9 ต.ค. 2021 เวลา 05:59 • หนังสือ
✴️ บทที่ 1️⃣ ความท้อแท้ของอรชุน (ตอนที่ 45) ✴️
🌸 ผู้ภักดีเห็นศัตรูผู้จะถูกทำลาย 🌸
⚜️ โศลกที่ 2️⃣0️⃣➖2️⃣3️⃣ ⚜️ (ตอนที่ 1)
หน้า 134 – 138
🌸 ผู้ภักดีเห็นศัตรูผู้จะถูกทำลาย 🌸
โศลกที่ 2️⃣0️⃣➖2️⃣3️⃣
2️⃣0️⃣ เมื่อเห็นธฤตราษฎร์ราชบุตรเตรียมพร้อมจะรบสู้ปาณฑพ (อรชุน) ซึ่งถือธงรูปหนุมาน ได้ยกธนูขึ้น และกล่าวแก่หฤษีเกศ (กฤษณะ)
2️⃣1️⃣▪️2️⃣2️⃣ อรชุนกล่าว : ข้าแต่ องค์อัจยุต (กฤษณะผู้ไร้การเปลี่ยนแปลง) โปรดเคลื่อนรถของข้าพเจ้าเข้าไประหว่างกองทัพของทั้งสองฝ่าย ให้ข้าพเจ้าได้เห็นพลโยธาที่เตรียมพร้อมก่อนการศึก ข้าพเจ้าจะได้รู้ว่าต้องชิงชัยกับผู้ใด
2️⃣3️⃣ ณ ทุ่งนี้ (กุรุเกษตร) ข้าพเจ้าต้องการเห็นทุกคนที่มาประชุมกัน และฮึกเหิมพร้อมสู้อยู่ฝ่ายเดียวกับราชบุตรชั่วของธฤตราษฎร์ (ทุรโยธน์)
ขณะทำสมาธิ ปาณฑพ (พุทธิปัญญาฝ่ายจิต) เห็นความขุ่นเคืองของจิตต่อความยินดีในทิพยดนตรีของผู้ภักดี ผู้ภักดีจึงยกธงรูปหนุมานแห่งการควบคุมตน สัญลักษณ์การควบคุมความว้าวุ่นของบุคคล — ⏺️เขายืดหลัง ⏺️นั่งตรง ⏺️คอตั้ง ⏺️ดันไหล่ไปข้างหลัง ⏺️แอ่นอกมาด้านหน้า ⏺️แขม่วท้อง 🧘ท่านั่งที่แนวสันหลังโน้มมาข้างหน้า ไม่แอ่นไปข้างหลัง เรียกว่า “#สมาธิธนู” ซึ่งขึ้นสายพร้อมจะต่อสู้กับอินทรีย์ทั้งหลาย❗
▶️ “ในกิจกรรมทางกายทุกอย่าง” #มนุษย์ส่งความคิด_และพลังจากสมอง_ไปที่กายภายนอก ‘อหังการจึงพัวพันอยู่กับวัตถุ’
⏩ “ในทุกช่วงขณะแห่งการบำเพ็ญสมาธิภาวนา” #มนุษย์ส่งความคิด_และพลังชีวิต_จากอินทรีย์จักระ_ไปสู่สมอง
สำหรับผู้ที่มีความช่ำชองด้านจิตวิญญาณ “ตราหนุมาน” เป็นสัญลักษณ์แสดงถึง ‘การควบคุมความคิดที่ว้าวุ่นสับสน’ — ด้วยการฝึกจิตตามวิธีที่อาจารย์สอน คือ #การหันเหพลังปราณ_จากอินทรีย์ภายนอกไปสู่ท้ายสมอง
การกำหนดท่า ‘เกจรีมุทรา’ พร้อมกันไปด้วยก็จะช่วยได้มาก ‘เกจรีมุทรา’ คือ การให้ปลาย “ลิ้นน้อย” (ลิ้นไก่ - ขั้วลบ) แตะกับปลายลิ้นปกติ (ขั้วบวก) การฝึกนี้ถ้าอยู่ภายใต้การแนะนำของอาจารย์โยคีที่เชี่ยวชาญ เช่น ผู้ที่มีความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณใน ‘กริยาโยคะ’ — #จะสามารถหันเหกระแสชีวิตที่ยึดวัตถุไปสู่พระเจ้า
◾“ท่ากายที่ถูกต้อง” : สิ่งสำคัญที่ทำให้การทำสมาธิประสบความสำเร็จ◾
🧘 #สิ่งประกอบสำคัญ_ที่ทำให้การทำสมาธิประสบความสำเร็จ คือ “ท่ากายที่ถูกต้อง”
💢 “แนวสันหลังโค้งจะทำให้ข้อกระดูกสันหลังผิดปกติ” เพราะมันจะกดประสาทในระบบประสาทหลัก ๆ — ความผิดปกตินี้ทำให้ ▶️‘เห็นอารมณ์แห่งการภาวนาได้ไม่ชัดเจน’ ▶️‘กระแสปราณไหลไปสู่สมองได้ช้า’ ▶️‘การเผยให้เห็นบรมวิญญาณก็จะช้าไปด้วย’
💢 เช่นเดียวกับเมื่อเราบีบท่อยางตรงส่วนกลางของมัน น้ำจะไหลไปข้างหน้าก็ไม่ได้ ไปข้างหลังก็ไม่ได้ — “ประสาทบนไขสันหลังที่ถูกกดไว้” ก็เช่นกัน #ย่อมไม่สามารถนำพลังที่จะทำให้เกิดการรับรู้ที่ชัดเจนมาสู่อินทรีย์ได้ และในระหว่างการทำสมาธินั้น “ประสาทไขสันหลังที่ถูกกดไว้” #ก็จะขัดขวางพลังจากอินทรีย์ไปสู่สมองด้วย
💢 ดังนั้น ผู้ภักดีที่ “นั่งหลังงอทำสมาธิ” #จะได้ผลทางจิตวิญญาณน้อย “หลังที่งอ” คือ ‘ธนูคันหัก’ ไม่สามารถป้องกันเขาจากความสับสนกระวนกระวาย
💢 เมื่อเขาพยายามจะเพ่งที่ ‘จุดระหว่างคิ้ว’ เขาจะพบว่า #จิตของเขาผูกอยู่กับกระแสประสาท_ที่ไหลออกไปสู่ผัสสอินทรีย์ เมื่อ “ประสาทถูกกด” เสียแล้ว #พลังชีวิตก็ไม่สามารถ_ไหลกลับไปสู่จักระบนไขสันหลังได้
💢 ผู้ภักดีที่พยายาม “เข้าสู่ความเงียบ” อย่างขาดวิธีการทางวิทยาศาสตร์ #จะทำให้สำเร็จไม่ได้_ตราบใดที่กระแสพลังปราณยังไหลลงล่างไปสู่ผัสสอินทรีย์
✨ ‘โยคี’ ผู้ได้ฝึกฝนตามหลักโยคะศาสตร์ #รู้วิธีที่จะถอนพลังชีวิต_ทั้งจากจิต_และจากอินทรีย์ เมื่อพลังชีวิตกลับไปที่ไขสันหลัง อายตนะทั้งห้า รูป เสียง กลิ่น รส และ สัมผัส #ก็จะดับไปอย่างอัตโนมัติ “จิตจะไม่ถูกอินทรีย์รบกวน”
🧘เมื่อทำให้ “หลังตรง” และยกธงควบคุมตนแล้ว ผู้ภักดีจะกำหนดให้ #กระแสปราณไหลสู่ภายในผ่านไขสันหลัง_เข้าสู่สมองใหญ่ที่อยู่ของบรมวิญญาณ นี่คือภาวะที่ปาณฑพ (วิญญาณปัญญา) กล่าวแก่ภควันกฤษณะ หรือบรมวิญญาณ (ในที่นี้เรียกด้วยนาม หฤษีเกศ “พระเจ้าผู้อยู่เหนืออินทรีย์”) — ภาวะซึ่งปัญญาของผู้ภักดี พร้อมที่จะ ยิงขีปนาวุธ คือ “สมาธิมั่น” เข้าใส่ความคิดสับสนที่ก่อการกบฏขึ้น
✨ ในภาวะที่ ‘รู้ตัวอย่างเต็มที่’ นี้ ผู้ภักดีสวดภาวนา “ข้าแต่พระวิญญาณ ผู้ทรงประทับอยู่บนราชรถสหัชญาณในจักระไขสันหลัง โปรดช่วยให้ข้าพเจ้าได้เห็นกองทัพของทั้งสองฝ่ายที่เตรียมพร้อมประจัญบาน เพื่อให้ข้าพเจ้าได้เข้าใจศัตรูที่ข้าพเจ้าต้องชิงชัยด้วยเถิด”
‘มหาภารตะ’ บอกเราว่า ในการยุทธ์ระหว่าง ปาณฑพฝ่ายธรรมะ กับ เการพฝ่ายอธรรมนั้น กฤษณะเป็นสารถีให้อรชุน หนึ่งในพี่น้องปาณฑพ การตีความอุปมาอุปไมยนี้ก็คือ : เมื่อการควบคุมตนอย่างร้อนแรง (อรชุน) พร้อมที่จะโรมรันกับกองทัพผัสสอินทรีย์ — “บรมวิญญาณ” (กฤษณะ) กลายมาเป็นสารถีของผู้ภักดี หรือ เป็นอำนาจชี้นำ “บรมวิญญาณแสดงตนในสหัชญาณแห่งวิญญาณ” หรือ #ภาพสะท้อนของบรมวิญญาณ_ในมนุษย์แต่ละคน
◾2️⃣ ขั้นตอนของ “สมาธิยุทธ์ภายใน”◾
1️⃣ ในขั้นแรกของการปฏิบัติสมาธินั้น “จิตของผู้ภักดี” #ผูกพันอยู่กับมนินทรีย์อย่างไม่อาจถอนตนออกมาได้ “จิตของเขา” #เพ่งอยู่ที่เสียงฝ่ายวัตถุ_และความคิดที่สับสน — เขาอกสั่นขวัญหนีเมื่อได้เห็นกองกำลังมหาศาลของความว้าวุ่นสับสนที่ขัดขวางจิตต่างดาหน้าเข้ามาหาเขา และในการต่อสู้ระหว่าง ‘กองทัพอินทรีย์อันว้าวุ่น’ กับ ‘กองทัพวิญญาณ ความสงบ และปัญญาญาณ’ 💢ผู้แสวงหาทางจิตวิญญาณ “แต่เพียงผิวเผิน” นับล้าน ๆ คน ไม่เคยผ่าทางตันนี้ไปได้เลย💢
2️⃣ ผู้แสวงหาทางจิตวิญญาณที่ “ชนะสงครามในจิตใจในขั้นแรก” จึงจะเข้าสู่สมาธิขั้นที่สอง นั่นคือ : สงครามอภิปรัชญา #ที่จิต_และพลังชีวิตของเขา_มารวมกันที่จักระไขสันหลัง เขาเห็นตนเองในฐานะนักรบในสนามรบบนไขสันหลัง — สนามรบระหว่าง ‘จิตวิญญาณ’ กับ ‘จริตของจิต หรือ ผัสสอินทรีย์ในรูปแบบที่ซับซ้อน’
เมื่อการต่อสู้จะเริ่มต้น ⏺️ ผู้ภักดีรู้สึกได้ว่าตนถูกฉุดไปหา ‘ผัสสะจริตที่จักระไขสันหลัง’ ⏺️ และพร้อม ๆ กันนั้นก็ถูกฉุดไปสู่ ‘กองทัพวิญญาณภายในด้วย’ — ตอนนี้เองที่ผู้ภักดีจะติดต่อกับ “บรมวิญญาณอันสงบภายในตัวเขา” และอ้อนวอนขอให้ทิพยอำนาจนั้นเคลื่อนรถแห่งสหัชญาณเข้าไปในระหว่าง ‘ทิพยรับรู้อันประณีต’ กับ ‘อินทรีย์รับรู้ของอินทรีย์สัมผัส’ ผู้ภักดีหวังว่า ด้วยความช่วยเหลือจาก “บรมวิญญาณ” เขาจะสามารถรวบรวม #พลังสมาธิ_สู้กับ_อำนาจของความฟุ้งซ่านได้
💢 ถ้าอินทรีย์เป็นฝ่ายชนะ #ผู้ภักดีย่อมตกเป็นทาสของเนื้อหนังและแพ้ในการศึกนั้น
🌟 แต่ถ้าพลังปัญญาฝ่ายวิญญาณชนะ #ผู้ภักดีจะเข้าสู่อาณาจักรบรมวิญญาณอันสงบได้ลึกมากขึ้น
🌟 ภาวะนี้เป็นขั้นตอนที่ 3️⃣ ของสมาธิ — “เป็นสมาธิลึกที่ให้ความเกษม” #ที่ผัสสอินทรีย์ใดๆ_แทบไม่อาจมารุกรานให้จิตนี้มีอันตรายได้เลย
(มีต่อ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา