27 ธ.ค. 2021 เวลา 03:43 • หนังสือ
✴️ บทที่ 1️⃣1️⃣ ครู ✴️ (ตอนที่ 1)
บทที่ 1️⃣1️⃣ ครู
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
เราเองยังต้องเรียนรู้ด้วยว่า อย่าเข้าหาแต่เฉพาะคนที่มีความสั่นสะเทือนตรงกับเรา การดึงดูดเข้าหาใครที่อยู่ในระดับเดียวกับที่เจ้าอยู่เป็นเรื่องปกติ แต่ทำอย่างนี้ไม่ถูก เจ้าเองก็ต้องไปหาคนที่มีระดับความสั่นสะเทือนผิดไป...จากเจ้าด้วยเช่นกัน เรื่องนี้สำคัญมาก...ในการช่วย...คนเหล่านี้
เส้นทางของเราคือย้อนกลับเข้าหาภายใน นี่เป็นทางที่ยากกว่า เป็นการเดินทางที่เจ็บปวดกว่า เราต่างแบกรับความรับผิดชอบในการเรียนรู้ของเราเอง
〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️
ครูผู้เปี่ยมปัญญาท่านเดินวนเวียนอยู่ท่ามกลางพวกเรา คอยชี้ทางให้ คอยแบ่งเบาความหนักอึ้งให้ตลอดเส้นทางจิตวิญญาณ โชคร้ายที่กลางทางเรากลับต้องเจอคนที่แสร้งเป็นครู จะด้วยถูกแรงผลักจากความผยองจากอัตตา จากความโลภ ความไม่มั่นคงหรือด้วยแรงเห็นแก่ตัวอื่นใดก็ตาม พวกเขาสวมหัวโขนความเป็นครูหรืออาจารย์เอาไว้มิด พวกนี้เอาแต่สั่งสอนเราว่าต้องทำตัวอย่างไรในขณะที่ตัวเองก็ยังไม่รู้เลย การตามรอยบุคคลประเภทนี้อันตรายครับ แต่คนแบบเราที่เปี่ยมด้วยรักและด้วยใจที่เปิดกว้างจะแยกแยะข้าวสารออกจากข้าวเปลือกได้อย่างไรกันเล่า❓
✨ หัวใจหลักในการมองทะลุครูที่แท้จากคนแสร้งเป็นครูก็คือ จงทำตามปัญญาธรรมจากญาณภายในของเรานั่นเอง ✨
🛑 คุณรู้สึกว่าคำสอนของเขานั้นใช่หรือเปล่า เป็นคำสอนที่เปี่ยมล้นด้วยรัก ด้วยเมตตากรุณาหรือไม่❓ ยึดหลักไม่เบียดเบียนทำร้ายกัน มีแต่ปัดเป่าความกลัวให้น้อยลงหรือไม่❓
🛑 อาจารย์เหล่านั้นเห็นกลุ่มความเชื่ออื่น มนุษย์คนอื่นว่าเสมอภาคเท่าเทียมกับพวกเขา เป็นดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเดินไปบนเส้นทางสู่ลิขิตชะตาเหมือนๆกันกับพวกเขาด้วยหรือไม่❓ พวกเขาได้สอนหรือเปล่าว่าไม่มีใครดีเด่นไปกว่าใคร เพราะเราต่างก็พายเรือลำเดียวด้วยกันหมดทั้งสิ้น
🛑 แล้วอาจารย์ได้บอกกล่าวแก่คุณหรือเปล่าว่าถึงแม้เขาจะเป็นผู้ชี้ทางให้ได้ แต่อาจารย์ไม่สามารถ "จูงคุณ" ไปสู่การอิ่มเต็มเปี่ยมล้นของจิตวิญญาณได้หรอก มีแต่ตัวคุณเองเท่านั้นที่จะไปให้ถึงเป้าหมายชีวิต ด้วยว่าท้ายที่สุดแล้วเส้นทางกลับสู่บ้านของเราคือเส้นทางย้อนเข้าหาภายในทั้งสิ้น การเดินทางเป็นการกลับคืนสู่ตัวตนของเรานั่นเอง
🛑 อาจารย์อาจสอนทักษะกับวิธีต่างๆให้ได้ พวกท่านสามารถทำให้เราเข้าใจเรื่องชีวิต ความตาย และระนาบแห่งจิตวิญญาณได้ ท่านอาจช่วยขจัดความกลัวและอุปสรรคให้ปลาสนาการสิ้นไปได้ ทว่า ท่านอาจช่วยชี้ประตูให้ แต่เรานั่นแหละต้องเป็นคนเดินเข้าไปเอง
🛑 เนื่องเพราะสวรรค์นั้นเล่า สถิตอยู่ภายในตัวเราเอง ความสุขความเบิกบานทั้งหลายทั้งปวงมาจากข้างในตัวเราเท่านั้น เราจะไปรอให้ใครมาช่วยกอบกู้ชีวิตให้ไม่ได้หรอก ยามที่เราพบกับรักแท้และเกิดตื่นรู้และเบิกบานขึ้นมาเมื่อไหร่ นั่นแหละเราจึงจะ “ช่วยชีวิต” ตัวเองไว้ได้จริงๆ
คุณจำฟิลิป วิลสัน ได้ไหมครับ ดาราตลกที่เล่นละครเป็นตัวเจอรัลดีนที่ชอบทำอะไรเห็นแก่ตัวบ้างละ ทำเรื่อง ‘ผิดศีล’ บ้างละ แล้วก็จะยืนเอามือเท้าสะเอวประกาศว่า “ก็มารมาบอกให้ชั้นทำนี่นา” นี่เป็นการป้ายไปลงที่คนอื่นอย่างแรงเลยนะครับ การคิดว่าเราไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของเราเองนี่มันสบายดีจริงๆ การอ้างอำนาจนอกตัวเราเอาไว้โทษกัน แหมมันสะดวกง่ายดายดีนัก
คนบางคนก็โทษโชคชะตา แต่จริงๆแล้วคือ ถึงแม้ว่าชีวิตของเราจะต้องเดินไปตามเส้นทางที่เรากำหนดมาเองแล้วก่อนเรามาเกิดก็ตาม ทว่าโชคชะตาไม่ใช่ตัวที่ต้องมารับผิดชอบการกระทำของเราเองเลย และในเมื่อเราต้องรับผิดชอบเต็มร้อยต่อพฤติกรรมด้านลบและยังผลร้าย หมายความว่าเราก็ต้องรับผิดชอบต่อพฤติกรรมด้านบวกและเปี่ยมด้วยความรักเหมือนกัน ไม่มีใครที่ไหนเขาจะมาทำแทนให้เราได้
✨ ไม่มีมารร้ายตนใดทำร้ายคุณได้ และก็ไม่มีอาจารย์องค์ใดช่วยชีวิตคุณได้อีกเช่นกัน ✨
ในการประชุมใหญ่ในซีแอตเทิลที่เราทั้งสองคนสอนอยู่ ผมได้ยินนักวิชาการและนักไสยเวทย์ที่เก่งกาจ จีน ฮิวสตัน 💢ออกปากเตือน💢 เรื่องการเดินตามอาจารย์อย่างหลับหูหลับตาว่าอย่างนี้ :
“จำให้ขึ้นใจเลยนะคะ คำว่า อาจารย์ หรือ คุรุ–𝗚𝗨𝗥𝗨 สะกดด้วยอักษรว่า จี...ยู อาร์ ยู โอ้พระเจ้า คุณก็คือตัวคุณ★”
★ 𝗚𝗨𝗥𝗨 = 𝗚𝗲𝗲, 𝗨 𝗮𝗿𝗲 𝗨
ส่วนผมน่ะรึ ทั้งงงทั้งประหลาดใจ ที่วันต่อมานิตยสาร 𝗩𝗮𝗻𝗶𝘁𝘆 𝗙𝗮𝗶𝗿 ตั้งฉายาให้ผมว่า 𝘁𝗵𝗲 𝗴𝘂𝗿𝘂 𝗼𝗳 𝗠𝗶𝗮𝗺𝗶 อาจารย์แห่งแดนไมอามีพอดีเลย
(มีต่อ)
โฆษณา