21 ต.ค. 2021 เวลา 04:06 • สุขภาพ
แครอทม่วง
หากพูดถึงแครอทเราก็มักจะนึกถึงแครอทที่มีสีส้ม ซึ่งแต่ก่อนนั้นแครอทมีสีม่วงหรือสีขาว ภายนอกจะเป็นสีม่วงแต่ภายในนั้นจะเป็นสีส้มอมเหลืองเหมือนกับแครอททั่วไป
แครอทม่วงมีถิ่นกำเนิดมาจากอัฟกานิสถาน
แครอทม่วง
แครอทม่วงมีสารอาหารกลุ่มฟีโนลิกมากกว่าแครอททั่วไป โดยเฉพาะแอนโทไซยานินซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของกลุ่มผักสีม่วง ทำหน้าที่ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ แครอทอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เช่น เบตาแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก
#สาระจี๊ดจี๊ด
ปริมาณแคลอรี่ของแครอทม่วงนั้นค่อนข้างต่ำ ซึ่งในแครอทดิบ 1 ถ้วย หรือ 128 กรัมให้พลังงานเพียง 52 แคลอรี่เท่านั้น
ประโยชน์ของแครอทม่วง
ยับยั้งการเกิดโรคมะเร็ง :
มีสารฟอลคารินอล (falcarinol) ซึ่งเป็นสารสำคัญในการช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง
บำรุงเรื่องผิวพรรณ :
ช่วยบำรุงให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีแคโรทีนอยด์ที่จะช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดไม่ให้ผิวไหม้ แก้ปัญหาความหมองคล้ำและเสริมสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญสำหรับความยืดหยุ่นของผิว ลดริ้วรอย ชะลอความแก่ มี essential oil ที่จะช่วยลดการเกิดสิว
ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ :
ช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจและภาวะหัวใจล้มเหลว และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบไหลเวียนของเลือด
ช่วยขับปัสสาวะ :
แครอทมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ
ดีต่อสายตา :
ช่วยบำรุงและรักษาสายตา รักษาโรคตาฟาง และต้อกระจก
บำรุงกระดูก :
จะช่วยบำรุงกระดูก รวมไปถึง ฟัน เหงือก และเล็บให้แข็งแรง
ลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน :
ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด
#สาระจี๊ดจี๊ด
แอนโทไซยานิน เป็นสารที่พบในดอกไม้ ผักและผลไม้บางชนิดที่มีสีตั้งแดงไปจนถึงน้ำเงินเข้ม (สีม่วง) จัดเป็น functional food มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันและโรคมะเร็ง ช่วยชะลอความเสี่ยงของเซลล์
#Wasabi ขอเพียงมีส่วนเล็ก ๆ ที่ช่วยให้คุณ!
“เจริญเติบโต ก้าวหน้า สำเร็จ อย่างภาคภูมิใจ”
#สาระจี๊ดจี๊ด #Wasabi #ความรู้ขึ้นสมอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา