1. คำถามให้ตอบสาระสำคัญ (Gist-Content & Gist-Purpose) มีสองแบบคือสาระสำคัญของเนื้อหาซึ่งถามให้ตอบหัวใจสำคัญหรือประเด็นหลักของการบรรยาย/บทสนทนา ส่วนการถามสาระสำคัญของจุดมุ่งหมายนั้นต้องการให้ตอบว่าการสนทนา/การบรรยายนั้นเกี่ยวข้องหรือทำเพื่ออะไร ผู้สอบจะสังเกตคำถามแบบนี้ได้จากวลีเช่น Mainly about, Mainly discussing, Why does the student …?, What is the main purpose…? เป็นต้น
2. คำถามให้ตอบลงรายละเอียด (Detail) นั้นตรงไปตรงมา คือถามเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ผู้สอบได้ยินในการบรรยายหรือการสนทนานั้น คำถามแบบนี้จะมีวลีเช่น What is หรือ According to เป็นต้น
4. คำถามให้ตอบทัศนคติ (Attitude) นั้นต้องการคำตอบว่าผู้พูดรู้สึกหรือคิดอย่างไรเกี่ยวกับบางสิ่ง ตัวอย่างคำถามเช่น What is the professor's attitude ?, What does the student think about…? และ What can be inferred…? ซึ่งหากผู้สอบเข้าใจบทสนทนาก็จะรู้ว่าผู้พูดมีทัศนคติหรือความรู้สึกอย่างไร
ผู้เชี่ยวชาญของ ETS แนะนำว่า
กุญแจสำคัญเกี่ยวกับทัศนคติของผู้พูดที่เราจะได้ยินจากเสียงสนทนาคือวลีเช่น What I think... หรือ It seems to me… เป็นต้น
5. คำถามให้ตอบการเรียบเรียง (Organization) นั้นใช้ทดสอบว่าผู้สอบเห็นเค้าโครงของหัวข้อการบรรยายหรือการสนทนาและเข้าใจที่มาที่ไปของเนื้อหาในบทสนทนาหรือไม่ ตัวอย่างของคำถามแบบนี้ได้แก่ Why does the professor mention…? หรือ Why does the professor discuss…? โดยคำถามมักเกี่ยวข้องกับการยกตัวอย่างเพื่ออธิบายเนื้อหาบางประเด็น
7. คำถามให้ตอบการอนุมานหรือลงความเห็น (Inference) ต้องการคำตอบที่เป็นความหมายแฝงซึ่งในการบรรยายหรือการสนทนาไม่ได้พูดบอกไว้ ต้องอาศัยการตีความ ตัวอย่างคำถามเช่น What are the implications of …?, What does the professor imply…? หรือ What can be inferred…?
Strategies for Success: Taking Notes at the University Level เป็นแนวทางการจดเล็คเชอร์หรือจดบันทึกขณะฟังบรรยายสำหรับนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยซึ่งนำมาประยุกต์ใช้ได้กับการสอบฟัง