11 พ.ย. 2021 เวลา 23:00 • นิยาย เรื่องสั้น
หลังจากที่ฉันกลับมาจากการไปสะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตา ชีวิตของฉันก็ดูสงบขึ้น ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว นี่ก็ผ่านวันที่ฉันได้ยินเสียงแตรเข้ามาในหูได้หกวันแล้ว แต่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้น ช่วงนี้ไม่มีอะไรมากวนฉันเหมือนก่อนหน้านี้เลย ฉันควรจะรู้สึกดีใช่ไหม แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่า มันเงียบเกินไปจนน่าแปลกใจ ยิ่งเงียบแบบนี้แหละยิ่งน่ากลัว
เช้านี้ฉันพาเจ้านมสดไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ บ้านคนเดียว เพราะไอ้ตะวันมันยังไม่ตื่น พวกเราเดินทอดน่องไปที่สวนสาธารณะอย่างสบายอารมณ์ ดูเหมือนเจ้านมสดมันจะชอบ เดินนำหน้าฉันสะบัดหางไปมาอย่างมีความสุขเชียวละ
เราเดินกันมาเรื่อยๆ จนกำลังจะพ้นออกไปจากซอย ผ่านหน้าบ้านคุณป้าของเจ้านมสด (ที่ตอนนี้บ้านถูกปิดตายไปแล้ว) เท่านั้นแหละ ฉันก็เห็นมันหยุดนิ่งแล้วจ้องมองไปที่บ้านหลังนั้นเงียบๆ
“กริ๊งงง…” ฉันยกมือที่ถือกระดิ่งอยู่ขึ้นมาเขย่า จนเจ้านมสดที่ได้ยินหันกลับมามองฉัน
“จะเศร้าไปทำไมนมสด ฉันเลี้ยงแกไม่ดีเหรอ” พอฉันพูดจบ มันก็ร้องครางหงิงออกมาเสียงเศร้าสร้อย แล้วเดินเอาหน้าเข้ามาชนมือของฉันที่ถือกระดิ่งอยู่ ฉันค่อยๆ ย่อตัวลงไปนั่งยองๆ แล้วเอามือลูบไปที่หัวของมันจนหางมันลู่ลง
“ถ้าฉันเลี้ยงดี ก็อย่าเศร้าไปเลย อยู่กับฉันนี่แหละ คุณป้าเขาไปสบายแล้ว อย่าให้เขาต้องมามีห่วงกับแกอีกเลยนะ” พอฉันพูดจบเจ้านมสดมันก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าฉัน ก่อนที่มันจะกระโจนขึ้นมาเลียที่ใบหน้าของฉัน
“เจ้านมสด! ฮ่า ฮ่า ฮ่า พอแล้วๆ ไม่เอาแล้ววว ไม่เล่นนะ หน้าฉันเปียกไปหมดแล้วเนี่ย มีแต่น้ำลายของแกแฉะเต็มไปหมด”
“โฮ่ง! โฮ่งๆๆ …” เจ้านมสดมันเห่ารับเหมือนรู้ความหมายที่ฉันพูดทุกอย่าง
“ฉลาดจริงๆ หมาใครเนี่ยย ฉลาดเหมือนเจ้านายเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ฉันพูดชมหมา ชมตัวเอง และก็หัวเราะออกไป
พอไปถึงสวนสาธารณะ ฉันก็ปลดเชือกที่จับจูงเจ้านมสดออก ปล่อยให้มันออกไปวิ่งเล่นได้อย่างอิสระ ส่วนตัวเองก็หาม้านั่งดีๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่นั่งดูมันวิ่งเล่นไปมาอย่างร่าเริง
ขณะที่ฉันกำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้น ก็มีลมพัดผ่านตัวของฉันไปวูบหนึ่ง พร้อมกับใบไม้ ที่ค่อยๆ ร่วงหล่นลงมาใส่ตัวของฉัน ฉันยื่นมือออกไปรับใบไม้ใบหนึ่งที่มันร่วงหล่นลงมาที่มือ พร้อมกับมีเสียงของชายปริศนาคนเดิมดังเข้ามาในหูของฉัน 'ใกล้แล้ว! การเตือนครั้งที่สองกำลังจะเกิด! ฟ้ากำลังจะมืด! เจ้าต้องหาประตูนั้นให้พบ! จำเอาไว้เจ้าต้องหาประตูนั้นให้พบ!!'
“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไง ว่าประตูนั้นมันอยู่ที่ไหน และต้องไปยังไง”
'เดี๋ยวพอถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง จำไว้หาประตูนั้นให้พบก่อนฟ้าสาง!! ก่อนฟ้าจะมืด ธรรมชาติจะส่งสัญญาณมาเตือน เจ้าจงสังเกตดูสิ่งรอบด้านให้ดี'
“ให้สังเกตอะไรล่ะ? ” ฉันถามออกไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมาแล้ว นอกจากความเงียบสงัด
หลังจากที่ฉันพาเจ้านมสดวิ่งเล่นจนหนำใจแล้ว ฉันก็พามันกลับบ้านเพื่อไปกินข้าวเช้า เจอไอ้ตะวันกำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ที่โต๊ะอาหาร โดยที่ตาของมันยังคงจ้องไปที่ข่าวในทีวี
“อ้าว! ไปไหนกันมาวะ นายหมาคู่นี้”
“พาเจ้านมสดไปยืดเส้นยืดสายที่สวนสาธารณะอะดิ แล้วมึงอะตื่นนานยัง”
“อือ...เพิ่งตื่นสักพักเอง”
ฉันไปหยิบน้ำมานั่งดื่มที่โต๊ะอาหารมองไปที่จอทีวี ที่ตอนนี้มีข่าว นกบินเต็มท้องฟ้ามาเป็นฝูง บางตัวพุ่งเข้าไปทำร้ายคน บางตัวพุ่งตกลงไปนอนตาย คนวิ่งหนีนกกันให้จ้าละหวั่น บางคนอยู่ที่ทำงานนกก็ยังพุ่งหลาวเข้าไปที่กระจกเหมือนพวกมันกำลังหนีอะไรบางอย่างมาแล้วคลุ้มคลั่ง
“น่ากลัวจังวะ!! กูว่าน่าจะใกล้เกิดภัยพิบัติแล้วแน่ๆ เลย” พอไอ้ตะวันได้ยินที่ฉันพูด มันก็หันขวับมามองหน้าฉัน
“อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ตั้งแต่ไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์มา มึงก็ไม่ได้ฝันไม่ได้เห็นอะไรแล้วไม่ใช่อ้อ”
“มันก็ใช่! แต่วันนี้กูได้ยินเสียงของชายปริศนาคนนั้นอีกแล้วอะ เขามาบอกกูว่าการเตือนครั้งที่สองกำลังจะมา แล้วฟ้าก็จะมืด เพิ่งมาเตือนเมื่อเช้านี้เองนะเว้ย เขาบอกว่าธรรมชาติจะส่งสัญญาณบอก ให้กูคอยสังเกตดู”
“แล้วการเตือนรอบที่สองนี่ มึงจะเป็นลมไปอีกไหม? ” ตะวันที่ได้ยินสิ่งที่ฉันพูดก็ทำสีหน้าเคร่งเครียด ถามขึ้นมาทันที
“ก็ไม่น่านะ อันนั้นหัวกูกระแทกกับขอบชั้นวางของด้วย ถ้าไม่กระแทกก็ไม่น่าจะสลบ แล้วก็สลบเว้ยยยสลบ! ไม่ได้เป็นลม”
“ขอให้มันจริงเถอะ กูกลัวมึงจะเป็นลมไปอีกนะสิ คราวนี้ถ้าฟ้ามืดขึ้นมาจริงๆ แล้วมึงเป็นลมไปอีก มึงคงต้องนอนที่บ้านแล้วนะ กูจะไม่พามึงไปโรงพยาบาลอีกแน่ๆ บอกเลยกูยังหลอนอยู่”
“ปอดแหกซะจริงๆ นะ ไอ้หอกหัก แล้วกูบอกว่าสลบไง! ไม่ได้เป็นลม! เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว เดี๋ยวมึงก็รู้เองแหละ ว่าจะเกิดไม่เกิด กลัวแต่เรื่องเป็นลมกะผีอยู่นั่นแหละ แล้วนี่มึงแพ็กกระเป๋าตามที่กูบอกหรือยัง”
“โอ๊ยยย คุณนาย กูแพ็กตั้งแต่ที่มึงบอกแล้ว ไม่แพ็กได้อ้อ เดี๋ยวมึงก็บ่นกูอีก แต่มึง...เอาจริงนะ ของที่เตรียมมันเยอะมากเลยนะมึง เดินแบกจริงๆ ก็คงมีหลังแอ่นกันบ้างอะ หนักพอตัวเลย”
“ไม่หรอก เดินๆ ไปเดี๋ยวมันก็เบาลงเองแหละ ของมันจำเป็นต้องใช้ทั้งนั้น”
“จ้า จ้า แล้วกูจะคอยดู ให้มันจริงเถอะ”
หลังจากที่พวกเราคุยกันจบ ก็ไปอุ่นข้าวมื้อเช้ากินกัน ฉันทำข้าวคลุกผัดผักให้เจ้านมสดเหมือนเคย เพราะมันชอบกินมาก เคยให้อาหารเม็ดมันแล้ว แต่มันก็กินนิดเดียวเอง เดี๋ยวนี้เลยเปลี่ยนมาให้แบบนี้แทน มันถึงจะกินเยอะขึ้น
“ตะวันกูว่าจะถามตั้งแต่วันที่สะเดาะเคราะห์และ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ถาม วันนั้นตอนสะเดาะเคราะห์ มึงเห็นอะไรบ้างไหมวะ? ”
“เอาจริงๆ นะ กูไม่อยากจะเล่าเลย ว่าวันนั้นกูเห็นอะไรบ้าง” ไอ้ตะวันที่ได้ยินฉันถามขึ้น มันก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วพูดขึ้น.......
อ่านต่อเพิ่มเติม <มหาภัยพิบัติ7วันล้างโลก>
📍ตอนที่ ๑๘ วันธรรมดาที่ไม่ค่อยธรรมดา📍 ได้ที่เว็บไซด์👇🏻👇🏻👇🏻
ReadAWrite รี้ดอะไร้ต์ 👉🏻 https://www.readawrite.com/c/3a50313ef8ec7a21c407f79561982843?page_no=1
📌ฝากติดตามผลงานของพวกเราด้วยนะคะ 😘 ปล่อยให้อ่านฟรีทุกวันอังคาร และวันศุกร์ ตามเว็บไซด์ที่ได้แจ้งไว้ด้านบนเลยนะคะ
อ่านแล้วเป็นยังไงมาพูดคุยกันได้นะจ๊ะ 🥰 และติดตามเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก 👉🏻 https://www.facebook.com/pkm.tongchan
#มหาภัยพิบัติ7วันล้างโลก
#กัมปนาทต้องจันทร์
#pkmtongchan

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา