15 ธ.ค. 2021 เวลา 01:11 • ไลฟ์สไตล์
"พลิกฌานสู่ญาน"
" …​ เปลื้องจิต หรือน้อมจิตเข้าสู่อมตธาตุ
นั่นสงบ นั่นระงับ นั่นประณีต ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง
ตรงเปลื้องจิต หรือน้อมจิตเข้าสู่อมตธาตุ
นั่นคือวิธีการพลิกจากสัมมาสมาธิ (ฌาน)
เป็นวิปัสสนาญาน (ญาน)
เพราะฉะนั้นคำว่า สมถะ ในพระพุทธศาสนา
หมายถึงสัมมาสมาธิ
แล้วคำว่าสมถะหรือสัมมาสมาธิในพระพุทธศาสนา
เริ่มต้นตั้งแต่ปฐมฌานเป็นต้นไป (ฌาน 1 : ความรู้สึกตัวทั่วพร้อม)
ไม่ใช่ขณิกสมาธิ ไม่ใช่อุปจารสมาธิ
ถ้าเอาตามพระสูตรในพระไตรปิฏกนะ
สงัดจากกามและอกุศลธรรมเข้าถึงปฐมฌาน
มีพระสูตรนึงที่ทรงตรัสไว้ว่า
เมื่อเข้าถึงปฐมฌาน ในปฐมฌานก็มีรูปนามอย่างละเอียด
ก็คือองค์ฌานนั่นแหละ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา
จะเป็นสภาวะรูปนามที่ละเอียดกว่า
ง่าย ๆ คือจะเป็นสภาวะของความรู้สึกตัวในชั้นพลังงานเป็นต้นไป
จากนั้นพระองค์จะสอนไว้ 11 ประการ
พิจารณาเป็นดุจโรค เป็นดุจหัวฝี เป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ
พิจารณา 11 ประการ
จากนั้นก็ทรงตรัสว่า น้อมจิตเข้าสู่อมตธาตุ
พลิกได้ตั้งแต่ปฐมฌาน หรือทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อมเป็นต้นไป
เมื่อพลิกแล้วไม่ใช่หลุดไปอมตธรรมเลยนะ
เมื่อพลิกแล้ว พระพุทธองค์ตรัสว่า ดำรงอยู่ในวิปัสสนาญาน
เห็นสภาวธรรมตามความเป็นจริง
สามารถทำอาสวขยญานให้หมดสิ้นไปได้
นั่นคือการพลิกจากฌานเป็นญาน
แยกออกไหมระหว่างฌาน กับ ญาน
ก็คือสมถะหรือสมาธิ กับ วิปัสสนาญาน
เพราะฉะนั้นสมาธิที่เกิดจากสติปัฏฐานในพระพุทธศาสนา
จะพลิกไปมาอย่างนี้ได้ตั้งแต่ปฐมฌานเป็นต้นไป
พระพุทธองค์ทรงไล่ไปเลย ฌาน 1 2 3 4
อากาสานัญจา วิญญานัญจา อากิญจัญญา เนวสัญญานา
พลิกไปมาอย่างนี้ได้ทั้งหมดเลย
ไม่ใช่อย่างที่เราเข้าใจว่าต้องถอยมาอุปจารสมาธิ
อันนั้นเป็นเรื่องของมิจฉาสมาธิ มันพลิกไม่ได้
แต่สัมมาสมาธินี่พลิกไปมาแบบนี้ได้
แล้วเราฝึกกันได้แบบนี้จริง ๆ ด้วย
ความรู้สึกตัวทั่วพร้อมเป็นรอยต่อของทั้งสมาธิและวิปัสสนาญาน
สามารถพลิกไปพลิกมาได้
พออยู่กับจิตตั้งมั่น
เกิดความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มันจะมีความตั้งมั่น
เป็นสมถะ เป็นสัมมาสมาธิ
พอพลิกเป็นวิปัสสนาญาน เกิดการเปลื้องจิต
จะเกิดภาวะที่เรียกว่า รู้ ตื่น แล้วก็เบิกบาน
อย่างคนที่เริ่มตั้งมั่น
จะพบว่าการรับรู้จะขยายวงกว้างออกไปได้ใช่ไหม ?
นั่นคือวิธีการพลิกเป็นวิปัสสนาญาน
พอเกิดภาวะรู้ตื่นเบิกบาน พลิกเป็นวิปัสสนาญาน
เข้าถึงอมตธรรม
ธรรมทั้งหลายก็จะปรากฏตามความเป็นจริง
เกิดการรู้เห็นตามความเป็นจริง
จะเกิดการแยกธาตุแยกขันธ์ แตกดับของใครของมัน
ตรงนี้เราสามารถฝึกซ้อมให้ชำนาญได้
ถ้าเรามีพื้นฐานที่ดี
คือ ทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อมได้ดี
พอพลิกเป็นสมาธิปุ๊บ จะเกิดใจตั้งมั่น จิตผู้รู้ขึ้นมา
พอพลิกเป็นวิปัสสนาญาน
เห็นการแตกดับของรูปของนามขึ้นมา
วิปัสสนาญานที่ละเอียดดีอย่างไร ?
สภาวะของฌานในแต่ละระดับจะละเอียดขึ้นไปเรื่อย ๆ
แล้วพอพลิกเป็นวิปัสสนา
จะเห็นสภาวะของวิปัสสนาที่ละเอียดขึ้นไปเรื่อย ๆ
ในระดับของความรู้สึกตัวทั่วพร้อม (ฌาน 1)
จะเห็นจิตเกิดตามอายตนะ
ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ
แต่ถ้าละเอียดกว่านั้น ไม่เกิดตามอายตนะแล้ว
เกิดที่ใจอย่างเดียว เกิดดับที่ใจ ๆ
แต่ถ้าเป็นระดับอรูปจะเริ่มเห็นสิ่งที่เรียกว่า
ละเอียดกว่าระดับวาระจิต
เป็นเรื่องของการเห็นปฏิจจสมุปบาท
เพราะฉะนั้นถ้าเราพลิกไปมาระหว่าง
วิปัสสนากับสมถะได้
เราจะเห็นการทำงานตรงนี้
ระหว่างมีตัวเรา กับไร้ตัวเรา
ตรงสภาวะจิตตั้งมั่น จิตผู้รู้นี้มันยังมีอาการยึดผู้รู้อยู่
มันจะเป็นตัวรู้ เป็นเรารู้ เราคิด เราพูด เราคุย เป็นตัวเรา
เวลาพลิกเป็นวิปัสสนาปุ๊บ แม้กระทั่งจิตผู้รู้นี้
ก็จะกลายเป็นสิ่งที่ถูกรู้ จะเห็นการแตกดับของจิต
ในสภาวะขณะนั้น อัตตาตัวตนจะไม่เกิดขึ้น
ตรงนี้เราจะเห็นได้เลยว่า
เวลาเรายึดขันธ์ 5 ปุ๊บ เกิดเป็นตัวเรา
เวลาหลุดจากการยึดถือปั๊บ จะเห็นเป็นแค่การแตกดับของรูปนาม
จิตก็จะกลายเป็นเพียงสิ่งที่ถูกรู้
เห็นรูปนาม ขันธ์ 5 แตกดับตามความเป็นจริง
และเมื่อใดที่หลุดจากการยึดมั่นถือมั่น
วิญญานขันธ์จะสลายตัวไป
จะเข้าถึงสิ่งที่เรียกว่า รู้ ที่บริสุทธิ์
ที่เป็นอมตธรรม … "
.
ธรรมบรรยาย
โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา