17 ธ.ค. 2021 เวลา 03:56 • หนังสือ
✴️ บทที่ 9️⃣ จงพบแสงสว่าง ✴️ (ตอนที่ 3)
◾ อีกมิติหนึ่ง ◾
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
“มนุษย์มักชอบคิดเสมอว่าตนเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างเดียวในโลก จริงๆแล้วไม่ใช่เลย ที่จริงแล้วมีหลายโลก หลายภพภูมินัก...มีอีกมากมาย...มากหลายดวงวิญญาณนัก...”
 
“มีวิญญาณสถิตอยู่มากหลายในมิตินี้ ไม่ใช่มีแค่ฉันดวงเดียว พวกเราต้องรู้จักอดใจรอ มีบางสิ่งที่เราเองก็ยังไม่ได้เรียนรู้เช่นกัน...มีหลายมิติจริงๆ”
 
ผมถามเธอว่าเธอเคยอยู่ในภพนี้ไหม ว่าเธอเคยเกิดมาแล้วกี่ชาติ
 
“ฉันอยู่มาแล้วหลายระนาบ หลายช่วงเวลา แต่ละระนาบล้วนอยู่ในระดับจิตขั้นสูง เราไปเกิดในระนาบไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าเราก้าวหน้าไปได้ไกลแค่ไหนนั่นเอง”
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
มีคนเกิดในภพโลกมากมายกว่าแต่ก่อนก็จริงครับ แต่ดวงวิญญาณมีจำนวนมากกว่าคนเสียอีก โลกเราไม่ได้มีอยู่โลกเดียว ดวงวิญญาณดำรงอยู่ในหลากหลายมิติ เหล่าดวงวิญญาณถูกดึงดูดมาเกิดในโลกเรานี้มากขึ้นๆก็เพราะโลกซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนหลายโรงเรียน เป็นโรงเรียนที่โดดเด่นมากที่หนึ่งนั่นเอง ที่นี่มีอะไรให้เรียนรู้ได้เยอะ
เมื่อผมพูดถึง “มิติอื่นๆ” ผมหมายถึง สภาวะแห่งพลังงานในอีกสภาวะหนึ่ง หรือระดับอื่นๆของจิตรับรู้ ไม่จำเป็นต้องหมายถึงดาวเคราะห์อื่นในกาแล็กซีอื่นแต่ประการใด — สวรรค์เองก็จัดว่าเป็นอีกมิติหนึ่งเช่นกัน เพราะว่ามีการเปลี่ยนรูปพลังงาน (𝗲𝗻𝗲𝗿𝗴𝘆 𝘁𝗿𝗮𝗻𝘀𝗳𝗼𝗿𝗺𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻) ที่สูงไปกว่า 𝘁𝗵𝗿𝗲𝗲 𝗱𝗶𝗺𝗲𝗻𝘀𝗶𝗼𝗻𝗮𝗹 𝗰𝗼𝗻𝘀𝗰𝗶𝗼𝘂𝘀𝗻𝗲𝘀𝘀 คือจิตรับรู้จำกัดแค่ 𝟯 มิติ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ผมเชื่อว่าพลังงานแห่งความรักมีคุณสมบัติของทั้งกายหยาบและกายละเอียด (𝗽𝗵𝘆𝘀𝗶𝗰𝗮𝗹 𝗮𝗻𝗱 𝗲𝘅𝘁𝗿𝗮𝗽𝗵𝘆𝘀𝗶𝗰𝗮𝗹) และสามารถดำรงอยู่ได้ในทุกๆมิติ รักคือสสารที่เชื่อมร้อยหลอมรวมมิติทั้งมวลและระนาบต่างระดับที่พ้นจากกายเนื้อเข้าไว้ด้วยกัน
ในหนึ่งระนาบหนึ่งมิติอย่างนี้ก็เถอะ อนุภาค (𝘀𝘂𝗯-𝗹𝗲𝘃𝗲𝗹) ยังมีอยู่จริงตั้งมากมาย เปรียบเทียบอย่างนี้คือจะบอกว่าในสวรรค์เองก็มีหลายระดับชั้นเช่นกัน เราจะก้าวสูงตามลำดับชั้นทีละขั้นก็ต่อเมื่อเราบรรลุพุทธิปัญญามากขึ้นและมากขึ้นไปเรื่อยๆนั่นเอง
จะว่าไป “มนุษย์เองนั่นแหละก็เป็นมนุษย์ต่างดาวเช่นกัน” ไม่มีใครหรอกที่เริ่มมาเกิดบนโลกนี้เลย โลกเรานี้เป็นดั่งโรงเรียนมัธยม ไม่ใช่ระดับต่ำสุดแต่ก็ไม่ใช่สูงสุดอยู่ดี ทว่ากลับเป็นโรงเรียนที่มีผู้อยากมาเรียนมากจริงๆ พอเราเรียนจบเมื่อไหร่เราก็ย้ายไปที่อื่น
กระนั้นในสายตาของจักรวาลแล้ว ดวงวิญญาณต่างเหมือนกัน
. . .
โรเบิร์ต พนักงานเสิร์ฟหนุ่มที่ประสบกับชีวิตลำเค็ญมากเหลือเกินในชาติภพปัจจุบัน เขาเศร้าเหงาเป็นทุกข์เรื้อรังตลอดกาล สิ่งที่จะช่วยชื่นชูใจเขาได้แทบไม่มี เขามีปัญหาเงินๆทองๆ ตั้งใจหลบลี้จากการมีสัมพันธ์ใดๆทั้งปวงด้วยว่าเขาถูกทำร้ายมามากแล้วตั้งแต่วัยเด็ก ด้วยการข่มกิเลสอย่างแข็งกล้า ใบหน้าของเขาแทบไม่เคยทรยศความรู้สึกเลย
ในภวังค์สะกดจิตลึกเขาก็เข้าไปอยู่ในสวนหรืออาจจะเป็นฉากป่าดงดิบเขตศูนย์สูตร ทันทีนั้นเขาก็ร่ำไห้ออกมาด้วยน้ำตาแห่งความปีติและความสุขล้ำ เขาพูดแทบไม่ได้เลย การแสดงอารมณ์ขนาดนี้ถือว่าไม่ใช่นิสัยเขาเลยแม้แต่น้อย
“รู้สึกเป็นอย่างไรบ้างครับ” ผมถามเขา
“มันเป็น...เป็นเหมือนกับป่าดงดิบ...เป็นบ้าน...บ้าน...” เขาตอบช้ามากๆ กระแสเสียงของเขาเครือไปด้วยอารมณ์
“เหมือนคุณกำลังเจออะไรบางอย่างที่แรงมากเลย เจออะไรครับ”
“ความสุข...” หยาดน้ำตาไหลพรากลงมาตามร่องแก้ม เขาแทบจะเอ่ยออกมาไม่ได้เลย ผมจึงปลุกเขาให้ฟื้นหลังจากย้อนจิตต่อไปได้แค่ไม่กี่นาที ผมได้แต่หวังใจว่าเขาจะสามารถบรรยายต่อได้ในสภาวะจิตตื่นเต็มที่แบบนี้ ในภาวะที่อารมณ์ไม่ตื้นตันเข้มข้นมากนัก สองสามนาทีให้หลังเขาจึงได้สติฟื้นคืน
ผมถามเขาว่า “คุณเห็นอะไรหรือครับ”
“ผมเห็นภาพเหมือนวิมานเลยครับ... เขียวชอุ่มของจริง...สว่างไสว... ไม่มีใครอื่นอยู่ที่นั่นเลย...”
“แล้วทำไมคุณถึงรู้สึกรุนแรงขนาดนั้นล่ะครับ” ผมถามต่อแต่ดูเหมือนเขาจนด้วยเกล้าที่จะตอบ เขายังหวั่นไหวอยู่กับประสบการณ์ของตัวเอง
ที่สุดแล้วเขาก็ยอมเล่าแต่สั้นมากว่า
“ผมรู้สึกราวกับว่าตัวเองจะต้องกลับไปอยู่ในสถานที่นั้นอีกครั้งโดยไม่มีทางเลี่ยงได้ ผมมีความรู้สึกว่าผมรู้ว่าตัวเองเคยอยู่ที่นั่นมาก่อน แล้วยังเป็นสถานที่ที่ผมจะได้ไปหา...ผมเลยไม่อยากเร่งอะไร ผมยังอยากจะรู้สึกถึงการก้าวไปแต่ละขั้นๆด้วยครับ”
ต่อมาจนเข้าปลายอาทิตย์แล้วนั่นแหละเขาถึงอธิบายความรู้สึกคุ้นมาก อธิบายความรู้สึกปลอดภัยและสงบสุขมากเสียจนเหลือเชื่อที่เขาได้ประสบกับตัวเองในระหว่างทำการย้อนอดีตออกมาได้ ตัวเขาเองก็ยังหาคำพูดมาบรรยายการได้เห็นวิมานไพรแห่งนั้นได้ยากอยู่ คราวนี้ไม่ใช่ติดอุปสรรคที่อารมณ์เข้มข้นมาขวางคำพูด หากแต่เป็นเพราะว่าถ้อยคำต่างหากที่มิอาจพรรณนาความงดงาม ความปีติ และประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ได้เที่ยงตรงตามจริงได้ มันเป็นเรื่องเหลือที่จะกล่าวได้จริงๆ
ผมเชื่อว่าโรเบิร์ตเจอประสบการณ์ทางจิตวิญญาณมากกว่าจะเป็นความทรงจำจากอดีตชาติครับ
✨ ความปีติสุขอันแรงกล้าจับคู่กันกับภาพน่าตื่นใจบวกความจนถ้อยคำมาบอกเล่ารายละเอียดคืบหน้าต่อไปเหมือนดั่งชี้ให้ผมรู้อะไรบางอย่าง ชายหนุ่มได้เจอประสบการณ์กลับสู่บ้านอีกครั้งหนึ่งอย่างไรเล่า แผ่นดิน...โลกสามมิติ...ไม่ใช่บ้านที่แท้จริงของพวกเราหรอกครับ เราต่างก็เป็นดวงวิญญาณและบ้านที่แท้จริงของเรามีแต่บ้านแห่งจิตวิญญาณเท่านั้นครับ สถานที่ที่หลุดพ้นจากกรอบของกาลเวลา ที่ที่พวกเราหลายต่อหลายคนให้ชื่อว่า “สวรรค์” นั่นเอง ✨
(จบ — บทที่ 9)
โฆษณา