิ้น
เห็นที คงไม่ต้องวาดภาพใดๆ แล้วละท่าน "
1
พระธรรมจารย์หงเหยิ่น กำชับสั่งให้ศิษยานุศิษย์ท่องโศลกตรงข้างผนัง
ด้วยความที่ พระธรรมจารย์หงเหยิ่น ปรารถนา
ที่จะให้โศลกดังกล่าว ยังคงปรากฏอยู่บนผนัง
เพื่อให้ผู้คนทั้งหลายได้ศึกษาปฏิบัติ
จึงได้ละโครงการวาดภาพบนผนัง
1
โดยให้ศิษย์สาวกฝึกปฏิบัติบำเพ็ญตามโศลก
เพื่อมิต้องจมตกอยู่ในทุคติภูมิ
บังเกิดอานิสงส์แก่ผู้ฝึกฝนนั้นเกินคณานับ
1
ท่านจึงได้สั่งให้นำธูปเทียนมาจุดบูชา
อีกทั้งกำชับสั่งให้ศิษย์ทุกคนท่องโศลกบทนี้
เพื่อพิจารณา เห็นชัดถึงจิตเดิมแท้ของแต่ละคนเอง
1
ซึ่งบรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย
ที่ได้ท่องโศลกคำกลอนข้างผนัง
ต่างก็พากันสรรเสริญอนุโมทนากันทั่วหน้า
1
จนเมื่อถึงเวลาดึกดื่นปลอดคน
ช่วงยามสามเที่ยงคืน
พระธรรมจารย์หงเหยิ่น ก็ได้สั่งให้ เสินซิ่ว
เข้ามาหาที่กุฏิ ไต่ถามเพื่อความกระจ่างชัด
ว่าเป็นคนที่แต่งโศลกคำกลอนนั้น ใช่หรือไม่
1
เสินซิ่ว จึงได้ตอบรับไปตามความเป็นจริง
พร้อมกับบอกความนัยที่ซุกซ่อนอยู่ภายในใจ ว่า
1
" ศิษย์ มิได้มีเจตนาที่จะเห่อเหิม บังอาจ
ในตำแหน่งสังฆปริณายก
เพียงแต่หวัง ให้ท่านเมตตา
ช่วยบอกให้ศิษย์ได้ทราบบ้าง
ว่า ศิษย์พอที่จะมีแววแห่งปัญญาญาณ
แม้เพียงเล็กน้อยบ้างหรือไม่ เท่านั้นเอง "
1
...
...
หลังจากฟังความนัยของ เสิ่นซิ่ว จนจบ
ครบถ้วนทุกกระบวนความที่อยากเผยแล้ว
พระธรรมจารย์หงเหยิ่น ก็ได้กล่าวตอบกลับไป ว่า
" อันโศลกที่เจ้าเขียนนั้น
ยังมิได้รู้แจ้งในจิตภาวะเดิมแท้
อยู่แค่นอกๆ ประตูธรรมเท่านั้น
หาได้ก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปไม่ ... "
1
" ... การแสวงหาปัญญาญาณแห่งวิมุตติ
เพื่อบรรลุในอนุตตรสัมมาสัมโพธินั้น
เป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ
1
เจ้า จงกลับไปเสียเถิด
แต่งโศลกมาเสียใหม่
แล้วค่อยนำมาให้อาตมาดู ในภายหลัง ... "
" ... หากสามารถเข้าสู่ประตูธรรมได้จริง
อาตมาก็จะส่งมอบบาตร จีวร แลสังฆาฏิ
พร้อมด้วยวิถีธรรมให้แก่เจ้าเอง "
1
...
...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา