8 ต.ค. 2021 เวลา 10:30 • การเกษตร
What are the different varieties of cacao?
ช็อกโกแลตหรือโกโก้ที่เราดื่มกันนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากผลคาเคาเหมือนกัน ซึ่งเราจะพาไปทำความรู้จักกันถึงต้นคาเคาหรือต้นโกโก้ที่มักเรียกกัน ว่ามีสายพันธุ์อะไรบ้าง และมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?
ต้นคาเคาหรือต้นโกโก้ที่เรารู้จักนั้นเป็นพืชสกุล Theobroma ซึ่งปลูกเป็นจำนวนมากในเชิงการค้าของประเทศต่าง ๆ มีหลายชนิดย่อย (Sub species) แต่เนื่องจากทั้งหมดมีจำนวนโครโมโซมเท่ากัน คือ 2n = 20 จึงสามารถผสมสายพันธุ์กันได้ ปัจจุบันได้มีการแบ่งออกเป็น 3 สายพันธุ์หลักๆ
พันธุ์คริโอลโล (Criollo)
1. พันธุ์คริโอลโล (Criollo)
เป็นสายพันธุ์ที่มีรสชาติและกลิ่นหอมที่โดดเด่น เป็นพันธุ์ที่ใช้กับอุตสาหกรรมช็อกโกแลตที่มีคุณภาพสูง แต่คาเคาในกลุ่มนี้ปลูกไม่กว้างขวางนัก เพราะการเจริญเติบโตไม่ค่อยดี ต้นอ่อนแอและมักถูกโรคแมลงรบกวนได้ง่าย จึงไม่เป็นที่นิยมปลูก ส่วนมากสายพันธุ์นี้จะปลูกในแถบอเมริกา
ลักษณะของผล : มีผลค่อนข้างใหญ่ เปลือกบางนิ่ม ก้นผลยาวแหลม ผิวของผลขรุขระเป็นร่องลึก
สีของผล : มีผลสีแดงหรือสีเขียวและเมื่อสุกจะกลายเป็นสีเหลือง
เมล็ด : เมล็ดกลมใหญ่มีสีม่วงจนถึงสีขาว (White bean)
แหล่งปลูกสำคัญ : แม็กซิโก นิคารากัว โคลอมเบีย และประเทศในทวีปอเมริกากลาง-ใต้
พันธุ์ฟอรัสเทอร์โร (Forastero)
2. พันธุ์ฟอรัสเทอร์โร (Forastero)
เป็นสายพันธุ์ที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก มีจำนวนมากถึง 80% ของต้นคาเคาทั้งหมด เนื่องจากให้ผลผลิตที่สูง แข็งแรงทนทานต่อโรคและการรบกวนของแมลง แต่เรื่องรสชาติและกลิ่นจะไม่ดีเท่ากับสายพันธุ์คริโอลโล มีทวีปแอฟริกาใต้เป็นแหล่งปลูกที่สำคัญ และสามารถแบ่งย่อยสายพันธุ์เป็น 2 กลุ่มคือ
2.1 พันธุ์เวสท์อัฟริกันอมีโลนาโด (West African Amelonado)
พบได้ทั่วไปสามารถผสมพันธุ์ตัวเองได้ ให้ผลผลิตที่ดี ข้อเสียคือคาเคาสายพันธุ์นี้ไม่ทนทานต่อโรค ยอดและกิ่งแห้ง
ลักษณะของผล : ผลยาวเปลือกหนา ก้นผลมน
สีของผล : มีผลสีเขียวและเมื่อสุกจะกลายเป็นสีเหลือง
เมล็ด : เมล็ดแบนกว่าพันธุ์ คริโอลโล เนื้อเมล็ดมีสีแดงเข้มหรือสีม่วงเข้ม
แหล่งปลูกสำคัญ : ประเทศในทวีปแอฟริกาใต้
2.2 พันธุ์อัพเปอร์อเมซอน (Upper Amazon)
เจริญเติบโตได้ดี ให้ผลผลิตสูง แข็งแรงทนทานต่อการรบกวนของโรคและแมลงบางชนิด แต่ไม่สามารถผสมตัวเองได้
ลักษณะของผล : ขนาดผลจะคล้ายกับพันธุ์เวสท์อัฟริกันอมีโลนาโด
สีของผล : มีผลสีเขียวและเมื่อสุกจะกลายเป็นสีเหลือง
เมล็ด : มีขนาดเล็กกว่าพันธุ์เวสท์อัฟริกันอมีโลนาโด เนื้อเมล็ดมีสีม่วงเข้ม
แหล่งปลูกสำคัญ : ประเทศในทวีปแอฟริกาใต้
พันธุ์ทรินิทาริโอ (Trinitario)
3. พันธุ์ทรินิทาริโอ (Trinitario)
เป็นพันธุ์ที่เข้าใจว่าเกิดจากการผสมกันระหว่าง Criollo กับ Forastero ข้อดีของสายพันธุ์นี้ คือ มีรสชาติและความหอมของโกโก้ซึ่งได้รับมาจาก Criollo และยังแข็งแรงต้านโรค ให้ผลผลิตดีอีกด้วย
ลักษณะของผล : ก้นผลยาวแหลม ผิวของผลขรุขระเป็นร่องลึก
สีของผล : มีผลสีเขียวหรือสีแกมแดงเมื่อสุกจะมีผลสีแดงอมม่วง
เมล็ด : เมล็ดมีขนาดใหญ่ มีสีม่วงเข้มจนถึงสีขาว
แหล่งปลูกสำคัญ : ทวีปอเมริกาใต้และทวีปเอเชีย
และทั้งหมดนี้ก็เป็นสายพันธุ์ของคาเคาหลักๆ ซึ่งปัจจุบันสายพันธุ์โกโก้ที่ปลูกเพื่อใช้ในเชิงการค้านั้นส่วนมากแล้วจะเป็นลูกผสมแทบทั้งสิ้นนี้ เนื่องจากโกโก้ลูกผสมนั้นได้รับการปรับปรุง แก้ไข จุดด้อยของสายพันธุ์ให้ดีขึ้นกว่าพันธุ์ที่มีอยู่เดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเจริญเติบโต การให้ผลผลิต คุณภาพและขนาดเล็ก ความทนทานต่อโรคและแมลง สำหรับในประเทศไทยเองก็มีการขึ้นทะเบียนรับรองพันธุ์พืชเช่นกัน เช่น สายพันธุ์ “โกโก้ลูกผสมชุมพร1” นั่นเอง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
- โทร. 081-979-9565 ต่อ 2 Bluekoff Showroom
- Inbox Facebook : http://m.me/bluekoff
#Bluekoff #Cacao #Cocoa #โกโก้ #คาเคา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา