Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
God Journey (การเดินทางของเหล่าพระเจ้า)
•
ติดตาม
29 ต.ค. 2021 เวลา 03:54 • หนังสือ
✴️ บทที่ 2️⃣ วัฏฏะแห่งชีวิต ✴️ (ตอนที่ 6)
“อีกไม่กี่นาทีนี้ หมอจะปลุกคุณให้ตื่นโดยกดมือลงบนหน้าผากระหว่างหัวคิ้วของคุณนะครับ พอหมอกดลงไป ให้คุณลืมตาตื่นขึ้นได้เลย คุณจะรู้สึกตื่นตัวเต็มที่ ควบคุมร่างกายและจิตใจของตัวเองได้หมด รู้สึกสดใสมาก รู้สึกดีมาก เบาสบายไปหมด เหมือนกับความหนักอึ้งถูกยกออกจากสองบ่าจนหมด เพราะความเศร้าเสียใจที่ต้องเสียพี่ชายไปในชาติภพนั้นหายไปหมดแล้ว คุณรู้ว่าเขาได้กลับมา คุณรู้สึกสงบสุขมาก ผ่อนคลายอย่างมาก แล้วก็ยังคุมตัวเองได้อย่างดีด้วย พอหมอกดหน้าผาก คุณสามารถตื่นขึ้นเต็มตาได้เลยนะครับ”
ผมกดหน้าผากแอนเดรีย เธอค่อย ๆ ตื่นขึ้นช้า ๆ
“ใช้เวลาได้เลยครับ ค่อย ๆ กลับมา คุณทำได้ดีแล้วครับ รู้สึกอย่างไรบ้างครับ”
“งงเลยค่ะ”
“งง” ผมย้ำคำเธอ เห็นใจเธอเลย ผมเองก็เพิ่งรู้ตัวว่าเหนื่อยมากเหมือนกัน แต่สมาธิของผมยังคงแน่วแน่อย่างยิ่ง “มันเข้มข้นมาก ต้องใช้อะไรเยอะ มันเป็นอย่างที่คุณเคยคิดไว้หรือเปล่าครับ”
“ดิฉันไม่รู้ว่าจะต้องคาดหวังอะไรบ้างนะคะ ดิฉันไม่คิดจริง ๆ ว่าจะได้เจอน้องชาย ตอนแรกเคยคิดว่าน่าจะได้เจอลูกสาวของดิฉัน แต่ลูก ๆ ก็ไม่เห็นอยู่ในชาตินั้นเลย ดิฉันรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดึงไปสู่อีกกาลเวลาหนึ่ง ชีวิตอีกชาติหนึ่ง แต่ก็ไปไม่ได้นะค่ะ ไปไม่ถึงจริง ๆ ดิฉันเห็นนะคะว่าอยู่ที่ไหนแต่ไปไม่ได้จริง ๆ”
“ภพที่สามหรือครับ❓”
“ใช่ค่ะ แต่ไม่ได้ไป”
“คุณรู้ไหมครับว่าเป็นยุคอะไร”
“ไม่รู้เลยค่ะ รู้แต่ว่าเป็นยุคก่อนทุ่งราบ แต่ก็ไปไม่ถึงตรงนั้น มันเหมือนกับมีกระแสแสงสีน้ำเงินที่มันเป็นกรวยอย่างเดียวแล้วก็จบตรงนั้น เหมือนกับแสงสีน้ำเงินช่วงแรกที่ห้อมล้อมรอบตัวดิฉัน แล้วก็เห็นเท้าค่ะ แต่แสงคราวนี้มัน...ดิฉันเห็นปลายสุดของแสงแล้วก็รู้เลยว่ามันหยุดตรงนั้นเลย ข้างนอกมืดสนิทหมดเลยค่ะ มันเหมือนกับมีใครเอากรวยมาครอบตัวดิฉันไว้ มันสุดตรงนั้น เหมือนกับจบลงแค่นั้นเลย”
ชัดเจนเลยว่าแอนเดรียสามารถแวบเห็นอดีตชาติอีกชาติหนึ่งได้แล้ว อาจจะเป็นชาติภพที่เจอกับลูกสาวก็ได้ แต่หญิงสาวไม่สามารถนำทางตัวเองให้ผ่านแสงสุกใสสีน้ำเงินได้
“คงจะให้คุณรู้ว่ามันอยู่ตรงนั้นแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ไม่เป็นไรครับ มันอยู่รอคุณแล้ว และคุณก็มีความผูกพันกับลูกสาวอยู่แล้วด้วย หมอแน่ใจครับเรื่องนี้ แต่คุณก็ได้เจอน้องชายที่เป็นพี่ในชาตินั้นซึ่งคุณไม่เคยคิดมาก่อนเลย การระลึกชาติบำบัดจะเป็นอย่างนี้แหละครับ คุณจะไม่ได้เจอสิ่งที่คุณตั้งความคาดหมายไว้หรอก เป็นความประหลาดใจยิ่ง แต่สิ่งที่ปรากฏชัดจะมีความเสียใจอยู่”
แอนเดรียคิดเหมือนผมครับ “แปลกใจจริง ๆ ค่ะ เพราะเป็นชาติภพที่มีความสุขดี น้องชายกับตัวดิฉันเองสนิทกันมากเลย แต่ในหมู่พี่น้องทั้งหมดเขาเป็นคนเดียวที่ป่วยหนักตั้งแต่แรกเกิดมาเลย แต่ดิฉันไม่คิดจริง ๆ ว่าจะเจอหน้าเขา”
“และความเข้มข้นของอารมณ์ก็เปี่ยมพลังเพราะมันเกิดขึ้นตรงนั้นและเป็นจริงมาก คุณ #รู้สึก ได้ถึงความเสียใจ คุณ #รู้สึก ได้ถึงการพลัดพรากจากกัน พอคุณอายุเจ็ดแปดขวบในชาติภพนี้คุณก็รู้สึกถึงอารมณ์ทางบวกที่ได้เดินเล่นกับคุณพ่อ ซึ่งเป็น...”
“เป็นความทรงจำที่ดีมาก ๆ เลย” เธอแทรกขึ้น
“ใช่แล้ว เป็นความทรงจำที่ดีมากจริง ๆ” ผมเห็นด้วย สายตาของแอนเดรียดูเหมือนลอยไประลึกถึงภาพเหตุการณ์ในวัยเด็กอีกครั้ง
“ดิฉันรู้สึกถึงลมที่ปะทะหน้าเลยค่ะ ดิฉันจำเกล็ดหิมะได้ ได้เห็นหมดทุกอย่างจริง ๆ จำทุกเลี้ยวโค้งได้ และโคมไฟตามถนนที่ดิฉัน #เคยลืม มันไปหมดแล้ว” เธอพิศวง
“หมอว่าเราจำได้ทุกอย่างแหละครับ” ผมเสริมเธอ “นี่เป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้เราจำรายละเอียด ความรู้สึกของเกล็ดหิมะ ความคดโค้งของถนน เท้าของคุณรู้สึกอย่างไร ทุกความรู้สึกนั้น มันยิ่งกว่าอารมณ์ด้วยซ้ำ มันคือความรู้สึกผ่านทางร่างกาย (𝗽𝗵𝘆𝘀𝗶𝗰𝗮𝗹 𝘀𝗲𝗻𝘀𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻𝘀) ด้วย”
“ถ้างั้นที่ดิฉันพูดออกมาทั้งหมดก็สามารถจำได้หมดเลยสิคะ❓ จะได้มากกว่านั้นอีกมั้ยคะเนี่ย❓”
“ได้แน่ครับ คุณจะจำได้มากกว่านี้อีก ยกตัวอย่างนะครับ หมอจะให้คุณอยู่กับช่วงคลอดให้นานขึ้นอีกสักครู่”
“ดิฉันออกมาไม่ได้น่ะค่ะ” แอนเดรียจำได้ “มันมืดมากเลย เหมือนกับเป็นท่อยาว ๆ ออกมาจากท้องแม่ไม่ได้”
“คุณอยู่ตรงนั้นนานกว่าช่วงอื่น หมอคิดว่าคุณคลอดออกมาแล้วแต่คุณมาเจอกับความมืด ที่จริงยังไม่คลอดออกมา แต่คุณก็จำผู้ชายที่มาอยู่เตียงข้าง ๆ แล้วอยากมีเซ็กซ์กับภรรยาที่เพิ่งคลอดได้ มันชัดเจนเหมือนจริงมากสำหรับคุณ ทั้งที่คุณเพิ่งคลอดใหม่ ๆ น่าสนใจมากเลยนะครับที่ได้รายละเอียดความทรงจํามากขนาดนี้”
“แม่ไม่แฮปปี้เลย” แอนเดรียย้ำอีกครั้ง
“หมอเข้าใจครับ”
“แม่จับตัวฉันพลิกหนีหันข้างเลย” ตอนนี้แอนเดรียยิ่งจําได้ละเอียดมากกว่าเดิม แม้เธอจะฟื้นจากภวังค์แล้ว แต่เธอก็ยังจำเหตุการณ์ในโรงพยาบาลได้อีก
“ถ้าคุณแม่คุณแข็งแรงกว่านี้คงออกจากห้องไปแล้ว” ผมเสริมคำ
แอนเดรียกลับมาสู่เวลาปัจจุบันได้แล้ว
. . .
“ครั้งแรกเป็นขนาดนี้นี่ถือว่าปกติไหมคะคุณหมอ” แอนเดรียถามในฐานะกลับสู่บทบาทความเป็นนักข่าว
“ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ครับที่มีความทรงจำถึงระดับนี้ แต่ของคุณชัดเจนและเข้มข้นมากสำหรับครั้งแรก เลยต้องจัดให้อยู่ในกลุ่มบน คือกลุ่ม 15-20 % แค่ 15 % เท่านั้นที่ทำได้ เทคนิคนี้ใช้ได้ผลหลากหลายอย่างเลยครับไม่ใช่แค่กระตุ้นความทรงจำเท่านั้น”
ผมพูดต่อ “คุณเอาไปใช้ควบคุมร่างกายก็ได้ เช่นถ้าคุณอยากให้ความดันเลือดลดลงก็ใช้วิธีนี้ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งยา หรือจะให้หลับ...ปิ้ง-ไปเลย...” ผมบอกแล้วดีดนิ้ว “คุณสามารถหลับได้-อย่างนี้เลย คุณสามารถจะนำไปใช้ด้วยเหตุทางกายภาพเช่นด้านสุขภาพ ถ้ามีโรคหวาดกลัว (𝗽𝗵𝗼𝗯𝗶𝗮) เราก็สามารถหาต้นเหตุการเกิดแล้วขจัดมันทิ้งไปได้เลยครับ”
“มีสถานที่บางแห่งที่ดิฉันเคยไปแล้วคิดอยู่เรื่อยว่าดิฉันเคยอยู่ที่นี่มาก่อน ดินแดนแถบตะวันตกเป็นอีกที่หนึ่งที่คุ้น อย่างรัสเซีย...นี่ก็ใช่ค่ะ”
แม้กล้องทีวีจะดับลง และการบันทึกเทปยุติแล้ว แต่แอนเดรียก็ยังคงอยู่ในสภาวะจิตนิ่งเยือกเย็น นั่งวิเคราะห์กันต่อเรื่องประสบการณ์ที่เธอได้รับระหว่างการย้อนจิต
“พี่ถูกฆ่าด้วยปืนยาว” เธอเล่าเพิ่ม “เป็นปืนไรเฟิล ไม่ใช่ปืนพก”
เธอเพิ่มรายละเอียดได้มากขึ้นอีก คนที่อยู่ในภาวะย้อนจิตมักจะรับรู้ถึงรายละเอียดได้เป็นร้อย ๆ เรื่อง มากกว่าตอนที่พวกเขาบอกออกมาตอนตอบคำถามระหว่างอยู่ในภวังค์แล้วจำประสบการณ์อดีตชาติกับวัยเด็กได้เสียอีก
หญิงสาวยังคงปล่อยความทรงจำ พูดมันออกมาเรื่อย ๆ “ตอนที่จอห์นเกิดมาในชาตินี้ใหม่ ๆ นะคะ เขาเป็นโรคดีซ่าน พยาบาลต้องมาเอาตัวไปรักษา แม่ยังบอกกับพวกพยาบาลเลยว่า ‘นี่ฉันคงไม่ได้เห็นหน้าลูกอีกแล้ว ลูกต้องตายแน่ ๆ’ ”
ตอนที่แม่ของเธออุ้มลูกน้อยแรกเกิดส่งให้พยาบาล เหมือนกับแม่เริ่มตัดใจจากลูกแล้วแบบคนที่ทำใจเผื่อไว้เลยว่าลูกจะตาย แม้แม่จะรักเขามากก็ตาม แต่การกักกั้นความรู้สึกไว้ยังคงฝังอยู่แม้กระทั่งหลังจากที่จอห์นฟื้นตัวแข็งแรงสุขภาพร่างกายดีขึ้นมากแล้วก็ตามที เหมือนเป็นนัยว่าแม่ของเธอได้เตรียมใจเผื่อไว้รับกับความตายของลูกตลอดมา
กรณีของเด็กที่เป็นดีซ่านมาแต่กำเนิด ซึ่งเป็นโรคที่พบค่อนข้างบ่อยทีเดียว บิลิรูบินที่อยู่ในน้ำดีของตับจะเพิ่มอัตราสูงขึ้นชั่วคราวทำให้เกิดอาการดีซ่าน หรืออาการผิวเป็นสีเหลืองขึ้นมา แค่การอุ้มเด็กให้ไปเจอแสงสว่างธรรมชาติ หรือให้ไปอยู่ใต้แสงโคมไฟปกติธรรมดาแค่นั้น ก็จะช่วยลดระดับบิลิรูบินที่มากเกินขีดและทำให้สีผิวกลับสู่สภาพปกติเหมือนเดิมได้แล้วครับ พอตับค่อย ๆ เจริญขึ้นเต็มตัว อาการดีซ่านก็จะหายขาดไปเอง กระบวนการเยียวยาทั้งหมดนี้ใช้เวลาแค่สองสามวัน หรือนานหน่อยก็หนึ่งหรือสองสัปดาห์เท่านั้น
คุณแม่ของแอนเดรียรู้สึกกับโรคดีซ่านของลูกชายแรกเกิดมากเกินไปหน่อย ในฐานะที่เป็นภรรยาของหมอเองอยู่แล้ว เธอต้องตระหนักได้ว่าอาการของจอห์นไม่น่าจะถึงอันตรายมากมายนัก ตามที่แอนเดรียเล่า ตัวจอห์นเองก็รู้ตัวมาตลอดว่าแม่ไม่เปิดใจ ถึงแม้ตัวเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ไม่รักเขาอยู่คนเดียว
“คุณเห็นไหมครับว่ามันเกี่ยวพันกัน❓” ผมถามแอนเดรีย “คุณแม่ของคุณเคยเป็นแม่ของจอห์นเมื่อชาติที่แล้วในทุ่งกว้างหนึ่งศตวรรษก่อนมานี้เอง ชาตินั้นเขาถูกฆ่า เธอสูญเสียเขาไปแล้ว พอเขากลับมาเกิดเป็นลูกชายแรกเกิดของเธอในชาตินี้แล้วเกิดเป็นดีซ่านขึ้นมา เธอก็จำความสูญเสียที่เคยเจอมาก่อนนี้ได้ทันที แม้จิตสำนึกปกติของเธอจะจำไม่ได้แล้วก็ตาม
...แต่ในทางอารมณ์ความรู้สึกกับจิตใต้สำนึกของเธอนั้น เธอจำได้แม่น คุณแม่ก็เลยปกป้องตัวเองด้วยการเก็บความรู้สึกไว้กับตัวไม่เปิดใจ เธอทนเสียเขาไปอีกหนไม่ไหวแล้ว เธอเชื่อเอาเสียจริง ๆ จัง ๆ ว่าเขาอ่อนแอเหลือเกินเหมือนเมื่อชาติก่อน แล้วเขาก็จะทิ้งเธอไปอีกครั้ง”
แอนเดรียพร้อมจะระเบิดความตื่นเต้นออกมาทันใด การย้อนอดีตของเธอช่วยอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับน้องชายของเธอได้เลย ตอนนี้เธอรู้ต้นตอรากเหง้าที่แท้จริงของพฤติกรรมของแม่ รวมถึงปฏิกิริยาที่น้องชายมีต่อกำแพงป้องกันใจของแม่แล้วว่า แม่กลัวต้องเสียเขาไปอีกครั้งนั่นเอง เดี๋ยวแอนเดรียจะไปพูดทุกอย่างให้แม่กับน้องฟังเอง
จากการย้อนอดีตมากมายหลายหน ทั้งที่ผมเป็นคนทำและจากที่ผมศึกษามาทั้งหมด กรณีแอนเดรียเป็นกรณีคลาสสิคกรณีหนึ่ง เพราะมันเต็มไปหมดทั้งความทรงจำที่ช่วยเยียวยาหัวใจ อารมณ์ความรู้สึกที่เข้มข้นรุนแรง การจำรายละเอียดได้ชัดเจนเหมือนจริงอย่างมาก ที่ยิ่งไปกว่านั้นอีกคือ เธอยังได้เข้าถึงจิตเบื้องบน 𝗦𝘂𝗽𝗲𝗿-𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀 ที่ใช้เรียนรู้บทเรียนของอดีตชาติที่เธอผ่านมาแล้ว เอามาเชื่อมเข้าหาบทเรียนในชาติปัจจุบันนี้ได้ด้วย
เทปโทรทัศน์ตอนนี้ไม่ได้ออกอากาศ เพราะผู้บริหารคนหนึ่งของสถานีกลัวว่าการที่เทปตอนนี้มันดูสมจริงมาก และเต็มไปด้วยความรู้สึกขนาดนั้น แอนเดรียอาจต้องแลกกับเครดิตความน่าเชื่อถือในฐานะนักข่าวที่ต้องวางตัวเป็นกลางไปเลยก็ได้
แต่น่าเสียดายที่คนดูอีกเป็นล้านต้องเสียโอกาสที่จะเรียนรู้ธรรมชาติของชีวิตให้แจ่มแจ้งขึ้นไปอีก เสียโอกาสที่จะได้รู้ว่า #เราทุกคนเกี่ยวพันเชื่อมโยงกัน #ต่างมีความรับผิดชอบต่อกันและกันทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ได้เรียนรู้ความสยดสยองและการย่อยยับทางจิตใจจากการฆ่าฟันกัน พลาดโอกาสรู้ว่า #ผลลัพธ์แห่งความรุนแรงนั้นมันข้ามชาติภพมาสู่ชาติต่อมาได้ด้วย
(มีต่อ)
หนังสือ
บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
𝗠𝗲𝘀𝘀𝗮𝗴𝗲𝘀 𝗙𝗿𝗼𝗺 𝗧𝗵𝗲 𝗠𝗮𝘀𝘁𝗲𝗿𝘀
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย