18 ธ.ค. 2021 เวลา 08:51 • ปรัชญา
"รู้จักโลก"
"ข้อคิดเพื่อปัญญา" เป็นข้อความที่ อ.ประเสริฐ ใช้ฝึกทีมงาน
รู้จักโลก ...
"ถ้าจะทำความรู้จักโลกใบนี้
ต้องไม่ยึดมั่นในตำบลอำเภอที่เรายืนอยู่
แต่อาศัยเม็ดดิน เม็ดทรายที่ใต้ฝ่าเท้าเรานั่นแหละ
ที่จะเรียนรู้โลกใบนี้
แต่หากยึดมั่นในเม็ดดินเม็ดทรายใต้ฝ่าเท้านี้
จะได้แค่ความรู้ทางธรณีวิทยาเท่านั้น ไม่รู้จักโลก"
...
ทีมงานคนที่ 1 ตอบ : ต้องทิ้งสติค่ะอาจารย์
ทีมงานคนที่ 2 ตอบ : สุดท้ายปัญญาก็ต้องทิ้ง
ทีมงานคนที่ 3 ตอบ : แม้นละความยึดมั่นถือมั่นในเม็ดทรายใต้ฝ่าเท้าเราได้ ...ตราบใดที่ยังมีเท้าอยู่ ก็ยังไม่ถือว่าอิสระจากความยึดมั่นอย่างแท้จริง หากเพียงปล่อยตนเป็นอิสระจากสิ่งทั้งปวง ก็อาจไม่ต้องศึกษาเม็ดทราย แต่ผสานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสรรพสิ่ง
ติดตามเฉลยข้อความ ZEN ในตอนต่อไป ... “รู้จักโลก”
เฉลยข้อความ ZEN : รู้จักโลก
ถ้าจะทำความรู้จักโลกใบนี้
ต้องไม่ยึดมั่นในตำบลอำเภอที่เรายืนอยู่
แต่อาศัยเม็ดดิน เม็ดทรายที่ใต้ฝ่าเท้าเรานั่นแหละ
ที่จะเรียนรู้โลกใบนี้
แต่หากยึดมั่นในเม็ดดินเม็ดทรายใต้ฝ่าเท้านี้
จะได้แค่ความรู้ทางธรณีวิทยา ไม่รู้จักโลก
ความหมายคืออะไร ?
:
"ถ้าจะทำความรู้จักโลกใบนี้"
ภาษาโลกหรือภาษาธรรมในประโยคแรก แทบจะทับเป็นความหมายเดียวกัน เพราะจะให้เป็นโลกใบนี้หรือขันธโลกก็ได้
...
"ต้องไม่ยึดมั่นในตำบลอำเภอที่เรายืนอยู่"
คืออย่ายึดมั่นถือมั่นในบัญญัติ ตรงนี้ความหมายเริ่มเชิงซ้อน เช่นถ้ามัวยึดมั่นว่าเราอยู่อำเภอนี้ เราจะไม่รู้จักอำเภออื่นๆ ทั้งๆ ที่คำว่าอำเภอหามีไม่ ไม่อย่างนั้นรู้จักบริเวณที่เราอยู่ก็จะรู้จักทุกๆ ที่ได้เพราะมันเหมือนกัน
ในส่วนการปฏิบัติก็เช่นเดียวกัน ถ้าเราดูขาด้วยความเป็นขา เราจะเข้าไม่ถึงความเป็นรูป ถ้าผู้ดูก็เป็นเรา ก็จะไม่เข้าใจนามธรรมที่แท้จริง
...
"แต่อาศัยเม็ดดิน เม็ดทรายที่ใต้ฝ่าเท้าเรานั่นแหละ
ที่จะเรียนรู้โลกใบนี้ "
แต่การเรียนรู้โลกนี้ทั้งหมด กลับอาศัยเพียงเม็ดดิน เม็ดทรายเล็กที่แสดงผลออกมาเป็นไตรลักษณ์ เป็นเครื่องพากลับไปสู่ความเป็นรูปนาม
เมื่อเข้าใจรูปนามที่เม็ดดิน เม็ดทราย ก็จะไปเข้าใจทั้งโลกนี้ได้เช่นกัน เพราะมาจากกำเนิดเดียวกันและอยู่ใต้กฎเดียวกัน
...
"แต่หากยึดมั่นในเม็ดดินเม็ดทรายใต้ฝ่าเท้านี้
จะได้แค่ความรู้ทางธรณีวิทยา ไม่รู้จักโลก"
แต่หากศึกษาด้วยความยึดมั่นว่า "ดิน" โดยความเป็น "ดิน" ก็จะเข้าไปไม่ถึง "ดิน" ที่แท้จริง เพราะ "ดิน" ที่แท้จริงนั้น จริงๆ ไม่เคยใช่ "ดิน" แต่เป็นเพียงเหตุปัจจัยสร้างความแปรเปลี่ยนมาเป็นสิ่งที่เราเรียกสภาพชั่วคราวนั้นว่า "ดิน" แต่มันเองก็ไม่ใช่ "ดิน" และไม่เคยเป็น "ดิน" แต่ก็คือ "ดิน"
แต่หากมัวแต่ยึดมั่นถือมั่นในความเป็นดิน และข้ารู้เรื่องดิน ข้าเป็นผู้รอบเรื่องดิน ก็ยังเป็นเพียงผู้รู้ ผู้มีสัมมาทิฏฐิ ก็จะเป็นเพียงคนที่มีความรู้เรื่องดินเรื่องทราย หารู้จัก "โลก" ที่แท้จริงไม่ ยังไม่สามารถเข้าสู่ที่สุดแห่งทุกข์ได้
จนกว่าจะวางสติ วางปัญญาลงนั่นล่ะเพราะความเห็นถูกจนที่สุดจนเกิดผลเป็นสัมมาญานและสัมมาวิมุตติ นั่นจึงจะเป็นที่สงบเย็นอย่างแท้จริง
...
ถ้าเป็นจอมยุทธ์ อาจจะบอกว่า “ดิน ทราย โลก มีแต่ธรรม” หรือ “จะไปสนใจทำไม ของเป็นทุกข์ ยิ่งยุ่งด้วย ยิ่งพาทุกข์” นี่คือการซัดกระบี่กลับไป ซึ่งผู้พูดจะรู้ทันทีว่าคนที่สนทนาด้วยไม่ธรรมดาแต่เริ่มกลับสู่ธรรมดา
คำตอบทั้ง 2 คำตอบแรกมุ่งไปที่การปฏิบัติมากไปนิด มองไม่เห็นภาพกว้างจริงๆ ถ้าออกมาจากจิตจริงๆ สภาพวิญญานดับ สติ ปัญญา นามรูป ดับ
แต่คำตอบสุดท้าย เข้าไปใกล้ความจริงของธรรมชาติมากๆ ที่เรียกว่า นิพพาน เพราะวางสิ้นแม้ตัวตนไม่มีผู้เป็นเจ้าของสภาพใดๆ ทั้งสิ้น สลายคืนสู่ธรรมชาติเข้าถึงสุญญตา
ที่เหลือก็ไปทำให้เกิดตามสิ่งที่เข้าใจซะ
จอมยุทธทั้งหลาย..ไปหัดขว้างกระบี่ด้วย
.
โดยท่านอาจารย์ ประเสริฐอุทัยเฉลิม
2013-09-25
อ้างอิง :
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา