Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คีตาแห่งสยาม
•
ติดตาม
2 ต.ค. 2021 เวลา 04:57 • หนังสือ
✴️ บทที่ 1️⃣ ความท้อแท้ของอรชุน (ตอนที่ 43) ✴️
🌸 “สังข์” : พลังสั่นสะเทือนภายในสนามของการต่อสู้ในสมาธิ 🌸
⚜️ โศลกที่ 1️⃣5️⃣➖1️⃣8️⃣ ⚜️ (ตอนที่ 4)
หน้า 130 –133
❇️ อุปมาการเนรมิตสร้าง “ในฐานะภาพยนตร์จักรวาล” ❇️
#การให้ภาพเปรียบเทียบ_อาจช่วยอธิบายความลึกซึ้งของโศลกคีตาที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ได้ : ชนเผ่าโบราณที่ไม่เคยสัมผัสกับอารยธรรมยุคใหม่ และได้ดูภาพยนตร์ที่มีเสียงพูดเป็นครั้งแรก อาจเชื่อได้อย่างง่าย ๆ ว่าภาพที่เคลื่อนไหวอยู่นั้นเป็นมนุษย์จริง ๆ
⏺️ วิธีเดียวที่จะทำให้เขาเชื่อได้ว่าภาพที่กำลังพูดอยู่นั้นไม่เป็นอะไรมากไปกว่าการทำงานของฟิล์มกับพลังสั่นสะเทือนของไฟฟ้า ก็ด้วยการนำเขาเข้าไปใกล้จอ แล้วให้เขาจับเงาภาพ เขาจะได้เข้าใจธรรมชาติที่ลวงตานี้
⏺️ อีกวิธีหนึ่งที่จะให้การศึกษาแก่เขาว่าภาพที่กำลังพูดอยู่นั้นเป็นการแสดงของเสียงกับเงา ก็ด้วยการให้เขาได้ดูฟิล์มภาพยนตร์พร้อมกับอุปกรณ์ทั้งหลาย ตลอดจนวิธีการที่แสงไฟส่องจากเครื่องฉายเป็นลำแสง แล้วไปปรากฏเป็นรูปทรงนานาที่เหมือนจริงบนจอ
สำหรับ ‘พวกวัตถุนิยม’ แล้ว “โลกทั้งโลก” — ความซับซ้อนที่ประกอบด้วย ของแข็ง ของเหลว ไฟ อากาศธาตุ และอื่น ๆ — เสมือนประกอบด้วยสสารที่เป็นสิ่งจริง “ก็ฉันเห็นมันอย่างนี้นี่ มันต้องเป็นความจริงสิ”
แต่ ‘โยคีผู้ก้าวไกล’ ผู้ซึ่ง “การหยั่งรู้ตนได้หยั่งเข้าไปถึงต้นธารภายในของสสารทั้งหลาย” อาจกล่าวได้ว่า : “โลกนี้ จักรวาลนี้ #เป็นเพียงเงาของชีวิตที่ทาบอยู่บนจอว่าง และ #สะท้อนอยู่ในห้องแห่งจิต_และจิตสำนึกของเรา”
◾ ‘โลก’ และ ‘จักรวาล’ คือ “เงาชีวิตที่ปรากฏบนจอว่าง”◾
เช่นเดียวกับที่เราเห็นแสงไฟจากเครื่องฉายภาพยนตร์ส่องสว่างอย่างไม่มีภาพใด ๆ อยู่ในแสงนั้น แต่ภาพลี้ลับก็ไปปรากฏบนจอ — “พระเจ้า” ก็เช่นกัน #ทรงปล่อยแสงมหาศาลจากศูนย์กลางแห่งอนันตภาพ_ผ่านเข้าไปในแผ่นฟิล์มมายาของธรรมชาติ #ทำให้เกิดภาพเสมือนจริงอย่างไม่จบสิ้น_บนจอว่าง แต่ภาพทั้งหลายเหล่านั้น #ล้วนเป็นเงามายา
🛑 “สิ่งจริงเพียงอย่างเดียว” คือ ‘พระเจ้า’ กับ ‘จิตปัจเจกของพระองค์’ #ในรูปทรงนานาที่เราเห็น_กำลังมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน_ในละครมายาแห่งจักรวาล
เมื่อ “โยคีหลับตามองเข้าไปในความมืดภายใน” #ท่านจะเห็นแหล่งกำเนิด_แสงทิพย์หกแห่ง_ภายในกาย — (1)จักระก้นกบ (2)จักระกระเบนเหน็บ (3)จักระบั้นเอว (4)จักระลำตัว (5)จักระคอ และ (6)จักระร่วมท้ายสมองกับวิญญาณจักษุ
‘ตลอดแนวไขสันหลัง’ และ ‘ที่ฐานของสมอง’ กับ ‘ที่จุดระหว่างคิ้ว’ #ท่านเห็นว่า_ภาพจริงของกายท่าน_เกิดจาก 1️⃣ ‘กระแสธาตุดิน’ ที่จักระก้นกบ 2️⃣ ‘ธาตุน้ำ’ ที่กระเบนเหน็บ 3️⃣ ‘ธาตุไฟ’ ที่บั้นเอว 4️⃣ ‘ธาตุลม’ ที่ลำตัว 5️⃣ ‘อากาศธาตุ’ ที่คอ และ 6️⃣ ‘จิตกับพลังสั่นสะเทือนแห่งชีวิต’ ที่ท้ายสมอง กับที่วิญญาณจักษุ
เช่นเดียวกับที่ ‘ลำแสง’ บนจอทำให้เกิด ‘เสียง’ ที่ต้นกำเนิดของมัน ซึ่งเกิดจากพลังสั่นสะเทือนของไฟฟ้า — ‘จักระบนไขสันหลัง’ ก็ปล่อย ⏺️ “เสียงดนตรี” ออกไปพร้อม ๆ กับการปล่อย ⏺️ “พลังปราณกระแสชีวิต“ #ที่ทำให้เกิดภาพหลากสีสันบนกาย ซึ่งเป็น ‘สิ่งที่เห็น’ ‘ลิ้มรส’ ‘ได้ยิน’ ‘ได้กลิ่น’ และ ‘สัมผัสได้จริง’
เมื่อ ‘เพ่งที่จักระ’ ทั้ง 6️⃣ นี้ #ผู้ภักดีที่ทำสมาธิ_จะได้ยินเสียงดนตรีต่อเนื่องกันไป เสียงเหมือน ‘เสียงผึ้ง’ ‘เสียงขลุ่ย’ ‘เสียงพิณ’ ‘เสียงฆ้อง’ ‘เสียงทะเลคำรน’ และ ‘เสียงดุริยางค์ของเสียงทิพย์ทุกเสียงนั้น’ — สิ่งที่จักระทั้ง 6️⃣ ปล่อยออกมา ก็คือ #พลังสั่นสะเทือนของ_ธาตุทั้งห้าในธรรมชาติ #ทั้งในมหาจักรวาล_และในจุลจักรวาลกายมนุษย์
◾พลังสั่นสะเทือนของธาตุทั้ง 5️⃣ ‘ก่อให้เกิดกาย’ และ ‘หล่อเลี้ยงกาย’◾
1️⃣ “พลังชีวิตธาตุดินในจักระก้นกบ” #มีหน้าที่ทำให้_ปฐมปราณรวมตัวเป็นอณูของเนื้อหนัง_และทำให้เกิดกลิ่น ขณะทำงานอยู่นั้น จักระนี้จะปล่อยเสียงเหมือน ‘เสียงผึ้ง’
2️⃣ “ธาตุน้ำในจักระกระเบนเหน็บ” #หล่อเลี้ยงอณูของธาตุน้ำในกาย_มีหน้าที่รู้รส ขณะทำงานจะเกิดเสียงดนตรีเหมือน ‘เสียงขลุ่ย’
3️⃣ “ธาตุไฟในจักระบั้นเอว” #ดำรงแสงไฟทิพย์_และอุณหภูมิของกาย_มีหน้าที่ทำให้เกิดการเห็น – กิจกรรมที่ประกอบด้วย ‘เสียงพิณไพเราะ’
4️⃣ “ธาตุลมที่จักระลำตัว” #เพิ่มออกซิเจน_และพลังปราณในกาย_เพื่อรวมกับเซลล์กาย #มีหน้าที่เกี่ยวกับอินทรีย์สัมผัส ขณะทำงานจะทำให้เกิดเสียงเหมือน ‘เสียงฆ้องหรือเสียงระฆัง’
5️⃣ “อากาศธาตุที่จักระคอ” #ดำรงอากาศธาตุในกาย_และให้จังหวะการสั่นสะเทือนทั้งหลาย ‘พลังสั่นสะเทือนที่ละเอียดนี้’ คือ #จอ_ที่ปรากฏของภาพกายและธรรมชาติทั้งหลาย “จักระคอ” #ทำให้เกิดการได้ยิน การสะท้อนพลังสั่นสะเทือนของจักรวาลเป็น ‘เสียงมหาสมุทรคำรน’
6️⃣ “จักระร่วมท้ายสมองกับปัญญาจักษุ” (จิตแห่งพระคริสต์) #เป็นไดนาโมของจิต_พลังชีวิต_และธาตุสั่นสะเทือนทั้งหลาย — ‘ศูนย์ชีวิตอันประเสริฐนี้’ เติมชีวิตและจิตให้แก่ไดนาโมน้อย ๆ อื่น ๆ ในพลังสั่นสะเทือนของธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม และอากาศธาตุ ‘ที่ดำรง’ เนื้อหนัง เลือด น้ำในกาย ความร้อน ออกซิเจน พลังชีวิต และ กิจกรรมของอากาศ ธาตุในกาย★
★กิจกรรมอันซับซ้อนของอากาศธาตุที่จักระบนไขสันหลัง จะอธิบายอย่างละเอียดในบทที่ 13:1
🛑 พูดอีกอย่างได้ว่า “ร่างกาย” ไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็น❗ #มันเป็นผลรวมอันซับซ้อนของการรวมตัว_ระหว่างกระแสที่ออกมาจากจักระทิพย์ ทั้ง 6️⃣ และ #กระแสเหล่านี้ก็ออกมาจาก ‘🕉️โอม’ พลังสั่นสะเทือนแห่งการสร้างสรรค์จักรวาล ในลักษณะ ของ ‘ภาพฝันในภาพยนตร์แห่งจักรวาล’
“ผู้แสวงหาทางจิตวิญญาณ” กระตือรือร้นที่จะไขปริศนาความเร้นลับของ “ร่างกาย” จะเข้าใจสิ่งนี้ได้ #เมื่อเขาหันเหความสนใจจากร่างกาย_ไปที่ฐานภายใน ทั้ง 6️⃣ #ที่ปล่อยกระแสทั้งหก_และทำให้เกิดภาพของร่างกาย
เมื่อมี ‘ความรู้เกี่ยวกับกระแส’ ทั้ง 6️⃣ แล้ว ประกอบกับ ‘การปฏิบัติสมาธิหลาย ๆ ปี’
▶️ โยคีก็จะเรียนรู้ว่า : “ร่างกายไม่ใช่ก้อนแข็ง” #แต่เป็นการสำแดงของ_แสงสั่นสะเทือน
▶️ ทั้งยังจะเข้าใจได้อย่างถูกต้องว่า : แท้ที่จริงแล้ว “เซลล์กาย” คือ #พลังอะตอม_จากกระแสพลังชีวิตและพลังทิพย์ #ซึ่งเกิดจาก_กระแสความคิด_และพลังเหตุ (จิต) อีกทีหนึ่ง
🌟 และทุกอย่างเหล่านี้ คือ :
🔼 “จิตจักรวาล” #ที่มีอัตราการสั่นสะเทือน_แตกต่างกัน หรือ
🔼 “จิตแห่งพระเจ้า” #ที่ทรงสุบิน_แตกต่างกัน
🛑 เมื่อ ‘การรับรู้นี้’ กลายเป็นส่วนหนึ่งของ ‘การหยั่งรู้ตน’ — โยคีจึงสามารถ “ควบคุมทุกการทำงานของกาย” #จนถึงขั้นที่สามารถ_สร้าง_หรือสลายกาย_ได้ตามเจตจำนงของท่าน★
★ดร. พอล เดวี่ส์ นักฟิสิกส์ชาวออสเตรเลีย ผู้ได้รับรางวัล Templeton Prize for Progress in Religion เมื่อ ค.ศ. 1995 ได้เขียนไว้ในหนังสือ Superforce (New York: Simon and Schuster, 1984) ว่า :
“คนที่จริงจังอย่างไร้ประสีประสามองว่าจักรวาลคือวัตถุที่รวม ๆ กันอยู่ แต่ ‘ควอนทัมฟิสิกส์’ เห็นจักรวาลเป็นโยงใยของแบบแผนพลังสั่นสะเทือนที่ไม่อาจแยกจากกัน ไม่มีส่วนใดเป็นเอกเทศแท้จริง และ ‘ผู้สังเกต’ ก็รวมอยู่ในความเป็นทั้งหมดนั้นด้วย”
ศาสตราจารย์ ไบรอัน ดี. โจเซฟสัน แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์เมื่อค.ศ. 1973 ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับระบบปรัชญาฮินดูโบราณว่า :
“เวทานตะ กับ สางขยะ คือกุญแจไขสู่กฎแห่งจิตและกระบวนการคิด ซึ่งสอดคล้องกับศาสตร์ควอนทัม เช่น การทำงาน และการแตกตัวของสสารในระดับอะตอมและโมเลกุล”
มีตัวอย่างมากมายเกี่ยวกับอำนาจของโยคีผู้ก้าวหน้า — ผู้เป็นนายเหนือโยคะศาสตร์ ซึ่งปฏิบัติ ตามปัญญาแห่งเวทานตะและสางขยะ — ที่ได้นำมากล่าวถึงใน ‘อัตชีวประวัติของโยคี’ รวมถึงบท “ครรลองแห่งปาฏิหาริย์”
{หมายเหตุผู้จัดพิมพ์}
🔸สรุป : ‘เสียงสั่นสะเทือนของอินทรีย์’ กับ ‘พลังวิญญาณ’🔸
จึงขอสรุปความสำคัญของเสียงสังข์ของฝ่ายปาณฑพตามโศลกในคีตาดังนี้ :
🔽 มนุษย์ที่สนใจแต่วัตถุจะได้ยินแต่เสียงของโลกภายนอก — 🔼 ทว่าใน “สงครามจิตใจ” และ “สงครามอภิปรัชญา” ระหว่าง ‘อหังการ’ กับ ‘สหัชญาณวิญญาณ’ ‘อินทรีย์’ กับ ‘พลังวิญญาณ’ ที่สู้รบกัน #ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนอย่างมหาศาล_เพื่อเอาชนะจิตของผู้ภักดีที่กำลังภาวนา
✴ขณะบำเพ็ญสมาธิภาวนา✴
⏺️ “แรกสุด” ความสนใจของผู้ภักดีจะละไปจากอาณาจักรเสียงทางกายภาพในโลกวัตถุ จากนั้นความสนใจจะไปอยู่ที่เสียงนานาที่เกิดจากกิจกรรมภายในของร่างกาย เช่น การไหลเวียนของเลือด การสูบฉีดโลหิตของหัวใจ และลมหายใจที่สับสน ‘เสียงเหล่านี้ได้ยินชัดเจนและส่งเสียงรบกวน’
⏺️ เมื่อบุคคลอยู่ในสมาธิอย่างเต็มที่ เมื่ออยู่ใน “สมาธิลึก” ผู้ภักดีจะพ้นจากเสียงกายภาพ และเมื่อเขาเข้าสู่อาณาจักรทิพย์ เขาจะเริ่มได้ยิน ‘เสียงสั่นสะเทือนนานาของปราณทิพย์’ (เหมือนเสียงสังข์ หรือเสียงดนตรีที่ก้องกังวาน) : เสียงผึ้ง เสียงขลุ่ย เสียงพิณ เสียงฆ้อง เสียงทะเลคำราม และทิพยดุริยางค์
⏺️ #เมื่อติดตามเสียงเหล่านี้ไป_เขาจะกำหนดที่อยู่ของ_จักระชีวิต_และจิตได้ — เมื่อ “กำหนดจุดได้” ไม่ช้าเขาจะ ‘ค่อยๆเห็นสิ่งเหล่านั้น’
🛑 การจะทำอย่างนี้ได้ต้อง “ใช้เวลาปฏิบัติสมาธิหลายปี” ภายใต้พรและการแนะนำของอาจารย์ผู้ก้าวหน้า และสุดท้ายเมื่อโยคี ▶️ ‘เห็นจักระทั้งหลาย’ และ ▶️ ‘ยกจิตผ่านจักระเหล่านี้ตามขั้นตอนต่าง ๆ ของสมาธิแล้ว’ — เท่ากับท่านได้ไข #ปริศนาความเร้นลับของกาย และรู้ในที่สุดว่า #มันเป็นแค่รูปแบบการสั่นสะเทือนของแสง_ที่ถูกสร้างทำขึ้นมานั่นเอง
(มีต่อ)
หนังสือ
บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ภควัทคีตา เล่ม 1 บทที่ 1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย