24 พ.ย. 2021 เวลา 03:20 • หนังสือ
✴️ บทที่ 5️⃣ ทลายอุปสรรคขวางกั้นความปีติสุขของชีวิต ✴️ (ตอนที่ 6)
◾ความมั่นคงของที่พำนักแห่งจิตวิญญาณของคุณ◾
สารหนึ่งปลุกผมตื่นจากหลับ “เจ้าคือช่างไม้ สร้างบ้านแห่งจิตวิญญาณของเจ้าอยู่” ผมได้ยินสารนั้น “จำเป็นต้องใช้ค้อนสักกี่อันในการสร้างบ้านแห่งจิตวิญญาณนี้เล่า❓ ค้อนธรรมดา 𝟭,𝟬𝟬𝟬 อันใช้ได้ดีกว่าค้อนสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ 𝟭 อันงั้นหรือ❓ คุณภาพของบ้านต่างหากที่สำคัญ หาใช่ช่างไม้ที่ต้องใช้ค้อนกี่อันไม่”
เราเสียเวลากับการพยายามสะสมค้อนมากเกินไป และใช้เวลาในการสร้างบ้านแห่งจิตวิญญาณให้ได้คุณภาพน้อยเกินไป
บางครั้งพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดก็ไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้หรอกครับ★ พ่อแม่ของคุณ พี่น้องของคุณ หรือญาติๆ อาจจะไม่เข้าใจคุณเลย พวกเขาอาจจะไม่แสดงออกว่ารักหรือแคร์คุณ พวกเขาอาจจะปฏิเสธผลักไส หรือปฏิบัติกับคุณอย่างใจร้ายใจดำมาก คุณไม่จำเป็นต้องยอมทนให้ที่บ้านปฏิบัติต่อคุณเหมือนไม่ใช่คนเลยครับ ไม่มีพันธะแห่งกรรมข้อไหนที่ระบุว่าจะชดใช้หมดได้ก็ต้องยอมเป็นเป้าให้คนอื่นมาทำร้ายทารุณคุณให้พอ ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นญาติพี่น้องหรือไม่ก็ตาม การทารุณใครหรือทำอันตรายแก่ใคร เกิดจากจิตอิสระที่ผู้ทำร้ายเลือกทำเอง การทารุณไม่มีวันเกิดจากการที่ว่าคนคนนั้นสมควรโดน
★ หนัง 𝗱𝗿𝗮𝗺𝗮 เรื่อง 𝗦𝗜𝗠𝗢𝗡 𝗕𝗜𝗥𝗖𝗛 เน้นประเด็นนี้ที่ว่า 𝗯𝗶𝗼𝗹𝗼𝗴𝗶𝗰𝗮𝗹 𝗽𝗮𝗿𝗲𝗻𝘁𝘀 กับ 𝗿𝗲𝗮𝗹 𝗽𝗮𝗿𝗲𝗻𝘁𝘀 ไม่เหมือนกัน คนที่เป็นพ่อแม่ที่แท้จริงของเราอาจไม่ใช่พ่อแม่ที่ให้กำเนิด แต่คือคนที่รับเราไว้ในอ้อมกอด รักเรา ดูแลเรา และสนับสนุนเราอย่างแท้จริงต่างหากถึงจะเป็นพ่อแม่ที่แท้จริง : ผู้แปล
🛑 เมื่อคุณเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น คุณจะพบว่าตนเองห้อมล้อมไปด้วยเพื่อนๆและคนรอบข้างที่เขาห่วงใยอาทรคุณอย่างแท้จริง คนที่พร้อมจะให้ความมั่นคงแก่คุณอันเกิดจากการที่คุณได้รับความรักและได้รับการปฏิบัติอย่างนับถือและให้เกียรติกัน เพื่อนและคนรอบข้างอย่างนี้แหละครับคือ ครอบครัวที่แท้จริงของคุณ พวกเขาอาจจะร่วมแบ่งปันคุณค่าแห่งจิตวิญญาณกับคุณด้วยและคุณก็อาจจะได้ช่วยเขาวิวัฒน์พัฒนาไปในทางบวกจริงๆ บุคคลกลุ่มนี้แหละที่เป็นครอบครัวร่วมจิตวิญญาณของคุณ (𝗦𝗽𝗶𝗿𝗶𝘁𝘂𝗮𝗹 𝗳𝗮𝗺𝗶𝗹𝘆) หากคุณถูกผลักไสจากครอบครัวร่วมสายเลือด จากพ่อแม่พี่น้องที่ให้นามสกุล ตรงนี้แหละที่ครอบครัวร่วมจิตวิญญาณจะรับคุณไว้ เลี้ยงดูฟูมฟักคุณและกลายเป็น “ครอบครัวแท้จริง” ให้คุณเอง
🛑 ผมไม่ได้ขอให้คุณทอดทิ้งครอบครัวผู้ให้กำเนิดนะครับ และไม่ได้บอกให้คุณไม่เปิดใจพูดจากันด้วยดีด้วยหัวใจที่เปี่ยมความรักเมตตาแม้แต่น้อย แต่บอกคุณว่าอย่ายอมให้ตัวเองต้องทนถูกทำร้ายเลย ไม่ว่าจะทำร้ายทางกายหรือทางใจก็ตาม คุณไม่ต้องไปคิดหาเหตุผลในการทำร้าย ว่าคุณยอมทนได้เพราะคนที่ทำเป็นพ่อแม่พี่น้องเราเอง เป็นเพื่อนหรือเป็นชุมชนศาสนาของเราเอง
✨ มีคำพังเพยโบราณกล่าวไว้นานแล้วว่าเลือดข้นกว่าน้ำ หมายความว่า เมื่อถึงยามยากและผองเพื่อนกับคนรู้จักล้วนทำให้คุณผิดหวัง คุณยังสามารถฝากชีวิตไว้ใจในความสัมพันธ์ทางสายเลือดได้ หากว่าเลือดข้นกว่าน้ำจริง งั้นจิตวิญญาณก็ต้องข้นกว่าเลือด ถ้าอย่างนั้นคุณก็สามารถไว้ใจในครอบครัวร่วมจิตวิญญาณที่เขาจะอยู่เพื่อคุณได้แน่นอนครับ ✨
(จบ — บทที่ 5)
โฆษณา