Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คีตาแห่งสยาม
•
ติดตาม
6 พ.ย. 2021 เวลา 02:38 • หนังสือ
✴️ บทที่ 1️⃣ ความท้อแท้ของอรชุน (ตอนที่ 53) ✴️
🌸 อรชุนปฏิเสธการต่อสู้ 🌸
⚜️ โศลก 3️⃣1️⃣ ⚜️
หน้า 154 – 157
โศลกที่ 3️⃣1️⃣
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
โอ้ เกศวะ ข้าพเจ้าไม่เห็นผลดีอะไรเลยในการที่จะฆ่าบรรดาญาติในการสงครามครั้งนี้ ข้าพเจ้าไม่ต้องการชัยชนะ ไม่ต้องการอาณาจักร หรือความสุขใด ๆ❗
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
“#ข้าแต่พระวิญญาณ ข้าฯ ไม่เห็นประโยชน์อันใดที่จะได้จากการสังหารผัสสอินทรีย์ที่ข้าฯ คุ้นเคย แค่คิดว่าจะทำลายกามสุข จิตใจของข้าฯ ก็รังเกียจ เสียแล้ว ข้าฯ ไม่ต้องการสิ่งใด — ไม่ว่า ชัยชนะทางจิตใจ ไม่ว่าอาณาจักรบรมสุขแห่งวิญญาณ หรือความสุขทางผัสสะ❗”
ในภาวะที่จิตใจอ่อนไหวท้อแท้นี้ ผู้ภักดีจะตัดสินใจในเชิงลบทันที เขาคิดว่า “ฉันไม่เห็นประโยชน์อะไรเลยที่จะทำลายความสุขสบายทางผัสสะ ฉันไม่อยากได้ชัยชนะทางจิตที่ว่างเปล่า ฉันไม่ต้องการอาณาจักรแห่งจิตจักรวาล และฉันก็ไม่ต้องการความสุขทางผัสสะใด ๆ ด้วย”
ผู้ภักดีจึงหันเหจากภาวะงุนงงสงสัยอย่างทุกข์ทรมานใจ ไปเป็นการปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง เขาพูดกับตัวเองว่า “ออกไปให้หมด ทั้งความสุขทางจิตวิญญาณและความสุขทางผัสสะ❗ ฉันไม่ต้องการสิ่งใด ฉันไม่สนใจที่จะได้จิตจักรวาลมาไว้ในครอบครอง ถ้าการจะได้สิ่งนี้มาแล้วฉันต้องทำลายผัสสนิสัยที่ฉันรัก ที่อยู่กับฉันมานานในบ้านของชีวิตอันอบอุ่น”
#นี่เป็นอุบายหนึ่งที่มนุษย์ชอบนำมาใช้ เขาเชี่ยวชาญสิ่งนี้มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก ๆ “ถ้าต้องกินแครอทก่อนกินไอศกรีม ฉันไม่กินไอศกรีมก็ได้❗” ราวกับว่าการทำอย่างนี้จะได้รับเสียงปรบมือให้แก่การเสียสละที่ยิ่งใหญ่นี้ หรืออย่างน้อยก็ทำให้เกิดความสงสาร และถ้าดีกว่านั้น ก็จะเห็นไปว่านี่เป็นการประนีประนอมที่น่ายกย่อง พ่อแม่ที่ฉลาดจะไม่ยอมลงให้กับเด็กที่เอาแต่ใจอย่างนี้ กฎจักรวาลอันชาญฉลาดก็ไม่หวั่นไหวกับ “วีรกรรม” #การละวาง_ที่เป็นไปในทางลบนี้เช่นกัน
. . .
◾ “การละวาง” คือ การเปลี่ยนรสนิยมจากความสุขอย่างต่ำไปสู่ความเบิกบานนิรันดร ◾
🛑 ‘การละวางในทางลบ’ #ไม่แค่เกิดในระหว่างการทำสมาธิเท่านั้น อย่างในบริบทที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ #ภาวะนี้อาจเกิดหลังจากได้สมาธิลึกแล้วก็ได้ ผู้ภักดีที่เคยเพียรปฏิบัติทางจิตวิญญาณ – ฝึกปฏิเสธตนเองและทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอ – อาจพบว่าความอิ่มใจพลันแหลกละเอียดเป็นผุยผง เมื่อจู่ ๆ ความสงบในสมาธิถูกความทรงจำถึงความสุขทางผัสสะ หรือ สังสการ เข้ามาก่อกวนจนเกิดความกระวนกระวาย ผู้ภักดีจะรู้สึกท้อแท้และงุนงงสงสัย รู้สึกว่าตนไม่ได้ทั้งความสุขทางผัสสะหรือความเบิกบานภายใน
ในเมื่อไม่ได้ทั้งสองอย่าง เขาก็เลยปลอบใจตัวเองว่าเขา ‘ไม่ต้องการทั้งสองสิ่งนั้น’ ถ้าเขาไม่ฉุดตัวเองออกมาจากความเฉยเมยนี้ เขาก็จะเป็นผู้ภักดีที่เกียจคร้าน ที่ชีวิตวิญญาณจะหยุดอยู่กับที่และตายไป แต่ถ้าเขาพยายามต่อไป เขาจะพบว่า ภาวะนี้เป็นแค่สุญญากาศชั่วคราวในสาธนาของเขา
#การละวางไม่ใช่ปลายทางโดยตัวมันเอง การต้องสละเงินจำนวนน้อยเพื่อการลงทุน อาจทำให้คนยากจนขาดความสะดวกด้านการเงินชั่วคราว แต่เงินจำนวนน้อยที่ลงทุนไปนั้นอาจให้ผลตอบแทนจำนวนมหาศาลในภายหลัง ผู้ภักดีที่ฉลาดจึงควรรู้ว่า การละวางอารมณ์ติดวัตถุที่ไร้สาระเป็นสิ่งจำเป็น
🛑 ถ้าจะให้ได้ความสุขอันไม่สิ้นสุดแห่งบรมวิญญาณ เขารู้ว่าเขา “ไม่ได้ปฏิเสธสิ่งใดเลย” #เพียงแต่เปลี่ยนรสนิยมจากการนิยมความสุขเล็กน้อยไร้ความยั่งยืน #ไปหาความสุขทางวิญญาณที่ยั่งยืนนิรันดร์ — ทำนองเดียวกับที่บุคคลควรดีใจที่ได้สละเงินร้อยเหรียญเพื่อจะได้ห้าพันเหรียญกลับมา ผู้ภักดีจึงมีความสุขที่ได้สละผัสสะเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อความสุขยั่งยืน ซึ่งจะพบได้ในการหยั่งรู้พระเจ้า #ทิพยภาวะแห่งความหลุดพ้นนั้นไม่ใช่ภาวะว่างเปล่า_หรือสภาพการดับภายใน หากแต่เป็นวิมานความสุขอันไพศาลของจิตฝ่ายธรรมะ
อย่างไรก็ตาม ชาวโลกทั่วไปมักไม่ค่อยประทับใจกับเรื่องราวของโยคีที่นุ่งห่มผ้ากระสอบ และปลีกตัวไปอยู่วิเวก “เป็นชีวิตที่ปฏิเสธตนเองอย่างโง่เขลาน่าเวทนา❗” ด้วยการสรุปอย่างเลื่อนลอยว่างเปล่าเช่นนี้ ผู้คนส่วนใหญ่จึงหันไปสนใจโลกกันอย่างเต็มที่ สำหรับคนเหล่านี้ ความสุขอยู่ที่ชีวิตครอบครัว ที่งานเลี้ยง งานเต้นรำ และการกระตุ้นอินทรีย์สัมผัสด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา
คนที่ไม่รู้จักคิดไม่เคยสังเกตเลยว่า มนุษย์เรานี้มัวยุ่งอยู่กับการไล่ตามสายรุ้งแห่งความสุขที่ยั่งยืน แต่ไม่เคยได้พบ ผู้คนที่ติดยึดวัตถุเป็นทุกข์อยู่ด้วยความอยากที่ขัดแย้งกัน แล้วก็จมปลักอยู่กับความทุกข์นั้น แต่โยคีนั้นตรงกันข้าม ท่านรู้ดีว่า #ความสุขแท้ที่ไม่มีวันตายจะพบได้ก็แต่ในจิต #ที่รับรู้ถึงต้นกำเนิดอันประเสริฐแห่งความสุขนิรันดร์ไร้มลทิน
หลายคนที่สนใจจิตวิญญาณอย่างจริงใจให้เหตุผลว่า การสละละความเกี่ยวข้องทางวัตถุอย่างที่สมณะทำกันนั้น เป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้เลยในโลกสมัยใหม่นี้ อย่างไรก็ตาม ไม่เคยมีนักบุญท่านใดแนะนำว่า มนุษย์ควรไปปลีกวิเวกอยู่ตามถ้ำแถบภูเขาหิมาลัยเพื่อจะได้พบพระเจ้า
“อุดมคติ” คือ #การอยู่ในโลกแต่ไม่เป็นของโลก บุคคลที่อภิจิตตื่นแล้ว – ผู้ที่ทำสมาธินาน ทำสมาธิลึกอย่างไม่ย่อท้อ ไม่ว่าความรับผิดชอบหรือสภาพแวดล้อมจะเป็นอย่างไร – #ไม่ติดยึดวัตถุ #แต่ก็ใช่ว่าไม่สนใจ❗ ผู้ภักดีที่แท้ ไม่ใช่ผู้ไร้บ้าน เกียจคร้านเกินกว่าจะทำอะไรดี ๆ เพื่อความสุข ความมั่งคั่งทางวัตถุและจิตวิญญาณ❗
✨โยคีที่ได้ลิ้มรสทิพยสุขจากการ “หยั่งรู้วิญญาณ” นั้น #ต่อให้ท่านเคลื่อนไหวไปมาอยู่ในท่ามกลางความเพลิดเพลินทางวัตถุท่านก็ไม่หวั่นไหว #ไม่อยากได้ความเพลิดเพลินนั้น #ท่านเข้าถึงภาวะมั่นคงแท้จริงแห่งจิตวิญญาณ✨
. . .
◾ ความพากเพียรทำให้เห็นผลดีของการสละละวาง ◾
ผู้ภักดีที่ยังอ่อนแอทางจิตวิญญาณ มักไม่เพียรพยายามให้นานพอที่จะรู้ผลดีของการสละละวาง จึงเลิกทำสมาธิหลังจากลองทำไปได้เพียงเล็กน้อย หรือหลังจากพยายามอย่างไม่เต็มใจอยู่สาม–สี่ปี แล้วเขาก็กระโจนกลับไปใช้ชีวิตตามนิสัยเดิม และสุดท้ายก็จมอยู่กับความโง่หลง
แต่ผู้ภักดีที่จริงใจ จะไม่ถูกชักนำไปในทางที่ผิด เมื่อจิตเจ้าเล่ห์ที่หลงวัตถุพูดกับเขาว่า “ทำไมถึงได้ละไปจากความสุขที่ใคร ๆ เขาก็เสพกันเสียเล่า มานั่งสมาธิอยู่ในที่มืด ๆ อย่างไม่เกิดประโยชน์โภชผลทำไมกัน ออกไปดูหนัง ไปงานสังคม ไปสนุกทุกวันดีกว่า❗”
ผู้ภักดีต้องเสริมพลังความตั้งใจมั่นของตน ด้วยการนึกถึงตัวอย่างของพระเยซูและครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ผู้เข้าถึงอมตธรรมและความสุขนิรันดร์ ด้วยการเลิกละไปจากความสุขจอมปลอมทั้งหลายที่ ‘พญามารแห่งมายาจักรวาล’★ นำมาล่อทุกครั้งที่จิตคิดจะกลับไปหาความสุขทางผัสสะที่ได้ละแล้ว
★“อีกครั้งหนึ่ง มารได้นำพระองค์ขึ้นไปบนภูเขาที่สูงมาก และได้แสดงบรรดาราชอาณาจักรในโลก ทั้งความรุ่งโรจน์ของราชอาณาจักรเหล่านั้นให้พระองค์ทอดพระเนตร แล้วได้ทูลพระองค์ว่า ถ้าท่านจะก้มลงนมัสการเรา เราจะให้สิ่งทั้งปวงนี้แก่ท่าน พระเยซูจึงตรัสตอบว่า จงไปให้พ้น เจ้าซาตาน เพราะพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้เป็นพระเจ้าของท่านและปรนนิบัติพระองค์แต่ผู้เดียว” (มัทธิว 4: 8-10)
ผู้ภักดีต้องนึกทันทีให้ เห็นภาพวาระสุดท้ายของร่างกายที่รักความเพลิดเพลิน — ที่ต้องถูกฝังอยู่ใต้ดิน หรือเข้าไปในเตาเผาศพ การตระหนักถึงปลายทางที่ไร้ความกรุณาของร่างกายเช่นนี้จะปลุกมนุษย์ให้ตื่นอย่างทรงพลัง อยากจะทำความคุ้นเคยกับวิญญาณ หรืออาตมัน ซึ่งสิ่งใดก็ไม่อาจพิชิต ผู้เหยียดหยันความตาย
ผู้ภักดีที่ได้สัมผัส (แม้เพียงครั้งเดียว) ถึงเสน่ห์ที่ไม่หมดสิ้นแห่งวิญญาณ กับสัมพันธภาพนิรันดร์ระหว่างวิญญาณกับพระเจ้า จะไม่มีวันลืมความเกษมสุขที่เขาได้รับ เขาอาจต้องผ่านการทดสอบที่น่าเหนื่อยหน่าย เมื่อต้องตกลงจากภาวะนั้นชั่วคราว เช่นเดียวกับที่อรชุนเกิดความท้อแท้ แต่ตราบใดที่ผู้ภักดียังพยายามต่อไป #ความทรงจำถึงความเกษมสุขอันบริสุทธิ์จะเรียกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า #กระตุ้นให้เขาเดินไปบนวิถีทิพย์นี้ต่อไป
(มีต่อ)
หนังสือ
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ภควัทคีตา เล่ม 1 บทที่ 1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย