19 ธ.ค. 2021 เวลา 06:58 • ประวัติศาสตร์
[ตอนที่ 50] ตำนาน “ไก่แห่งเมืองเบอร์เซลุช” ของโปรตุเกส...ที่ไม่เกี่ยวกับการออกไข่เพื่อช่วยเหลือผู้คนแต่อย่างใด
อนุสาวรีย์รูปไก่สีดำในโปรตุเกส [Credit ภาพ: www.portugalthings.com]
หากใครเคยไปเที่ยวประเทศโปรตุเกส หรือเรียนภาษาโปรตุเกสอาจเคยเจอรูปภาพหรือของที่ระลึกรูปไก่สีดำหงอนสีแดง (ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นทาสี ผ้าปูโต๊ะ กล่องไม้ หรือแผ่นกระเบื้อง) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของโปรตุเกส จากเรื่องราวในตำนาน “ไก่แห่งเมืองเบอร์เซลุช” แล้วตำนานเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เชิญอ่านกันได้เลยครับ
หน้าปกตำราเรียนภาษาโปรตุเกสสำหรับชาวต่างชาติ "Get started in Portuguese"ในหนังสือชุด Teach Yourself ฉบับตีพิมพ์ ค.ศ.2010 (ซ้าย) และ ค.ศ.2013 (ขวา) ต่างก็นำรูปไก่สีดำของโปรตุเกสขึ้นปกหน้า
ตำนานพื้นเมือง “ไก่แห่งเมืองเบอร์เซลุช” (ภาษาอังกฤษ: Rooster of Barcelos / ภาษาโปรตุเกส: Galo de Barcelos) ของโปรตุเกสเป็นเรื่องราวว่าด้วยไก่ที่ตายแล้วแต่กลับฟื้นขึ้นมาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์และขัดขวางไม่ให้ชายหนุ่มถูกลงโทษประหารชีวิต โดยสถานที่จริงที่เกี่ยวข้องเนื้อเรื่องในตำนานนี้คือไม้กางเขนสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 ในวังของเคานต์แห่งเมืองเบอร์เซลุช (ภาษาโปรตุเกส: Paço dos Condes de Barcelos) วังแบบกอทิกในเมืองเบอร์เซลุช ทางตอนเหนือของประเทศโปรตุเกส
1
ภาพถ่ายแสดงวังของเคานต์แห่งเมืองเบอร์เซลุช (Paço dos Condes de Barcelos)ปรากฏเป็นซากอาคารทางด้านหน้าในภาพ [Credit ภาพ: User 'Joseolgon' @ Wikipedia.org]
เนื้อเรื่องของตำนานพื้นเมือง “ไก่แห่งเมืองเบอร์เซลุช” กล่าวว่าในกาลครั้งหนึ่งที่โปรตุเกสช่วงสมัยกลาง เจ้าที่ดินบริเวณเมืองเบอร์เซลุชถูกปล้นขโมยทรัพย์สิน ชาวเมืองเบอร์เซลุชจึงออกตามหาตัวคนร้าย
จนวันหนึ่ง มีชายหนุ่มชาวแคว้นกาลิเซีย (ดินแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสเปนในปัจจุบัน) เดินทางบนเส้นทางนักบุญยากอบ (ภาษาสเปน: Camino de Santiago) ผ่านเมืองเบอร์เซลุชพอดี และตกเป็นผู้ต้องสงสัย แม้ว่าชายหนุ่มจะกล่าวว่าตนเองบริสุทธิ์ เป็นเพียงคนที่เดินทางจาริกแสวงบุญที่อยู่ระหว่างทางมุ่งหน้าสู่อาสนวิหารแห่งเมืองซานเตียโกเดกอมโปสเตลา (Santiago de Compostela - เมืองหลักของแคว้นกาลิเซีย) ศาสนสถานแห่งนักบุญยากอบในศาสนาคริสต์
1
แผนที่แสดง "เส้นทางนักบุญยากอบ" ซึ่งเป็นเครือข่ายเส้นทางจาริกแสวงบุญของชาวคริสต์ในยุโรปตั้งแต่สมัยกลาง (ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10) โดยมีปลายทางที่เมืองซานเตียโกเดกอมโปสเตลา ในแคว้นกาลิเซีย (ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปนในปัจจุบัน) [Credit ภาพ: Manfred Zentgraf]
แผนที่ Google Map แสดงเส้นทางในการเดินทางจากกรุงลิชบัว (ลิสบอน / Lisbon) เมืองหลวงของโปรตุเกสไปยังเมืองซานเตียโกเดกอมโปสเตลาในแคว้นกาลิเซียของสเปนที่ผ่านเมืองปอร์ตุ (Porto - เมืองใหญ่อันดับ 2 ของโปรตุเกส) และเมืองเบอร์เซลุช (Barcelos)
แต่ผู้มีอำนาจยังคงสั่งจับกุมชาวหนุ่มชาวกาลิเซียและตัดสินประหารชีวิต ชายหนุ่มขอให้เจ้าหน้าที่พาตัวเขาไปคุยกับผู้พิพากษาในช่วงก่อนการประหาร เจ้าหน้าที่ตกลงพาเขาไปบ้านผู้พิพากษาที่กำลังจัดงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อน ๆ
เมื่อชายหนุ่มที่ใกล้ต้องรับโทษที่ตนไม่ได้ก่อเจอกับผู้พิพากษา ได้ย้ำความบริสุทธิ์ของตนอีกครั้ง ชี้ไปยังไก่อบที่อยู่บนโต๊ะอาหารในงานเลี้ยง กล่าวสาบานว่า “หากตนเองบริสุทธิ์ ขอให้ไก่ตัวนั้นขันออกมาตอนที่ตนถูกแขวนคอ” แม้ว่าผู้พิพากษาจะปฏิเสธคำอุทธรณ์ แต่ก็ให้เก็บไก่อบจานนั้นไว้ยังไม่ให้ใครกิน
จากนั้น ขณะที่ชายหนุ่มผู้แสวงบุญกำลังถูกแขวนคอ ไก่อบได้ลุกขึ้นมาขันตามคำสาบาน ผู้พิพากษาเข้าใจแล้วว่าชายหนุ่มเป็นผู้บริสุทธิ์จึงรีบไปยังลานประหารที่แขวนคอนักโทษประหารชีวิตเพื่อสั่งยุติการลงโทษ แม้ว่าชายหนุ่มจะถูกแขวนคอแล้ว แต่โชคดีที่ปมผูกเชือกแขวนคอนั้นหลวมจนเขารอดชีวิตมาได้ สุดท้ายแล้วชายหนุ่มก็ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระและเดินทางกลับแคว้นกาลิเซีย
ในเวลาหลายปีต่อมา ชายหนุ่มเดินทางมายังเมืองเบอร์เซลุชอีกครั้ง สลัก “ไม้กางเขนแด่เจ้าแห่งไก่” (ภาษาโปรตุเกส: Cruzeiro do Senhor do Galo) เพื่ออุทิศแก่พระแม่มารีย์และนักบุญยากอบ สัญลักษณ์รูปไก่ในตำนานเรื่องนี้กลายเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความศรัทธา ความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม และความโชคดี
“ไม้กางเขนแด่เจ้าแห่งไก่” (ภาษาโปรตุเกส: Cruzeiro do Senhor do Galo) ที่ลานในวังของเคานต์แห่งเมืองเบอร์เซลุช (Paço dos Condes de Barcelos) ซึ่งมีการสลักรูปไก่บนฐานทางด้านหลังไม้กางเขน (ไม่ปรากฏในรูป) [Credit ภาพ: Município de Barcelos]
ตามธรรมชาติของตำนานพื้นเมืองเมื่อมีการเล่ากันหลายพื้นที่ในโปรตุเกสจากปากต่อปาก จากรุ่นสู่รุ่น รายละเอียดเนื้อเรื่องจึงมีแบบอื่น ๆ หลายแบบ เช่น...
- ชายหนุ่มไม่ได้เป็นผู้เดินทางจาริกแสวงบุญ แต่เป็นแขกที่เจ้าที่ดินเชิญมางานเลี้ยง ก่อนที่ทรัพย์สินจะสูญหาย
- ชายหนุ่มแวะพักที่โรงเตี๊ยมในเมืองเบอร์เซลุชระหว่างการเดินทาง ก่อนถูกเจ้าของโรงเตี๊ยมจอมโลภใส่ร้ายเมื่อเกิดคดี
- ผู้เดินทางจาริกแสวงบุญมี 2 คนเป็นพ่อกับลูกชาย (แทนที่จะเป็นชายหนุ่มคนเดียว) คนที่จะโดนแขวนขอเป็นลูกชาย และผู้เป็นพ่อเป็นคนสาบานว่าหากลูกชายบริสุทธิ์ ขอให้ไก่อบลุกขึ้นมาขัน
- ไก่อบลุกขึ้นมาขันในเวลาที่ประกาศคำตัดสินโทษประหารชีวิต โดยที่ชายหนุ่มยังไม่ถูกพาตัวไปลานประหาร
- ไม่ระบุว่าชายหนุ่มผู้ต้องโทษประหารเป็นคนแคว้นกาลิเซีย
นอกจากนี้ ยังมีตำนานที่มีเนื้อเรื่องแนว “การสาบานว่าขอให้ไก่ในจานลุกขึ้นมาร้องขันหากตัวเอกในตำนานบริสุทธิ์ไม่ได้เป็นผู้ร้ายในคดี” ยังมีที่แคว้นลาริโอฆา (La Rioja) ทางเหนือของประเทศสเปน โดยเป็นตำนานเกี่ยวกับนักบุญโดมินิก (Dominic de la Calzada)
การก้าวเข้ามาเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมในโปรตุเกสของตำนาน “ไก่แห่งเมืองเบอร์เซลุช” เริ่มต้นเมื่อ Domingos Côto (มีชีวิตในช่วง ค.ศ.1877-1959) ช่างฝีมือชาวโปรตุเกสได้ออกแบบและปั้นเครื่องปั้นดินเผารูปไก่สื่อถึงตำนานนี้ในปี ค.ศ.1935 ก่อนจะเป็นงานฝีมือที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโปรตุเกส จนช่างฝีมือชาวโปรตุเกสคนอื่นเริ่มลอกและดัดแปลงผลงานในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเซรามิก งานไม้ หรือของที่ระลึก
ภาพถ่ายของที่ระลึกรูปไก่ที่วางขายในเทศกาลไม้กางเขน (Festa das Cruzes) ในเมืองเบอร์เซลุชเมื่อปี ค.ศ.1960 [Credit ภาพ: www.pressreader.com]
อีกทั้ง “อังตอนียู ดึ ออลีไวรา ซาลาซาร์” (António de Oliveira Salazar) ผู้นำรัฐบาลเผด็จการโปรตุเกสช่วง ค.ศ.1932-1968 ที่มีแนวทางอนุรักษ์นิยมและชาตินิยม ได้ประกาศให้สัญลักษณ์รูปไก่ในตำนานพื้นเมือง “ไก่แห่งเมืองเบอร์เซลุช” เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของโปรตุเกสตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน
ของที่ระลึกรูปไก่สีดำหงอนแดงของโปรตุเกส [Credit ภาพ: Craig Howell]
อย่างไรก็ตาม เนื้อหาตำนานพื้นเมืองโปรตุเกสเรื่อง “ไก่แห่งเมืองเบอร์เซลุช” ไม่มีรายละเอียดเนื้อเรื่อง “ชายผู้จาริกแสวงบุญผู้ต้องโทษประหารชีวิตขอสาบานให้มีไข่ออกมาจากไก่อบ หากตนเป็นผู้บริสุทธิ์” แต่อย่างใดครับ
1
หากท่านชอบเนื้อหาในบล็อกนี้ สามารถกด “ติดตาม” บล็อกนี้บน Blockdit ได้ครับ...แล้วพบกันใหม่ในเนื้อหาตอนหน้าครับ
1
โฆษณา