18 พ.ย. 2021 เวลา 23:00 • นิยาย เรื่องสั้น
ในความมืดมิดที่เงียบสงัด มีสองคนกับอีกหนึ่งหมากำลังนอนเบียดกันอยู่ใต้โต๊ะ บรรยากาศรอบด้านตอนนี้เริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ เจ้านมสดเบียดตัวที่สั่นเทาของมันเข้ามาหาฉัน แล้วหวีดร้องครางเสียงหงิงๆ ออกมาด้วยความหวาดกลัว เหมือนมันกำลังสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่น่ากลัวมาก
“แผ่นดินหยุดไหวแล้ว มึงเป็นยังไงบ้างวะ!?” ไอ้ตะวันถามพร้อมกับหันมามองหน้าฉัน ด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล
“ดีขึ้นมากแล้ว...มึงรีบไปเตรียมของ และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เดี๋ยวพวกเราจะต้องออกไปข้างนอก เพื่อตามหาประตูบานนั้นกัน เพราะฟ้ามันมืดแล้ว”
“ฮะ!! ทำไมมึงรีบออกไปจังวะ รอพรุ่งนี้ค่อยออกก็ได้”
“ไม่ได้!! เดี๋ยวจะไม่ทันเวลา มึงก็รีบเข้าไปเก็บของจัดการธุระของตัวมึงเองให้เรียบร้อยซะ เร็วๆ เข้า พอเสร็จทุกอย่างแล้วเราจะพากันออกไปเลย เสื้อผ้าก็ใส่หนาๆ ล่ะ อย่าลืม!! เพราะอากาศด้านนอกมันจะเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ"
“กูว่าไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้”
“ไม่ได้! ยังไงก็ต้องรีบไป ออกเร็วอะดีแล้ว ออกช้าคนจะเริ่มรู้ตัว แล้วมันจะวุ่นวายไปมากกว่านี้ ช่วงนี้คนยังอยู่ในบ้าน เป็นเวลาทองของพวกเราที่จะออกเดินทางไปตามหาประตูบานนั้นได้อย่างสบายที่สุด” ว่าจบฉันก็คลานออกมาจากใต้โต๊ะ ใช้ความคุ้นชินทางที่ตัวเองเดินไปมาอยู่ทุกวัน เดินตรงไปที่ห้องของตัวเอง แล้วเปิดประตูเข้าไปหยิบไฟฉายที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง ที่ตอนนี้มีของหลายอย่างร่วงหล่นลงมากระจัดกระจายอยู่เต็มหน้าโต๊ะจนเละเทะไปหมดขึ้นมา เพื่อกดเปิดไฟ
จากบ้านที่มืดมิดตอนนี้ก็มีแสงไฟจากไฟฉายส่องสว่างขึ้น ฉันเห็นข้าวของมากมายร่วงหล่นอยู่กับพื้นกระจัดกระจายจนเละเทะไปหมด ฉันส่องไฟฉายไปใต้โต๊ะอาหาร ที่ตอนนี้มีเจ้านมสดกำลังนอนเบียดไอ้ตะวันอยู่ด้วยร่างที่สั่นกลัว มันร้องครางหงิงๆ ออกมาไม่หยุด
“ออกมาได้แล้ว! ไฟฉายที่ซื้อมาของมึงอยู่ไหน มึงรีบไปเตรียมตัวได้แล้ว เร็วๆ อย่าให้กูต้องพูดแล้วพูดอีกได้ไหมวะ ไอ้ตะวัน!! กูเริ่มจะมีน้ำโหกับมึงแล้วนะ เดี๋ยวมันจะไม่ทัน” พูดจบฉันก็ถือไฟฉายเดินเข้าห้องน้ำไป
หลังจากที่ฉันล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมาแต่งตัว โดยมีไอ้ตะวันมันเดินเข้าไปทำธุระต่อ ฉันหยิบเสื้อผ้าที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ขึ้นมาสวมใส่ เสื้อยืดแขนยาวถูกสวมทับด้วยเสื้อคลุมฮู้ดแขนยาว กางเกงขายาวทรงทหาร และรองเท้าผ้าใบ ฉันเดินไปเปิดกระเป๋าเป้เช็กดูของทุกอย่างว่าครบไหม พอเห็นว่าไม่มีอะไรตกหล่นแล้ว ฉันก็ปิดกระเป๋าเป้ลงทันที
“กริ๊ง กริ๊งงง กริ๊งงงงง มานี่เร็วๆ เจ้านมสด” เจ้านมสดที่ยังนอนหมอบตัวสั่นอยู่ใต้โต๊ะ พอได้ยินเสียงกระดิ่งมันก็ค่อยๆ คลานออกมาจากใต้โต๊ะช้าๆ แล้วค่อยๆ เดินเข้ามาหาฉัน
ฉันหยิบผ้าพันคอที่ซื้อมา ขึ้นมาพันคอให้เจ้านมสดช่วยกันหนาวให้มันเวลาที่จะต้องเดินทางออกไปข้างนอก แล้วเอาเชือกจูงขึ้นไปล็อกที่ปลอกคอของมันเอาไว้ เพื่อใช้จูง ส่วนกระดิ่งฉันก็เอามาแขวนคอตัวเองเอาไว้กันหล่นหาย แล้วเดินไปหยิบของที่หล่นกระจัดกระจายบนพื้นขึ้นมาวางไว้ให้เป็นที่เป็นทาง รอไอ้คุณตะวันที่กำลังเตรียมตัวจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เพื่อที่เราจะได้พากันออกไปข้างนอกสักที
หลังจากที่ไอ้ตะวันแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จะออกเดินทางแล้ว พวกเราก็พากันเดินออกมาจากบ้าน ตะวันมันก็แต่งตัวไม่ได้ต่างไปจากฉัน เสื้อยืดแขนยาวสีเข้มทับด้วยเสื้อฮู้ดแขนยาว กางเกงขายาวทรงทหาร และรองเท้าผ้าใบ สองคนกับอีกหนึ่งหมาย่างก้าวออกมาจากบ้าน ภายใต้บรรยากาศที่กำลังเย็นขึ้นไปเรื่อยๆ และเงียบสงัด
“นั่นไงพระจันทร์สีเลือด!!!” พอเดินออกมานอกบ้าน ฉันก็ชี้ให้ไอ้ตะวันดูทันที เพราะมันเห็นชัดเจนมาก มันลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้าที่มืดมิด สีแดงฉานจนดูน่ากลัว กำลังสาดส่องแสงสีแดงเลือดลงมาสู่พื้นเบื้องล่าง
“โห!!! ดวงใหญ่จังวะ แถมยังส่องแสงสีแดงลงมาท่ามกลางความมืดอีก น่ากลัวจังวะ!! กูนี่ขนลุกซู่ไปหมด นี่กูยังต้องเจออะไรอีกบ้างเนี่ย”
“ใช่น่ากลัว!...แต่ข้างนอกทางที่เรากำลังจะไปน่ากลัวกว่านี้อีก!!...กูจะบอกไรให้ เพื่อให้มึงเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดี ตั้งสติแล้วคอยช่วยกู เพราะทางที่เรากำลังจะไปนั้นมันจะมืดมาก และพระจันทร์สีเลือดที่มึงเห็นจะขึ้นมาและสาดส่องแสงลงมาทั้งหมดเจ็ดครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่หนึ่ง และเราจะต้องไปให้ถึงประตูบานนั้น ก่อนที่พระจันทร์สีเลือดจะขึ้นมาครบทั้งหมดเจ็ดครั้ง”
“แล้วถ้าเราไปไม่ทันอะ มึงจะทำยังไง”
“ไม่มีคำว่าไม่ทัน ต้องทันเท่านั้น!! กูถึงให้มึงรีบออกมาไง เราจะเสียเวลาทิ้งเป็นวันๆ ไม่ได้ เพราะถ้าพระจันทร์สีเลือดขึ้นมาในครั้งที่เจ็ด ฟ้าจะกลับมาสว่าง และน้ำจะท่วมโลก พวกเราถึงต้องไปให้ถึงประตูบานนั้นก่อนฟ้าสางไงล่ะ”
“เรื่องนี้มึงแน่ใจแค่ไหนเนี่ย”
“ไอ้ตะวัน!! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว มึงยังจะถามคำถามนี้ออกมาอีกเหรอวะ ไอ้น้องเวร!!”
“ไม่ใช่ คือกูก็แค่ถามเพื่อความแน่ใจ”
“มึงอยากพิสูจน์ไหมล่ะ งั้นเอางี้มึงก็อยู่เฝ้าบ้านไปซะ พอครบเจ็ดวันเมื่อไหร่ เดี๋ยวมึงก็จะรู้เองแหละ ว่าจะเป็นอย่างที่กูพูดไหม ถ้าเป็นจริงก็อย่าลืมมาเข้าฝันบอกกูด้วยล่ะ กูจะรอฟัง!!”
“เอ้าาาา กูพูดเล่นน่า ทำเป็นโกรธไปได้”
“กูไม่ได้โกรธหรือพูดล้อเล่นนะ กูพูดจริงๆ” ฉันพูดยืนยันเสียงหนัก
“เออๆ…ช่างมันเถอะ ถือซะว่าเมื่อกี้กูไม่ได้พูดอะไรออกไปละกัน...ว่าแต่..แล้วนี่มึงจะหาประตูบานนั้นเจอได้ยังไงวะ”
“กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ เขาบอกว่าถึงเวลากูก็จะรู้เอง”
“เฮ้อออ...เขาอีกละ เขานี่เขาไหนวะ”
“ก็เขา…” ฉันพูดยังไม่ทันจบเจ้านมสดก็วิ่งพุ่งกระชากตัวออกไปอย่างแรง จนเชือกจูงที่ฉันจับเอาไว้หลวมๆ ในมือหลุดออกไป แล้วไถลลากยาวตามตัวเจ้านมสดไปที่หน้าประตูรั้วบ้าน
“แฮ่!!..แฮ่!!..โฮ่งง โฮ่งงง โฮ่งงงงง” ฉันเห็นมันกำลังมองออกไปที่ด้านนอกรั้ว แล้วร้องขู่ขึ้นมา ก่อนที่มันจะเห่าออกมาอย่างกระโชกโฮกฮากเสียงดังลั่น.......
อ่านต่อเพิ่มเติม <มหาภัยพิบัติ7วันล้างโลก>
📍ตอนที่ ๒๐ ออกจากบ้านเพื่อตามหาประตู📍 ได้ที่เว็บไซด์👇🏻👇🏻👇🏻
ReadAWrite รี้ดอะไร้ต์ 👉🏻 https://www.readawrite.com/c/15889d4eb20aae751e5a1fef37664ce1
📌ฝากติดตามผลงานของพวกเราด้วยนะคะ 😘 ปล่อยให้อ่านฟรีทุกวันอังคาร และวันศุกร์ ตามเว็บไซด์ที่ได้แจ้งไว้ด้านบนเลยนะคะ
อ่านแล้วเป็นยังไงมาพูดคุยกันได้นะจ๊ะ 🥰 และติดตามเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก 👉🏻 https://www.facebook.com/pkm.tongchan
#มหาภัยพิบัติ7วันล้างโลก
#กัมปนาทต้องจันทร์
#pkmtongchan

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา