2 พ.ย. 2021 เวลา 02:40 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
" ความเชื่อ ความศรัทธา ความจริงหรืองมงาย หรือแรงกรรม การหลอกผีหรือถูกผีหลอก กับคำถามที่ถูกถามหาความจริงว่าสิ่งนั้นมีจริงหรือไม่ "ร่างทรง" กับการข้ามเส้นความเชื่อนี้ ไปพิสูจน์กันค่ะ "
สิ่งที่มีมาใช่ว่าจะดีงามหรือถูกต้องเสมอ อาจจะมีอยู่จริงหรือไม่มีก็เป็นได้ทั้งนั้น
ร่างทรง...ที่เล่นกับความเชื่อและการมีอยู่จริง กับคำถามที่มีคำตอบพร้อมบทสรุป ครบจบในหนังเรื่องนี้เลยค่ะ แต่ต้องดูกันดีๆนะคะ
วันนี้ขออนุญาตพูดถึงหนังที่เป็นกระแสมากในตอนนี้ เป็นการรอดูหนังที่นานเลยค่ะ การหยิบยกและตีความของการสืบทอดของร่างทรงที่มีอยู่จริงในภาคอีสานของไทยให้ออกมาถูกใจและให้คนดูคิดต่อเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ
กระแสคนดูที่พูดถึงค่อนข้างแตกต่างกัน การเขียนบทความนี้อ้างอิงจากการดูเองและเป็นความเห็นส่วนตัว อาจจะไม่ถูกใจก็แล้วแต่มุมมองและตีความกันนะคะ
เปิดเรื่องด้วย คำถามของการมีอยู่ของร่างทรง ด้วยความศรัทธาความเชื่อมั่นของคนที่ถูกทรงว่าสิ่งนั้นมีอยู่จริง พลังของการเชื่อจึงถูกส่งต่อให้เป็นพลังของการรักษาทางจิตใจที่คนมาหวังพึ่งคนทรงให้ปัดเป่าความทุกข์ของตัวเอง
ระดับความเข้มข้นกลางเรื่องที่เล่าผ่านตัวมิ้ง ที่สื่อออกมาให้เป็นตัวละครที่ดูมืดดำ ไม่สะอาดในศีลธรรม และนั่นเป็นการปูเรื่องว่าจิตใจมิ้งนั้นมืดหม่นไม่บริสุทธิ์พอที่ย่าบาหยันจะสิงสู่ได้ แต่เป็นดวงวิญญาณสัมพเวสีเร่ร่อนที่ใครก็สิงสู่ร่างมิ้งได้
ตัวลุงนิตเองก็มัวเมามีเมียเด็กติดดื่มติดเที่ยวนั่นคือตัวตนของลุง หรือตัวแม่น้อยก็ตามจะบอกไม่เชื่อไม่ยอมเป็นร่างทรงแต่ก็ทำทุกวิธีที่จะทำให้ย่าบาหยันเลือกป้านิ่มน้องสาว จิตใจที่เห็นแก่ตัวของแม่น้อยที่ดูย้อนแย้งในการกระทำ
ป้านิ่มคนที่ถูกเลือกแม้ไม่ใช่ตัวเลือกแต่แรกก็ตาม ความเชื่อความศรัทธาของป้านิ่มที่มีต่อ ย่าบาหยันนั้นถูกยืนยันกับแม่น้อยว่า ย่าบาหยันมีอยู่จริง นั่นเพราะตอนนั้นป้านิ่มมีศรัทธาแรงกล้า แต่ท้ายสุดความมั่นใจก็ถูกสั่นคลอนจากเหตุการณ์ที่เกิดกับมิ้งที่ป้านิ่มไม่สามารถจัดการได้ กับคำตอบสุดท้ายที่ไม่แน่ใจว่าการมีอยู่ของย่าบาหยันมีจริงไหม
ท้ายเรื่องกับคำตอบที่ทุกคนหาอยู่ในนี้ การลวงหลอกคนของวิญญาณที่อยู่ในร่างมิ้ง การหลอกตัวเองของแม่น้อยที่อยากปกป้องมิ้ง หรือการหลอกผีของร่างทรงที่ทำพิธีให้ ทุกอย่างคือการหลอกลวงหรือเป็นความจริงที่จับต้องไม่ได้ และท้ายสุดที่ตัวละครที่เป็นร่างทรงที่แท้จริงคือ "มิ้ง" นั่นเอง
ในหนังจะมีการหยิบเอาพิธีกรรมของหลายๆที่มารวมกัน โดยส่วนตัวผู้เขียนเกิดและโตที่จัดหวัดทางภาคอีสานก็จะเห็นและได้เข้าร่วมในบางพิธีกรรมด้วย
สรุปแล้วหนังได้จบแบบปลายเปิดที่ให้เราคิดเอง และได้ข้ามเส้นของหนังผีสไตล์ไทยๆไปด้วยใส่ฉากต้องฆ่าเด็ก นั่นเป็นการสื่อตัววิญญาณในตัวมิ้ง ณ เวลานั้นว่า เป็นสัตว์ที่สิงร่างเธอหากดูดีๆจะมีหลายฉากที่มิ้งมีพฤติกรรมแบบสัตว์ให้เห็นหรือบางครั้งก็ออกมาเป็นเด็กน้อย
และจะแปลกอะไรถ้ากลุ่มชายชุดขาวจะคลั่งและไล่ล่ากัดกินตากล้องเพียงเพราะถูกควบคุมด้วยวิญญาณสัตว์ หนังเรื่องนี้เป็นการจบไม่เกินคาดเดาหากคนดูได้ดูหนังแนวนี้ของต่างชาติ และการถ่ายทำแบบนี้ ส่วนตัวผู้เขียนคือชอบค่ะ ปกติจะดูหนังแนวนี้อยู่และไม่ผิดหวังการสื่อออกมาของผู้กำกับเลย
ปรบมือให้กับนักแสดงที่ถ่ายทอดออกมาได้ดี นำเสนอตัวบทของตัวเองได้เห็นชัดเจนมากๆ
ก่อนที่เข้าชมหนังเรื่องนี้ ถามใจตัวเองก่อนว่าคาดหวังจะได้เห็นหนังผีในแบบไหน แต่ก็อยากให้เปิดใจดู การถ่ายทำแบบนี้คือสนุกเข้าถึงอารมณ์จริงๆ ขอบคุณทีมงาน ภาพเสียงดีงาม ขอบคุณผู้กำกับคุณบรรจงและคุณนาฮงจินที่ไม่ทิ้งลายเซนต์ของตัวเองและพยายามฉีกนอกกฏของหนังผีบ้านเรา ยิ่งคนดูมีคำถามมากแค่ไหน นั่นก็หมายถึงว่า ผู้กำกับได้ส่งข้อความผ่านหนังนี้ได้สำเร็จค่ะ
ท้ายสุดอยากจะบอกว่าถ้ามีโอกาสไปดูกันนะคะ ทุกอย่างมีหลากหลายมุมให้เราได้เปิดดู หนังก็เช่นกัน ตัวหนังอาจจะใส่ความแปลกใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สนุก เป็นหนังที่ 2 ชั่วโมงที่ไม่ได้ทำให้ง่วงเลย ต้องดูกันค่ะ
เมื่อรูปปั้นย่าบาหยันแตกหัก ก็ทำให้ป้านิ่มไร้หลักพึ่งทางใจ พลังศรัทธาความเชื่อมั่นก็หายไปด้วย
** บทความนี้เขียนขึ้นจากมุมมองส่วนตัว อาจจะแตกต่างความคิดเห็นกันไปบ้างต้องขออภัยด้วยนะคะ ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความนี้ แนะนำแชร์ได้เลย ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ **
โฆษณา