Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
God Journey (การเดินทางของเหล่าพระเจ้า)
•
ติดตาม
8 พ.ย. 2021 เวลา 04:10 • หนังสือ
✴️ บทที่ 4️⃣ สร้างสายสัมพันธ์ที่เปี่ยมรัก ✴️ (ตอนที่ 1)
บทที่ 4️⃣ สร้างสายสัมพันธ์ที่เปี่ยมรัก
........................................................
ระดับการเรียนรู้มีหลายระดับต่างกัน และเราต้องเรียน บางระดับในสภาวะกายเนื้อ เราต้องรู้สึกถึงความเจ็บปวดด้วย เมื่อเจ้าเป็นวิญญาณเจ้าจะไม่รู้สึกเจ็บปวด อย่างนี้เป็นช่วงเวลาของการชุบวิญญาณใหม่ ดวงวิญญาณของเจ้าจะได้รับการชุบชีวิตใหม่ ยามที่เจ้าอยู่ในภาวะรูปสังขารมีกายเนื้อ เจ้ารู้สึกเจ็บปวดได้ เจ้าจึงปวดร้าวได้ แต่ในรูปจิตวิญญาณเจ้ารู้สึกไม่ได้ มีแต่ความสุขเท่านั้น คือภาวะชุ่มชื่นสมบูรณ์ แต่นี่เป็นช่วงเวลาชุบดวงวิญญาณสำหรับ...เรา การปฏิสัมพันธ์ของผู้คนที่อยู่ในรูปวิญญาณไม่เหมือนกับบนโลก ตอนที่เจ้ายังอยู่ในรูปสังขาร...เจ้าจะสามารถมีประสบการณ์ถึงความสัมพันธ์ได้
........................................................
หลังจากเราปฏิสนธิในกายเนื้อแล้ว แหล่งการฝึกฝนเรียนรู้ที่สำคัญคือ “ผ่านการมีสัมพันธ์กับผู้คน” ผ่านทั้งความสุขและความปวดร้าวในการสร้างสานสายสัมพันธ์กับคนอื่น เราเดินหน้าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณก็เพื่อจะได้รู้จักความรักจากทั่วทุกด้าน
ความรักความสัมพันธ์เป็นดั่งห้องทดลองมีชีวิต เป็นข้อสอบภาคสนามในการบอกว่าเราทำได้แค่ไหนแล้ว เราเรียนรู้บทเรียนผ่านแล้วหรือไม่ จะได้รู้กันเลยว่าเราเดินมาใกล้เคียงกับแผนชีวิตที่กะวางไว้หรือไม่อย่างไร
ในสายสัมพันธ์ อารมณ์ของเราถูกปลุกขึ้นมาเราจึงจะมีปฏิกิริยาได้ เราเรียนรู้หรือยังว่าเมื่อถูกตบหน้าข้างหนึ่ง สามารถยื่นอีกข้างให้คนคนนั้นตบอีก หรือเราจะเลือกตอบโต้อย่างรุนแรงสะใจไปเลย เราได้ยื่นมือไปหาผู้อื่นด้วยความเข้าใจ ด้วยรัก และด้วยเมตตาแล้วหรือยัง หรือเราเลือกสนองตอบด้วยความกลัว ความเห็นแก่ตัว หรือผลักไสปฏิเสธผู้อื่นเลย❓
หากไม่มีความสัมพันธ์เสียแล้วเราก็จะไม่มีวันได้รู้ ไม่มีวันทดสอบความก้าวหน้าของตัวเองได้เลย ความสัมพันธ์คือโอกาสที่ดีมาก แต่ก็ยากแสนเข็ญขาดใจในการเรียนรู้บทเรียน
มนุษย์มาเกิดในรูปสังขารก็เพื่อจะได้เรียนรู้และเติบโต เรียนคุณสมบัติและเนื้อนิสัยที่ดีงามอย่างความรัก ความมีใจอหิงสา (𝗻𝗼𝗻-𝘃𝗶𝗼𝗹𝗲𝗻𝗰𝗲) ความเปี่ยมเมตตา การรู้จักให้ทาน ความศรัทธา ความหวัง การรู้จักให้อภัย การเข้าใจผู้อื่น เข้าใจชีวิต และการมีสติรู้จักตัวเอง — เราต้องเรียนรู้จักละโทษสมบัติและเนื้อนิสัยด้านลบไปเสีย ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความโกรธ ความเกลียด จิตใจที่รุนแรงก้าวร้าว ความโลภอยากได้อยากเป็น ความหยิ่งทะนงตน อารมณ์แห่งดำฤษณา ความเห็นแก่ตัว และหัวใจที่อคติต่อคนอื่น ผ่านความสัมพันธ์เท่านั้นเราถึงจะเรียนรู้บทเรียนเหล่านี้ได้
1
🛑 ยิ่งมีอุปสรรคมากเรายิ่งเรียนรู้ได้มากกว่าการผ่านพบอุปสรรคแค่ไม่กี่อย่างหรือไม่เจอเลย ชีวิตที่ต้องเจอกับความรักความสัมพันธ์ที่ทุกข์ยาก มีแต่อุปสรรคและความสูญเสียนั้น แท้จริงแล้วกลับให้โอกาสเราได้เติบโตทางดวงวิญญาณ (𝘀𝗼𝘂𝗹'𝘀 𝗴𝗿𝗼𝘄𝘁𝗵) คุณอาจจะเป็นคนเลือกชีวิตที่ลำบากยากแค้นกว่าคนอื่นก็เพราะคุณอยากเร่งพัฒนาจิตวิญญาณ (𝘀𝗽𝗶𝗿𝗶𝘁𝘂𝗮𝗹 𝗽𝗿𝗼𝗴𝗿𝗲𝘀𝘀) ให้เร็วกว่าเดิมนั่นเอง
บางครั้งเหตุการณ์ร้าย ๆ อย่างเช่นต้องตกงานอาจเป็นเสมือนมือที่ช่วยเปิดประตูสู่โอกาสที่ดีกว่าให้คุณก็ได้ เราไม่ควรชิงโศกเศร้าเสียใจไปล่วงหน้าเลย ชะตาลิขิตอาจต้องการเวลามากกว่านี้อีกนิดในการถักทอผืนชีวิตแสนวิจิตรประณีตให้ นอกจากความปวดร้าวและความยากแค้นลำเค็ญแล้วโลกนี้ก็ยังมีความรัก ความสุขใจและปีติสุขเปี่ยมล้นด้วยเช่นกัน เรามาเกิดบนโลกก็เพื่อจะอยู่กับผู้คน ได้เรียนรู้จักความรักด้วยการอยู่ร่วมกับมนุษย์ผู้อื่นที่เขาก็กำลังเดินไปบนเส้นทางเดียวกันกับเรา กำลังเรียนรู้บทเรียนเดียวกันกับเรา
“รัก” หาใช่กระบวนการทางความคิดไม่ แต่เป็นพลังงานที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอด ไหลผ่านเราและไหลมาสู่เราตลอดเวลาไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่ก็ตาม เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะรับความรักมากเท่า ๆ กับรู้จักให้★ ด้วยการอยู่ร่วมกัน ด้วยการมีสายสัมพันธ์ ด้วยการช่วยเหลือดูแลกันเท่านั้นเราถึงจะรู้จักและเข้าใจพลังงานที่ไหลเวียนถ่ายล้อมจากเราสู่เราที่ชื่อ “ความรัก”
★ เป็นคำสอนที่เป็นธรรมะ/ธรรมชาติที่ดีมาก เพราะคนดี ๆ มากมายบนโลกนี้เจ็บปวดกับการรู้จักแต่ให้ แต่ไม่รู้จักรับ พวกเขาก็จะเอาแต่โทษตัวเองว่าโลกนี้เห็นแก่ตัว เอาแต่โดดเดี่ยวตัวเองไม่มองความรักที่อยู่ล้อมรอบข้าง ให้จนหมดตัวโดยไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นได้มอบความรักแก่ตัวเองบ้าง คนที่ให้อย่างเดียวโดยปิดกั้นการรับความรักจะกลายเป็นคนแห้งแล้ง สิ้นหวังในชีวิต กระด้างไร้ความชุ่มชื่น และปิดกั้นไม่ให้คนอื่นมารักตัวเอง คำกล่าวที่ดีมากคือ “𝗴𝗶𝘃𝗶𝗻𝗴 𝗱𝗲𝗽𝗲𝗻𝗱𝘀 𝗼𝗻 𝗿𝗲𝗰𝗲𝗶𝘃𝗶𝗻𝗴 – ปราศจากผู้รับเสียก็ไม่มีผู้ให้” : ผู้แปล
ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีมานี้ ผมรักษาคู่รักและครอบครัวที่ล้วนแต่ทุกข์เพราะความสัมพันธ์มามากมาย บางคู่บางครอบครัวผมทำการย้อนอดีตให้และพบว่าปัญหาปัจจุบันมีเหตุมาจากอดีตชาติ ส่วนคู่อื่นครอบครัวอื่นบางรายแค่ต้องแก้ปัญหาการสื่อสารพูดจาให้เข้าใจ และหลายรายต้องแก้ที่การเข้าถึงหัวใจกันและกันให้ลึกซึ้งไปกว่านี้ มีบ้างที่จำเป็นต้องทบทวนคุณค่าและความสำคัญในชีวิตตัวเองเสียใหม่ บ้างก็ต้องใช้เทคนิคสักสองสามอย่างเพื่อช่วยฉุดตัวเองให้หลุดออกจากปลักชีวิต ทลายตัวเองเพื่อเริ่มต้นเปลี่ยนแปลง วิธีการไหนที่ต้องใช้กับพวกเขามันจะกระจ่างในใจเราเองในเวลาสั้น ๆ อีกไม่นาน
การเติบโตเกิดได้ ความสัมพันธ์สมบูรณ์ขึ้นได้เมื่อคู่ที่มีปัญหาพยายามแก้ไขจริง ๆ คำแนะนำกับเทคนิคมากมายหลายวิธีที่ผมเสนอคนไข้มีรากมาจากจิตวิญญาณที่ทำความเข้าใจชีวิต เข้าใจเรื่องชะตาลิขิตที่ลึกกว่า มากกว่าแค่การสรุปเอาจากหลักวิชา 𝗣𝘀𝘆𝗰𝗵𝗼𝘁𝗵𝗲𝗿𝗮𝗽𝘆 หรือ จิตบำบัดเท่านั้น
✨ผมค้นพบแล้วว่าหัวใจและดวงวิญญาณของคน โหยหาและตอบรับกับการบำบัดแบบจิตวิญญาณบำบัด (𝗣𝘀𝘆𝗰𝗵𝗼𝘀𝗽𝗶𝗿𝗶𝘁𝘂𝗮𝗹 𝘁𝗵𝗲𝗿𝗮𝗽𝘆) อย่างมาก มากกว่าจะสนองตอบวิธีรักษาที่เน้นแต่หลักวิชาการหรือความรู้มากนัก✨
ด้วยว่าความรักความสัมพันธ์เป็นประหนึ่งหน้าดินแห่งการเติบโตของเราขณะอยู่ในรูปสังขาร ผมจึงใคร่ขอมอบความคิด คำชี้แนะ และเทคนิคของผมเองเพื่อช่วยให้คุณได้ไปใช้ในความสัมพันธ์ โดยเฉพาะถ้าคุณรู้สึกว่ากำลังมีปัญหากับเรื่องนี้ในชีวิต
แหล่งความคิดกับไอเดียประดานี้อยู่ดี ๆ ก็ไหลเข้ามาหาผมในวันหนึ่ง เป็นวันที่ผมกำลังนั่งสมาธิอยู่ตรงเนินเขาเล็ก ๆ เหนือเมืองมีเดลลิน ประเทศโคลัมเบีย ผมเคารพนับถือหลักความคิดนี้สูงมากเพราะว่าจิตผมรับแนวคิดนี้ได้ขณะอยู่ในสภาวะปฏิบัติสมาธิ และเวลานั้นผมสัมผัสกระแสได้เลยว่าพระเบื้องบนท่านมาอยู่ข้างกายหรืออย่างน้อยก็ส่งพลังมาถึงผมด้วย
ผมไม่ได้ตัดทอนแก้ไขคำชี้แนะนี้เลย ผมเข้าใจดีว่าบางบทบางตอนเหมือนจะตั้งใจสอนเรา แถมยังทำตามได้ยากเหลือเกิน แต่กระนั้นสารนี้ก็ส่งมาท่ามกลางกระแสพลังแห่งความรักและความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ไพศาลจริง ๆ พูดภาษาปกติคือเนื้อหาและข้อมูลเปี่ยมไปด้วยรักและการเยียวยาหัวใจ ผมขอถ่ายทอดสู่คุณผ่านตัวอย่างการนำหลักการนี้ไปใช้กับคนไข้ที่ปรารถนาให้ช่วยแก้ไขความสัมพันธ์
ซึ่งเทคนิคทั้งหมดนี้แก้ปัญหาได้อย่างน่าอัศจรรย์มาแล้ว
หลักความคิดที่จะมอบให้คุณต่อจากนี้ไป สรุปใจความให้พร้อม เข้าใจง่าย แต่มิได้เจตนาให้อ่านอย่างรีบร้อน คุณอาจต้องใช้เวลาในการนำเอาคำแนะนำนี้ไปขบคิดในช่วงว่าง ๆ หรือช่วงทำสมาธิ เพราะเหมือนคุณได้ปลุกกระแสสั่นไหวให้เกิดขึ้นภายในแล้ว
✨ ความคิดความรู้สึกอะไรที่ผุดขึ้นจากการสะเทือนไหวภายใน ขอให้จดบันทึกไว้เสมอนะครับ ✨
ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องเอากำหนดเวลามาบังคับ มันไม่ใช่การสอบ และแน่นอนครับ มันไม่ใช่การแข่งกันระหว่างคุณกับคู่ของคุณว่าใครทำได้ก่อนหรือได้เท่าไหร่ ไม่ว่าคู่ของคุณจะเป็นคู่รัก พ่อแม่ ลูกคุณ เพื่อนคุณ หรือใครที่คุณมีความสัมพันธ์ด้วยก็ตาม
ผมขอให้คำแนะนำนี้ จงช่วยเปิดหัวใจของคุณให้รักได้อย่างอิสระมากขึ้นและรักอย่างไร้ความกลัวครับ
(มีต่อ)
หนังสือ
บันทึก
1
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
𝗠𝗲𝘀𝘀𝗮𝗴𝗲𝘀 𝗙𝗿𝗼𝗺 𝗧𝗵𝗲 𝗠𝗮𝘀𝘁𝗲𝗿𝘀
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย