Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
God Journey (การเดินทางของเหล่าพระเจ้า)
•
ติดตาม
28 ธ.ค. 2021 เวลา 03:21 • หนังสือ
✴️ บทที่ 1️⃣1️⃣ ครู ✴️ (ตอนที่ 2)
ครั้งหนึ่งตอนตกเย็น หลังจากที่พนักงานออฟฟิศผมกลับบ้านกันหมดแล้ว ออฟฟิศเริ่มเงียบท่ามกลางแสงคล้อยของยาสนธยา ผมนั่งอยู่ในห้วงสมาธิ เป็นวันเลิกงานที่อุ่นใจจริงๆ ตัวผมเองค้นพบมาหลายปีแล้วว่าการนั่งสมาธิในที่เงียบสงบช่วงเวลาโพล้เพล้ช่วยให้ผมรื่นใจขึ้นเยอะ
คนไข้คนสุดท้ายของวันนั้นเข้าอดีตชาติไม่ได้อีกครั้งหนึ่งแล้ว เธอปล่อยตัวให้ผ่อนคลายเข้าสู่ภาวะจิตที่ลึกขึ้นได้ยากมากๆ เธอมักจะยุกยิกเสมอเวลาถึงตอนตอนหนึ่งของเอ็กเซอร์ไซส์ แล้วเธอก็จะลืมตาตื่นขึ้นมาเพื่อบอกให้ผมนำเธอสู่ภวังค์ที่ลึกกว่านี้อีก
สุภาพสตรีท่านนี้เป็นนักอ่านตัวยง อ่านหนังสือและบทความแนวอภิปรัชญามามาก เธอเข้าสัมมนาแนวนิวเอจมาแล้วหลายงาน เธอทั้งอ่านและเห็นประสบการณ์ที่คนอื่นเจอมาหลายครั้งแต่ไม่เคยเจอกับตัวเองเลย เธอจึงอยากจะให้มีประสบการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นกับตัวเธอบ้าง
พักหลังๆเธออ่านหนังสือเกี่ยวกับท่านไสบาบา อาจารย์ทางจิตวิญญาณจากอินเดียผู้โด่งดัง เลยกำลังคิดจะเดินทางไปอินเดียเพื่อพบท่าน บางทีท่านนี้แหละอาจจะช่วยให้เธอหลุดพ้นทางตันได้
ผมรู้ทันทีว่าสารและภาพที่ไหลสู่จิตรับรู้ของผมขณะเจริญสมาธิในยามเย็นเงียบสงบวันนั้นเป็นเรื่องของคนไข้ที่กำลังใจเสียของผม
✨ “ภารกิจของเรามิใช่เดินตามไสบาบา” สารเริ่มต้นด้วยคำนี้ “แต่ จงเป็น ไสบาบาเถิด” ✨
ผมอดใจรอคอยสารต่อไป
💟 “ตัวท่านเป็นความรักตลอดทุกการกระทำ และเจ้าก็ต้องเป็นความรักในทุกการกระทำ ภารกิจของเธอในชาติภพนี้คือการช่วยเหลือผู้คนด้วยความรัก” 💟
พอถึงตรงนี้ผมเริ่มเห็นภาพอดีตชาติของคนไข้ชัดเจนหลายภาพ เปลี่ยนสลับกันวาบขึ้นต่อหน้าผมเลย ผมเห็นภาพชาติภพที่เธอเป็นพระมาหลายชาติ แล้วคำตอบที่ว่าทำไมเธอต้องใจเสียด้วยก็แจ่มแจ้งทันที
🛑 เพราะเธอใช้ชีวิตปลีกวิเวกเดียวดายมาหลายชาติแล้วนั่นเอง ทั้งในวัดและในสำนักชี เธอได้ฝึกวิชาค้นพบตัวตนภายในและการเจริญสมาธิจนถึงระดับภายในที่ลึกซึ้งอย่างเชี่ยวชาญมาแล้วนั่นเอง ทว่าในชาติปัจจุบันนี้เธอจำต้องเรียนรู้การอยู่กับโลกความจริง อยู่กับคนจริงๆปัญหาจริงๆดูบ้าง ก็เพื่อช่วยผู้คนเหล่านี้นั่นเอง เธอต้องหัดถ่ายทอดความรักและความเมตตาสู่สาธารณชนบ้างแล้ว
🛑 ดังนั้นเวลาเธอจะทำสมาธิถึงมีกำแพงมาปิดกั้น ไม่อย่างนั้นแล้วเธอก็จะต้องหวนกลับไปเจอแบบแผนเดิมอีกคือเข้าหาภาวะภายในอย่างเดียว แล้วละเลยจุดประสงค์แห่งดวงวิญญาณที่เลือกมาเกิดในชาตินี้
ครั้นเธอมาบำบัดครั้งต่อไปผมก็เลยบอกเธอว่าพบอะไรบ้างในภาวะสมาธิ เธอดูเหมือนโล่งอกในฉับพลัน คล้ายกับภาระหนักอึ้งถูกยกออกจากสองบ่าแล้ว เธอไม่ใช่คนล้มเหลวไม่เอาไหน แค่ได้รับการชี้แนะบ้างเล็กน้อยให้เดินไปบนเส้นทางชีวิตชาตินี้ที่เธอเลือกมาแล้วก่อนเกิดให้ถูกต้องนั่นเอง
“เข้าสมาธิแล้วถอนออกมา” นี่คือแนวทางที่เธอใช้ปฏิบัติในตอนนี้ทุกครั้งที่นั่งสมาธิประจำวัน เธอเริ่มอาสาช่วยโครงการของคนยากคนจนและจรจัด ช่วยรณรงค์หาเงินบริจาคเข้าการกุศลหลายงาน ชีวิตเธอมีความสุขมากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาทั้งชีวิต
แล้วที่น่าแปลกมากคือพอเธอหันหน้าเข้าช่วยงานการกุศลมากขึ้นเรื่อยๆ เธอก็เริ่มนั่งสมาธิได้ดีเหมือนเดิมเลย รู้สึกว่าตัวเองหาสมดุลเจอแล้ว การบำบัดที่เธอทำกับผมจึงมาถึงจุดสรุปที่งดงามตามธรรมชาติว่า :
✨ “ภารกิจของเราไม่ใช่คอยตามไสบาบา แต่เป็นไสบาบาให้ได้ต่างหาก” ✨
_________________________________
แล้วทุกประการจะแจ่มแจ้งแก่เจ้าเมื่อถึงเวลา
แต่เจ้าจะต้องมีเวลาไตร่ตรองปวงความรู้ที่เรามอบให้แก่เจ้าไปแล้ว
_________________________________
. . .
หลายปีก่อนผมได้ไปพูดให้การประชุมนิวเอจครั้งใหญ่ซึ่งจัดขึ้นในลอสแอนเจลิส คนเกือบ 𝟰 หมื่นคนลงทะเบียนจ่ายเงินเพื่อจะมาฟังนักพูดหลากหลายคละกันไปตั้งแต่อาจารย์มหาวิทยาลัย นักวิทยาศาสตร์ขนานแท้ จนถึงหน้าใหม่ที่คิดมาอวดวิชาเพื่อขายชื่อกันในงานนี้ นักฟิสิกส์มีโอกาสกระทบไหล่เจ้าลัทธิ ผมเลยงงไปหมดว่าเราจะแยกแยะบุคคลเหล่านี้ออกให้ชัดได้อย่างไรล่ะนี่❓ เครดิตของพวกเขาพอบอกอะไรได้บ้างหรือเปล่า❓ ผมรู้สึกเหมือนมีหน้าที่ป้องกันคน 𝟰 หมื่นให้ได้
1️⃣ ข้อแรก นักพูดที่ดูเหมือนมาจากนอกโลกเรากันออกไปได้ง่ายมาก 2️⃣ ข้อที่สอง 𝟵𝟱 เปอร์เซ็นต์ของพวก 𝗖𝗵𝗮𝗻𝗻𝗲𝗹𝗲𝗿𝘀 หรือคนจูนพลังจากเบื้องบนเป็นคนที่ถ้าไม่ใช่กำลังรับส่งสารจากจิตใต้สำนึกของตัวเอง ก็เป็นคนที่สร้าง “สารจากเบื้องบน” จากความคิดตัวเอง 3️⃣ ข้อที่สาม ผมไม่สนใจพวกหินอัญมณีที่ขายเกลื่อนงานเป็นร้อยๆบูธ อย่างไรก็แล้วแต่ เพลงในงานเขาก็เพราะดีแล้วคนที่มางานก็น่ารักทั้งนั้น
ผมเองไปเข้าฟังการบรรยายกับอบรมเชิงปฏิบัติการอยู่หลายรายการ ผู้บรรยายบางท่านยอดเยี่ยมจริงๆ โดยเฉพาะนักบรรยายที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ สอนอะไรเยอะมาก นอกนั้นถึงขั้นแย่เอาเลย ผมฟังคนบรรยายพูดเรื่องไม่ได้สาระคนแล้วคนเล่าโดยไม่มีข้อมูลหรือการค้นคว้าที่ยืนยันได้เลย ผมลองวัดปฏิกิริยาคนฟังดูก็ตกใจมากที่คนตั้งมากมายพยักหน้ายอมรับกันใหญ่โดยไม่ต้องคิดหรือถามค้านแต่ประการใดเลย
ในจำนวนคน 𝟰 หมื่นที่มางาน ส่วนใหญ่แล้วมาเพราะพวกเขาอยากเจออะไรที่มันมีค่ามากกว่านี้ในชีวิต หลายคนอยากให้มีใครมาบอกเขาว่าเขามีญาณพิเศษหรือที่เขาเจอประสบการณ์ทางกระแสจิตนั้นมันเป็นความจริง พวกเขาอยากได้ประสบการณ์ชีวิต ได้ความคิดแบบใหม่ๆบ้าง พวกเขาอยากจะเติบโต อยากให้มีอะไรมากระตุ้นตัวเองบ้าง ผู้คนเหล่านี้ต้องการสิ่งที่เราทุกรูปทุกนามต่างก็อยากได้มาเหมือนกัน คือหนทางที่จะนำไปพบความปีติและความสุขสงบของชีวิต
ทว่า เกือบทุกคนต่างลืมทิ้งจิตแห่งการพินิจพิเคราะห์ไว้ที่บ้านจนหมดสิ้น
ผมอยากให้ตัวเองไปพูดให้คน 𝟰 หมื่นนั้นได้คิดเหลือเกิน อยากจะบอกให้พวกเขาเลิกหาคำตอบจากภายนอก เลิกหาวิธีแก้ปัญหาชีวิตแบบฉับพลันหายขาดได้ทันใจเสียที ผมอยากบอกให้พวกเขามองลึกเข้าไปข้างในตัวเองเถิด แต่ก็ทำไม่ได้ในตอนนั้น จึงขอบอกกล่าวความคิดนี้แก่คุณทุกท่านในเรื่องที่ผมไม่มีโอกาสบอกคน 𝟰 หมื่นที่กระหายใคร่เปลี่ยนชีวิตตนเองใหม่ในตอนนี้เลย
🛑 จงเปิดจิตวิญญาณให้มากขึ้นเถอะครับ ใช้เวลาในการสวดมนต์ให้มากขึ้น รู้จักให้ รู้จักช่วยเหลือคนอื่น รู้จักรักให้มากขึ้นทุกวัน อาสาช่วยงานแสดงน้ำจิตน้ำใจและความรักกันเถอะครับ จงขจัดศักดิ์ศรี อัตตา ความเห็นแก่ตัวก่อนคนอื่น โทสะ ความรู้สึกผิดไม่เลิกรา ความหลงว่าตัวเองเก่งเกินใคร และความทะยานอยากไร้ที่สิ้นสุดออกไปให้หมด สะสมสมบัติให้น้อยลง กลุ้มใจในอดีตที่ล่วงแล้วกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึงให้น้อยกว่านี้ หยุดทำร้ายให้ผู้อื่นเขาเจ็บ หรือใช้ความรุนแรงเข้าแก้ปัญหาไม่ว่าจะทางใดก็ตาม
🛑 จงอย่าเพิ่งรับความคิดใดๆก่อนใช้ปัญญาญาณ (𝗶𝗻𝘁𝘂𝗶𝘁𝗶𝘃𝗲 𝘄𝗶𝘀𝗱𝗼𝗺) ของคุณพินิจพิจารณา ว่าสิ่งนี้ช่วยกระตุ้นความรัก ความมีน้ำใจ ความสงบสุขและความเป็นเอกภาพหรือเปล่า❓ หรือว่ามันไปกระตุ้นให้เกิดความแตกแยก แบ่งเขาแบ่งเรา ความเกลียดชังกัน ความเห็นแก่ตัวเองเป็นที่ตั้ง และความรุนแรงแทน❓
🛑 เราเป็นอมตะไม่มีวันตายครับ เรามาเกิดในโลกนี้ก็เพื่อจะเรียนรู้ เพื่อจะเติบโตขึ้นไปสู่ปัญญา เพื่อจะเป็นให้ได้อย่างพระเจ้า สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากโลกนี้เราจะนำติดตัวไปตอนเราตาย อย่างอื่นเราไม่อาจเอาติดตัวเราไปได้เลยแม้สักอย่าง มันเรียบง่ายสามัญยิ่งนัก อาณาจักรแห่งสวรรค์อยู่ข้างในตัวเรานี่เอง จงหยุดใฝ่หาพระอาจารย์เถิดครับ แล้วจงหาตัวคุณให้เจอแทน แล้วไม่นานคุณก็จะได้พบหนทางกลับบ้านที่แท้จริงในที่สุด
(จบ — บทที่ 11)
หนังสือ
1 บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
𝗠𝗲𝘀𝘀𝗮𝗴𝗲𝘀 𝗙𝗿𝗼𝗺 𝗧𝗵𝗲 𝗠𝗮𝘀𝘁𝗲𝗿𝘀
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย