18 ต.ค. 2021 เวลา 23:08 • นิยาย เรื่องสั้น
เมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศรอบด้านนั้นสงบลง ไม่มีลมที่พัดแรง และร่างกายก็ไม่ได้ถูกดูดไปข้างหน้าเหมือนอย่างตอนแรกแล้ว ฉันจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น ด้วยความสับสนในอารมณ์ของตัวเอง ว่าทำไมฉันถึงได้รู้สึกแบบนี้
1
ก่อนหน้านี้ฉันเคยรู้สึกเสียใจและหดหู่มาก เหมือนสูญเสียอะไรบางอย่างที่สำคัญไป แต่ตอนนี้ฉันกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร ฉันจำไม่ได้
ฉันมองไปรอบด้านด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าทำไม ฉันถึงได้มาอยู่ที่นี่ ฉันมองไปที่ผู้ชายสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของฉัน อย่างไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งๆ ที่เราไม่เคยรู้จักกัน แต่ฉันกลับสัมผัสได้ว่าผู้ชายทั้งสองคนนี้รักฉันมาก
คนหนึ่งฉันรู้สึกว่าเขารักฉัน แต่ความรู้สึกของฉัน มันไม่ถึงกับรักเขา แต่พวกเราอยู่ด้วยกัน เพราะฉันเห็นภาพที่ฉันใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับเขา เข้ามาในหัวของฉัน เขาเป็นผู้ชายที่ดีมาก และเป็นคนดี มีภูมิฐาน หน้าตาหล่อเหลาออกมาทางคมเข้ม ผิวสีแทน ทรงไทยแท้ไปเลย
ส่วนอีกคนเขามากับผู้หญิงผิวดำ น่าจะเป็นคนแอฟริกา ตัวค่อนไปทางเจ้าเนื้อ แต่เป็นคนสวย เหมือนทั้งคู่จะเป็นคนรักกัน แต่ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเขารักฉันมากๆ และคอยตามฉันกับผู้ชายอีกคนแจ
ถึงเขาจะดูหล่อเหลา แต่ทรงของเขาก็เหมือนคนเจ้าเล่ห์ ดูเจ้าชู้ และไม่ค่อยน่าไว้ใจ หน้าตาของเขาออกไปทางทรงแขกขาว ผิวขาว จมูกโด่ง ตาโต คิ้วคม ดูแล้วเป็นตัวล่อของพวกสาวสวยดีๆ นี่เอง แต่ของเขาคงดีจริงแหละ แม่สาวผิวเข้มคนนี้ ถึงได้ตัวติดเขาแจเป็นตังเมขนาดนี้
ฉันไม่รู้ว่าฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร รู้แค่ว่า ฉันต้องไปที่ที่หนึ่ง เพื่อจะผ่านประตูมิติเข้าไป ฉันรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน และไปยังไง เพราะภาพพวกนั้นมันยังคงวนเวียนเข้ามาในหัวของฉัน
“ฉันจะต้องไปที่นั่น” ฉันหันไปพูดกับผู้ชายคนแรก
“ไปไม่ได้นะ!! มันอันตราย” ผู้ชายคนที่สองพูดขึ้น
“แต่ฉันจะไป! ฉันต้องเข้าไปที่นั่น เพราะที่ผาน้ำตกนั้นเป็นทางเดียวที่จะทำให้ฉันข้ามมิติไปที่นั่นได้” ไม่รู้ทำไม ฉันถึงรู้สึกว่าเคยไปสถานที่แห่งนั้นแล้ว ภาพเก่าๆ วนเวียนเข้ามาในหัวไม่หยุด ฉันจำได้ว่าตัวเองเคยไปที่นั่นมาสองรอบแล้ว ถึงรอบก่อนๆ ที่ไป จะไม่ได้เข้าไปในผาน้ำตกนั้นก็ตาม
“แต่ตอนนี้น้ำขึ้น เพราะน้ำป่ากำลังไหลหลาก เธอจะไปไม่ได้ ฉันไม่ให้ไป!! มันอันตราย” ผู้ชายคนที่สองพูดขึ้น
“งั้นนายก็ไม่ต้องไปสิ อยู่กับแฟนนายนี่แหละ ฉันจะไปเอง”
“ฉันจะไปกับเธอ ราตรี” ชายหนุ่มคนแรกพูดขึ้น ชายหนุ่มคนที่สอง ที่ได้ยินก็เงียบไป
ตอนนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดี ที่แอ่งน้ำนี้ มีน้ำป่าไหลหลากแรงมาก เลยทำให้น้ำขึ้นสูง และการที่จะไปถึงสถานที่แห่งนั้นได้ จะต้องผ่านแอ่งน้ำถึงสามแอ่ง และจะต้องผ่านแอ่งน้ำเส้นนี้แอ่งเดียวเท่านั้น ถึงจะไปถึงแอ่งน้ำแอ่งอื่นต่อได้ ผู้ชายคนที่สองเดินเข้ามาส่งฉันกับผู้ชายคนแรกด้วยสีหน้า ที่ไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก ถึงแม้จะมีสาวผิวเข้มคอยเดินตามประกบมาด้วยก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้หน้าที่บูดบึ้งของเขานั้นดีขึ้นเลย
ฉันมองน้ำที่ซัดขึ้นซัดลงกระทบกับพื้นหินอย่างแรง ด้วยความเหนื่อยใจ ก่อนที่จะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดมิดอย่างหมดแรง แล้วถอนหายใจหนักๆ ออกมา ทำไมน้ำป่าถึงต้องมาตอนนี้ด้วยนะ น้ำก็ไหลแรงจะไม่ไปตอนนี้ก็ไม่ได้ ถ้าไม่ไปต้องไม่ทันแน่ๆ
“น้ำมันไหลแรงเกินไป อย่าไปเลยนะ” ผู้ชายคนที่สองพูดขึ้นมาอีกครั้ง ฉันที่ได้ยินก็ได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธไปเท่านั้น
ด้วยความที่สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว จึงมีผู้คนพลุกพล่าน เดินผ่านไปผ่านมา ถึงแม้ตอนนี้แอ่งน้ำจะลงไปไม่ได้ เพราะมีน้ำป่าไหลหลาก แต่ยังไงฉันก็คงต้องเสี่ยงลองไปดู
สถานที่รอบด้านของแอ่งน้ำ นั้นมีทิวทัศน์ที่สวยงาม มีต้นไม้น้อยใหญ่ทำให้ดูร่มรื่น มีดอกไม้ขึ้นตามทางอยู่เต็มไปหมด ส่วนพื้นที่รอบด้านที่ใกล้แอ่งน้ำจนยาวลงไปถึงในน้ำ ก็มีโขดหินเล็กใหญ่อยู่เต็มไปหมด แอ่งน้ำนั้นเป็นทางยาวไปข้างหน้า น้ำไหลไล่ยาวไปเรื่อยๆ ต่อกันไปจนถึงผาน้ำตกหินขนาดใหญ่ ที่ฉันจะต้องไป
ตอนนี้ที่แอ่งน้ำถูกเจ้าหน้าที่เอาสายเชือกมาปิดกั้นเอาไว้ เพื่อไม่ให้ผู้คนลงไปเล่นน้ำ เนื่องจากมันอันตรายเกินไป เพราะน้ำป่าไหลหลาก จึงทำให้น้ำขึ้นสูง ไหลแรงและเชี่ยวมาก
ฉันกับผู้ชายคนแรกจึงแอบย่องเข้าไปใกล้ๆ แอ่งน้ำนั้น ที่ข้างๆ มีชูชีพ ห่วงยาง และกระดานยางเล็กๆ ที่เอาไว้ให้คนลงเล่นน้ำ วางกองรวมกันเอาไว้อยู่ โดยมีผู้ชายคนที่สองเดินตามเข้ามาอย่างกระสับกระส่าย สายตาคู่นั้นจ้องมองมาที่ฉันไม่เคลื่อนไปไหน
ทั้งๆ ที่ฉันรู้ว่าผู้ชายคนนั้นไม่สามารถไปได้ เพราะเขามีสาวผิวดำคอยยืนคุ้มเชิงเอาไว้อยู่ แต่ไม่รู้ทำไม ในใจของฉันกลับรู้สึกว่าอย่างไรเขาก็ต้องตามฉันไปอยู่ดี
ฉันกับผู้ชายคนแรกเดินเข้าไปหยิบเสื้อชูชีพที่เหมือนห่วงยางป่องๆ เป็นพลาสติกพองๆ อันใหญ่ ขึ้นมาสวมแขนทั้งสองข้างเข้าไป โดยที่เอาด้านหลังมาไว้ด้านหน้า แล้วเอาด้านหน้าที่เปิดอ้าไปไว้ด้านหลัง แล้วรีบกระโจนลงน้ำไปทันที โดยมีผู้ชายคนแรกกระโดดลงน้ำตามมาติดๆ
ตู้มมม ตู้มมมมม…
ทันทีที่ตัวของฉันสัมผัสน้ำ ฉันก็รู้สึกเย็นสะท้านไปทั้งตัว น้ำแอ่งนี้เย็นเฉียบบวกกับหินที่อยู่ใต้น้ำ ยิ่งทำให้น้ำแอ่งนี้เย็นสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ
เมื่อฉันกระโดดลงน้ำ ยิ่งทำให้ผู้ชายคนที่สองกระสับกระส่ายเพิ่มมากขึ้น เขาหันไปมองสาวผิวดำ ที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา ด้วยความลังเล
ตู้มมมมม…พอผู้หญิงคนนั้นเผลอ เขาก็กระโดดลงน้ำ ว่ายตามฉันกับผู้ชายคนแรกออกมาทันที
พวกเรารีบว่ายน้ำออกมาจากริมแอ่งน้ำทันที เพราะตอนนี้ที่ริมแอ่งน้ำนี้ กำลังเกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อมีเสียงของสาวผิวดำกรีดร้องออกมาเสียงดัง จนทำให้มีเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณนั้นวิ่งเข้ามาดู จนทุกคนรู้ว่ามีคนกระโดดลงน้ำไป เสียงพูดประสานงานและเป่านกหวีดเสียงดังมาก ผู้คนรุมล้อมกันเต็มไปหมด แต่ก็ไม่มีใครกล้ากระโดดลงน้ำตามมา ได้แต่ยืนมองพวกเราว่ายน้ำออกไป
ฉันพยายามว่ายน้ำให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะนำทางพวกเขาทั้งสองคนไปข้างหน้า ร่างกายของฉันลอยตามกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวบวกกับแขนที่รีบจ้วงว่ายน้ำไปข้างหน้าด้วย เลยยิ่งทำให้ฉันว่ายน้ำได้เร็วมากยิ่งขึ้น ฉันมองไปเห็นสายไฟพาดอยู่ข้างหน้าไม่ไกล เปิดช่องทางให้พวกเราว่ายผ่านไปได้ไม่ใหญ่มาก กว้างเพียงแค่หนึ่งช่วงแขนเท่านั้น
“ข้างหน้ามีสายไฟ!! ตอนว่ายผ่านไประวังด้วยนะ อย่าให้ตัวไปโดนสายไฟ” ฉันตะโกนบอกพวกเขาเสียงดังลั่น เพราะกลัวพวกเขาจะไม่ได้ยิน
เมื่อว่ายผ่านมาได้แล้ว ฉันก็รีบหันหลังกลับไปมองทันที เห็นผู้ชายคนที่สองกำลังจ้วงแขนว่ายน้ำเข้ามาใกล้ฉัน และมีผู้ชายคนแรกที่กำลังว่ายน้ำผ่านช่องทางนั้นตามมา แต่แขนข้างซ้ายของเขา ที่กำลังว่ายผ่านมานั้น กลับปัดเข้าไปโดนสายไฟเส้นนั้นเข้าอย่างจัง จึงทำให้เขาโดนไฟดูด ตัวชักเกร็ง ทำเอาฉันที่เห็นภาพตรงหน้า ตาเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจ รีบออกตัวว่ายเข้าไปหาตัวเขาทันที แต่ว่ายออกไปได้แค่หนึ่งช่วงแขนเท่านั้น ชายคนที่สองก็ว่ายเข้ามาหาฉัน และดึงตัวของฉันเอาไว้ทันที
“ปล่อย!!!” ฉันพูดขึ้น แล้วหันไปมองผู้ชายคนแรกด้วยความเป็นห่วง
“อย่าเข้าไป รออยู่ตรงนี้แหละ” ผู้ชายคนที่สองพูดขึ้น แล้วจับตัวของฉันที่พยายามดิ้นไม่หยุด ฉันเห็นผู้ชายคนแรกตัวเกร็งชักอยู่สักพักหนึ่ง ถึงจะดิ้นตัวหลุดออกมาได้ แล้วว่ายน้ำเข้ามาหาฉันอย่างอ่อนแรง
เมื่อผู้ชายคนที่สองเห็นผู้ชายคนแรกหลุดออกมาจากสายไฟได้แล้ว เขาก็ยอมปล่อยตัวของฉันออกมา ฉันรีบว่ายเข้าไปพยุงร่างที่อ่อนล้าของเขาทันที
“เป็นยังไงบ้าง!! ไหวไหม” ชายคนแรกที่ได้ยินก็หันมาพยักหน้ารับ แล้วส่งยิ้มมาให้
“ไหวๆ แค่รู้สึกแขนมันชาๆ ล้าๆ เหมือนไม่มีแรงเฉยๆ รีบไปต่อกันเถอะ” ฉันพยักหน้ารับ แล้วว่ายน้ำนำทั้งสองคนออกไปทันที เมื่อเห็นว่าชายคนแรกไม่เป็นอะไรแล้ว เขาไล่ให้ฉันว่ายนำไปต่อไม่ต้องมาพยุงเขา
เส้นทางน้ำแห่งนี้ค่อนข้างลึกและกว้างใหญ่ แต่ทางนั้นจำได้ง่าย แค่ว่ายตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว ฉันว่ายนำตรงไปข้างหน้า และหันไปมองข้างหลังเป็นระยะๆ ด้วยความเป็นห่วงผู้ชายคนแรก แต่ก็สบายใจไปได้หน่อย เมื่อเห็นว่าเขายังว่ายน้ำตามมาอยู่ ถึงแม้ว่าจะว่ายรั้งท้ายก็ตาม
“ว่ายต่อไป ไม่ต้องสนใจ ฉันแค่รู้สึกล้าเท่านั้นเอง ว่ายนำไปก่อนเลย เดี๋ยวตามไป” ชายคนที่หนึ่งตะโกนบอกฉัน เมื่อเห็นว่าฉันหันไปมองเขาหลายรอบ ฉันมองเขาอีกครั้งด้วยความลังเล ก่อนที่จะเลือกทำตามที่เขาบอก เมื่อเห็นเขาพยักหน้าส่งมาให้
ฉันว่ายน้ำจนมาถึงสุดทางของน้ำ ที่เท้าสามารถแตะถึงพื้นได้แล้ว จึงรีบเดินขึ้นไปจากน้ำทันที แล้วหันหลังกลับไปมองทางน้ำที่เพิ่งเดินขึ้นมาเมื่อกี้ เห็นผู้ชายคนที่สองว่ายน้ำตามมาอยู่ไม่ไกล แต่ไม่เห็นผู้ชายคนแรกที่ว่ายน้ำรั้งท้ายตามมาเลย ฉันมองไปด้านหลังด้วยความเป็นห่วงปนกระวนกระวายใจ เมื่อเห็นว่าไม่มีวี่แววของเขาแม้แต่น้อย ใจมันก็หายวาบ รู้สึกไม่ดีเลย แต่ฉันก็พยายามคิดในแง่ดี และมองหาเขา
“แล้วอีกคนล่ะ! ไปไหนแล้ว!? ” ฉันถามผู้ชายคนที่สองทันทีที่เขาขึ้นมาจากน้ำ
“ฉันไม่รู้ ว่ายๆ อยู่เขาก็หายไป”
“นายอยู่ด้านหลัง ทำไมไม่ช่วยมอง ถ้าเกิดเขาหมดแรง หรือจมน้ำไป จะได้ช่วยทัน” ฉันพูดแล้วเดินลงน้ำไปทันที แต่เดินลงไปได้ไม่ถึงสามก้าว แขนของฉันก็ถูกผู้ชายคนที่สองรั้งเอาไว้ แล้วดึงขึ้นมาจากน้ำทันที
“เราต้องรีบไปกันแล้ว เดี๋ยวจะไม่ทัน ส่วนผู้ชายคนนั้น เขาเอาตัวรอดได้ ยังไงเดี๋ยวเขาก็ตามมา”
“แต่เขาโดนไฟดูดนะ!! เขาอ่อนแรงมาก เราต้องรีบกลับไปดู” ฉันพูดแล้วพยายามดึงแขนตัวเองให้หลุดออกมาจากมือของเขา
“ไม่ต้องไป ถ้าเขารอดมาได้ เดี๋ยวก็ตามมาเองแหละ เราต้องไปแล้ว”
“ไม่!!! ฉันจะไปดูเขาก่อน” ฉันพูดขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด เมื่อเห็นว่าผู้ชายคนที่สองรั้งแขนฉันเอาไว้ ไม่ยอมปล่อยสักที
“ไปได้แล้ว!! เดี๋ยวมันจะไม่ทัน ถึงลงไปตอนนี้ ถ้ามันจมน้ำจริงๆ ยังไงมันก็ไม่รอด เธอช่วยมันไม่ได้หรอก แม้แต่หาร่างของมัน ไม่รู้ว่าเธอจะหาเจอไหมด้วยซ้ำ แต่ถ้ามันรอด เดี๋ยวมันก็ตามมาเองแหละ”
“แล้วนายมายุ่งอะไรด้วยวะ ตามมาทำไม!!!” ฉันพูดออกไปทันทีด้วยความไม่พอใจ
“เธอก็รู้นี่!! ว่ายังไง ฉันก็ต้องตามเธอไปด้วยอยู่ดี ไม่ยอมปล่อยให้เธอไปเองหรอก” ผู้ชายคนที่สองดึงร่างของฉันเข้าไปประชิดตัวแล้วกอดเอาไว้ ก่อนจะพูดขึ้น
“ปล่อย!!!” ฉันรีบสะบัดตัวออกจากเขาทันที แล้วเดินนำเขาออกไปด้านหน้า
ใจหนึ่งก็เป็นห่วงผู้ชายคนที่หนึ่ง แต่มันก็จริงอย่างที่เขาพูด ถ้าเขาจมน้ำไปจริงๆ ยังไงตอนนี้ ฉันก็คงหาร่างของเขาไม่เจอแน่ๆ แต่ถ้าเขารอดมาได้ ยังไงเขาก็ต้องตามหาฉัน ฉันเชื่อแบบนั้น แต่ไม่รู้ทำไม ความรู้สึกของฉันมันถึงบอกว่า เขาต้องไม่รอดแล้วแน่ๆ ฉันได้แต่คิดอย่างเศร้าใจ
เดินออกมาจากแอ่งน้ำแอ่งที่หนึ่งมาได้สักพัก ก็เริ่มเห็นนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ เดินอยู่ตามทางเต็มไปหมด รอบปากทางลงไปในแอ่งน้ำที่สอง ก็มีเจ้าหน้าที่ล้อมอยู่
ฉันรีบเดินลัดเลาะไปตามทางโขดหินของทางน้ำเชี่ยว เดินเลาะไปข้างหน้าเรื่อยๆ ทันที เมื่อเห็นว่าหน้าปากทางลงไปที่แอ่งน้ำที่สอง ไม่สามารถลงไปได้ เพราะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าอยู่ ฉันจึงลัดเลาะไปตามทางน้ำ หาที่ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ เพื่อที่จะกระโดดลงไปในน้ำอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ จะมีเยอะมากจนเกินไป พวกเขาน่าจะกำลังตามหาตัวของฉันอยู่แน่ๆ คงได้รับแจ้งเรื่องที่มีคนกระโดดลงน้ำมา จากแอ่งน้ำแอ่งที่หนึ่ง ที่พวกฉันว่ายน้ำมาแน่ๆ
ฉันเดินเลาะโขดหินข้างทาง ไปข้างหน้าเพื่อหาทางลง โดยมีผู้ชายคนที่สองเดินตามหลังมาติดๆ พอฉันมองไปด้านข้างก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นงูเหลือมขนาดใหญ่ตัวเท่าขาได้ กำลังเลื้อยเข้ามาหาฉัน ฉันรีบวิ่งตรงไปข้างหน้า เพื่อหนีงูตัวนั้นทันที
“เฮ้ย!! นั่นไง อยู่ตรงนั้น” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่เห็นพวกฉันกำลังวิ่งอยู่ ตะโกนเสียงดังขึ้นมา แล้วชี้มาที่พวกฉัน ทำให้เจ้าหน้าที่คนอื่นที่ได้ยินหันมามองตามทันที
ตอนนี้ไม่ใช่แค่งูแล้วที่เลื้อยตามฉันมา แต่มีเจ้าหน้าที่อีกสองสามคนวิ่งตามฉันมาด้วย พอเห็นทางที่พอจะลงน้ำได้ ฉันก็รีบกระโดดลงไปในน้ำทันที
ตู้มมม…ตู้มมมมม
ฉันกระโดดลงน้ำมา โดยมีผู้ชายคนที่สอง กระโดดลงน้ำตามมาติดๆ ฉันหันหลังกลับไปมองด้านหลัง เห็นงูตัวนั้นกำลังจะเลื้อยลงมาในน้ำด้วยเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ ที่ตามหลังมาติดๆ พวกเขายืนดูพวกเราอยู่บนโขดหิน ไม่มีใครกล้ากระโดดลงน้ำตามพวกเรามาเลย ฉันจึงรีบหันหลังกลับมามองข้างหน้า แล้วออกตัวจ้วงแขนว่ายน้ำออกไปทันที เมื่อเห็นว่างูเหลือมตัวนั้น กำลังเลื้อยลงน้ำตามมา
“ไปกันเถอะ รีบไปได้แล้ว” ฉันพูดกับผู้ชายคนที่สองให้รีบว่ายน้ำตามมา
ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ น้ำมันเริ่มลึกและเชี่ยวกว่าเดิมมาก ยิ่งฉันว่ายเข้าไปใกล้มากขึ้นเท่าไหร่ บรรยากาศรอบด้านก็ยิ่งหนาวเย็น และวังเวงมากขึ้นเท่านั้น มองไปรอบด้านก็เห็นแต่โขดหินและแอ่งน้ำ ท้องฟ้าตอนนี้ก็เริ่มอึมครึมมากขึ้นกว่าเดิม ฉันรีบจ้วงแขนว่ายไปข้างหน้าให้เร็วขึ้น เมื่อความกลัวเริ่มเข้ามาปกคลุมในหัวใจ อีกไม่ไกลก็จะสุดทางแอ่งน้ำแอ่งนี้แล้ว
เมื่อขึ้นฝั่งมาได้ ฉันก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่ก็เริ่มเครียดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เมื่อนึกถึงแอ่งน้ำแอ่งสุดท้ายที่จะต้องผ่านมันไปให้ได้ เพราะผาน้ำตกหินขนาดใหญ่นั้น อยู่ในแอ่งน้ำนี้
ถ้าจำไม่ผิด แอ่งน้ำนี้จะมีจระเข้อยู่ในแอ่งด้วย แล้วเราจะผ่านมันไปได้ยังไง จะมีเรือไปไหม ที่ฉันจำได้ เมื่อครั้งก่อนๆ ที่มา แอ่งน้ำนี้เป็นแอ่งน้ำที่น่ากลัวที่สุด น้ำลึกและไหลเชี่ยวมากที่สุด แถมยังมีจระเข้อยู่ชุกชุมไปหมด.......
อ่านต่อเพิ่มเติม <มหาภัยพิบัติ7วันล้างโลก>
📍ตอนที่ ๑๑ ทางเชื่อมผ่านข้ามประตูมิติ📍 ได้ที่เว็บไซด์👇🏻👇🏻👇🏻
ReadAWrite รี้ดอะไร้ต์ 👉🏻 https://www.readawrite.com/c/1a8417d9566ae9cfae3ff7e81a6f86c5?preview=1
📌ฝากติดตามผลงานของพวกเราด้วยนะคะ 😘 ปล่อยให้อ่านฟรีทุกวันอังคาร และวันศุกร์ ตามเว็บไซด์ที่ได้แจ้งไว้ด้านบนเลยนะคะ
อ่านแล้วเป็นยังไงมาพูดคุยกันได้นะจ๊ะ 🥰 และติดตามเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก 👉🏻 https://www.facebook.com/pkm.tongchan
#มหาภัยพิบัติ7วันล้างโลก
#กัมปนาทต้องจันทร์
#pkmtongchan

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา