20 ธ.ค. 2021 เวลา 05:34 • ปรัชญา
“อริยบุคคลใครรับรอง”
“ … ผู้ที่จะรับรองความเป็นอริยะขั้นนั้นขั้นนี้
มีแต่ พระพุทธเจ้าเท่านั้น
ให้เราเข้าใจว่า การปฏิบัติจริง ๆ เป็นไปเพื่อการ “ละ”
แต่เราสามารถเอาสังโยชน์มาจับได้
กิเลสตัวไหนลดไปบ้าง สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉาต่าง ๆ
กามราคะ โทสะ มานะอะไรต่าง ๆ
สามารถเทียบเคียงสภาวธรรมได้
แต่ไม่ใช่ปฏิบัติเพื่อความมี ความเป็น
ปฏิบัติเพื่อสละ ละ วาง
ความโลภ ความโกรธ ความหลง ลดลง
นี่คือการปฏิบัติที่ถูกต้อง
ถ้าปฏิบัติไปแล้วโลภขึ้น หลงขึ้น โกรธขึ้น มานะทิฏฐิตัวตนมากขึ้น
ให้เข้าใจว่าเราเดินอยู่ผิดทาง ออกข้าง ๆ คู ๆ อยู่เลย
1
ปฏิบัติจริง ๆ จะเป็นคนปกติ ธรรมดา
คนภายนอกดูไม่ออกหรอก
เป็นความเป็นปกติ ความเป็นธรรมชาติ ความเป็นธรรมดา
ถ้าเราปฏิบัติแล้วรู้สึกว่า EGO เยอะ ตัวตนเยอะ
ต้องวางฟอร์มว่าเราเป็นนักปฏิบัตินะ อย่างนู้นอย่างนี้นะ
ให้เข้าใจว่า ยังเดินนอกทางอยู่
ปฏิบัติแท้จริงแล้วเพื่ออะไร ?
ลด ละ เลิก อัตตาตัวตน
นักปฏิบัติจริง ๆ ที่ตรงต่อธรรมนี้
คนภายนอกดูไม่ออกเลยว่าเป็นนักปฏิบัติธรรม
ของจริงนี่ เราเดินชนไหล่ เราก็ไม่รู้
เพราะมันเป็นเรื่องของสภาพข้างในที่ไร้อุปาทาน การยึดมั่นถือมั่น
ฉะนั้นปฏิบัติแล้วความโลภ ความโกรธ ความหลง
อัตตาตัวตนมันจะลดลง ๆ
จะกลายเป็นความปกติ ความเป็นธรรมดา ความเรียบง่าย
ถ้าอะไรที่มันสวนทางตรงนี้ ให้รู้ว่ามันยังนอกทางอยู่
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า
“สิ่งใดที่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด
เพื่อการสละ ละ วาง เพื่อความสงบระงับ
สิ่งนั้นเรียกว่า ..​. ธรรม​
สิ่งใดตรงกันข้าม ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย
ไม่เป็นไปเพื่อความสงบระงับ
ไม่เป็นไปเพื่อการสละ ละ วาง
ไม่เป็นไปเพื่อการบรรลุยิ่ง
สิ่งนั้น …​ ไม่ใช่ธรรม “
ให้สำรวจตัวเองดูว่า
การยึดมั่นมากขึ้น หรือ ลดลง … “
.
ธรรมบรรยาย
โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา