17 พ.ย. 2021 เวลา 02:38 • ครอบครัว & เด็ก
#เจ้าปันสตอรี่ ตอนที่๓
"เริ่มลงมือปฏิบัติ...ล่ะนะ!"
ครบกำหนด ๓ เดือน สำหรับการลาหลังคลอดของภรรยา ถึงเวลาแปะมือส่งต่อให้ผมเป็นผู้เล่นตัวจริงบ้างแล้ว!
ตื่นเต้นครับ! ตื่นเต้นมาตลอดและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่รู้ว่าวันจะต้องลงมือปฏิบัติใกล้เข้ามา คิดๆดู! ภรรยาหรือคนเป็นแม่นี่เก่งแฮะ ที่อยู่ๆก็ลุกขึ้นมาทำหน้าที่แม่ได้เลย เราซะอีกที่มีเวลาศึกษาและปรับตัว ขนาดเป็นแบบนี้ก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้ ไอ้ผู้ชายเอ้ย! กระจอกจริง_ึง 😂
ช่วงแรกๆมีหน้าที่แค่เอาลูกเข้านอนและดูแลเค้าในตอนกลางคืน ส่วนกลางวันก็มีคนช่วยเหลือเต็มไปหมด ครอบครัวใหญ่ก็ดีอย่างนี้นี่เอง! ทำหน้าที่สังเกตการณ์ตามปกติ แต่เริ่มแทรกตัวเข้ามามีบทบาททีละนิดๆ
แม้ภรรยาจะจัดการอะไรต่อมิอะไรไว้เป็นระบบแล้ว เช่น การเข้านอนตรงเวลา ปิดไฟและพูดคุยกันเบาเพื่อสร้างบรรยากาศการนอนให้ลูก เป็นต้น บวกกับการที่ลูกปรับตัวได้ดีขึ้นจากการได้เปลี่ยนสถานที่นอนบ้าง แต่คืนแรกๆก็ทำเอาผมหมดแรงไปเหมือนกัน จึงเป็นที่มาของกระบวนการ "เอาลูกเข้านอนฉบับคนขี้เกียจ"
วิธีการคือ ผมเอาหมอนมาวางหนุนสูงๆบนเตียงตัวเอง แล้วนั่งเอนตัวพิง เอาลูกมาวางตรงระหว่างขาแล้วทำขาเป็นวงล็อคตัวเค้าไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกดิ้นจนตกเตียงถ้าผมเผลอหลับไป ค่อยตื่นมาดึกๆแล้วอุ้มลูกไปนอนในเตียงของเค้า
แต่ก็มีบางคืนที่ตื่นมาแล้วลูกไม่อยู่ในระหว่างขาของผม บางทีถึงขนาดถูกหนีบอยู่ระหว่างรอยต่อของเตียงผมกับเตียงเค้า ขาชี้ฟ้าหัวเกือบถึงพื้นก็มี ทั้งตกใจและขำที่เค้ายังหลับได้
ความใกล้ชิดของเราเริ่มแบบนี้! 😌
การได้ลงมาเป็นผู้เล่นหลักบ้าง ทำให้ผมได้รู้จักลูกมากขึ้น พอความตื่นเต้น เงอะงะลดลง ความคิด ความซุกซนของผมก็เริ่มกลับเข้ามาทำงานต่อทันที
ผมเริ่มทดลองโน่นนี่กับลูก เพราะรู้ว่าเค้าแข็งแรงกว่าที่คิด น่าจะทำอะไรได้อีกเยอะ!
อย่างตอนเค้าร้องไห้ผมลองยื่นนิ้วชี้ของทั้ง ๒ มือ ให้เค้าจับ แล้วให้เค้าออกแรงยกตัวเองขึ้นมา แรกๆก็ออกแรงดึงขื้นมานิดนึงก็หลุดลงไปร้องต่อ (ไม่เป็นไร! ร้องอยู่แล้วนี่นา เท่าทุน!) แต่พอทำบ่อยๆเค้าก็เกร็งตัวพร้อมออกแรงดึงตัวเองช่วยได้ด้วย แล้วผมถึงจะอุ้มเค้าขึ้นมา เรียนรู้ได้เร็วแฮะ!
ว้าว! อันนี้ก็เป็นส่วนต่อของการ "รอเป็น" และ "เลี้ยงง่าย" ด้วยนะเนี่ย!
ผมและภรรยาได้ลองทำอะไรแนวๆนี้อยู่อีกหลายอย่าง เช่น ตอนเจ้าปันเริ่มกระดึ๊บตัวได้ก็จะให้กระดึ๊บตัวมาหาก่อนแล้วถึงค่อยอุ้ม จะคอยทำเสียงให้ตื่นเต้นมีพลังเพื่อให้เค้ารู้สึกคึกคักที่จะทำ ยิ่งตอนคลานได้แล้วนี้สบายเลย เพราะจะเคลื่อนมาเร็วมาก
การเอามือมาจับขวดนมทุกครั้งที่นอนกินนมก็อีกอย่าง ทำจนเค้ารู้ว่าจะต้องจับเอง ให้นอนบนพื้นแล้วหนุนหมอนทานนม โดยไม่กังวลว่าหัวจะตกจากหมอนโขกกับพื้นหรือไม่ เพราะเชื่อว่าถ้าโขกซักครั้งก็จะรู้ และสร้างกลไกป้องกันตัวเองได้ในที่สุด
ทำสารพัดเท่าที่นึกออกเพื่อให้เค้ากิน อยู่ มีชีวิตที่ง่ายๆ สบายๆ ข้อแม้หรือเงื่อนไขน้อยที่สุด
อย่าบอกลูกนะ! ไม่ได้ทำเพื่อเค้าหรอก ทำเพื่อตัวเองล้วนๆ 🙄
ที่ประทับใจทั้งตัวเองและตอนเล่าให้เค้าฟังเมื่อโตขึ้นมาหน่อยคือ ในวัยที่คลานได้คล่องแล้ว เมื่อถึงเวลานอนผมจะชวนเค้าขึ้นไปนอนที่ห้องของเราที่ชั้น๓ (จะเรียกชั้น๔ ก็น่าจะได้ เพราะตึกแถวจะมีชั้นลอยระหว่างชั้น๑ และ๒ อยู่ด้วย)
โดยให้เค้าคลานขึ้นบันไดไปเองเกือบทุกคืน ผมจะคอยเดินคร่อมตัวเค้า เอามือรองห่างๆใต้คางเพื่อป้องกันคางหรือหน้ากระแทกบันได และจะคอยพูดคุยเพื่อให้จังหวะและสร้างความฮึกเหิม ทำให้เค้าสนุกไปตลอดทาง ส่วนภรรยาจะถือสารพัดสัมภาระเดินมาด้วยกันตลอด
ส่วนใหญ่ลูกจะหมดแรงเมื่อเลยชั้นลอยไปหน่อย ถึงตอนนั้นผมก็ค่อยอุ้มแล้วเดินต่อ แต่พอถึงชั้นนอนก็วางเค้าลง ปล่อยให้คลานเข้าห้องเอง
เหนื่อยมาแล้วนี่นา ก็นอนหลับง่ายสิคร้าบ!
อีกเรื่องที่ผม"คิดได้" หลังจากผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญบวกกับลงมือเลี้ยงเองมาซักระยะคือ เสียงร้องไห้ของลูกคือ "สัญญาณของการลงมือคิดและปฏิบัติการ" ของผม
เวลาที่ทุกสิ่งอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นนานเกินไป แม้จะเป็นเรื่องดีแต่ผมจะไม่สบายใจ และไม่สนุกเท่าไหร่ กังวลเพราะไม่รู้จะเรียนรู้อะไรจากลูก
ผมอยากทำอะไรก็ได้ที่ทำให้เราสื่อสาร เข้าใจกันมากขึ้น เร็วขึ้น
พอได้ยินเสียงเค้า "ร้องไห้" แม้จะเครียด แต่ลึกๆแล้วแอบมีความสุขมาก เพราะเป็นเวลา "ได้ทำอะไรอีกแล้วโว้ย! มาๆ อะไรอีกล่ะคราวนี้ สนุกละ!"
คิดแบบนี้แล้วตื่นตัว ตื่นเต้น สมองแล่นปรู๊ดปร๊าด!
เล่าให้ใครฟังเค้าก็ว่า "บ้า" แต่ผมเป็นแบบนี้จริงจริ๊งงงงงงงง! (เสียงสูงมาก) 😍😅
#คนโชคดี #ทำบุญ #mystyle #mysoul #เจ้าปันสตอรี่ #ในระหว่างความคิดถึง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา