"หลักการพิจารณาว่ากรรมชนิดนั้นควรทำหรือไม่"
🌿 เมื่อจะกระทำ
เราใคร่จะทำกรรมใดด้วยกาย
พึงพิจารณากรรมนั้นเสียก่อนว่า
“กายกรรมที่เราใคร่จะกระทำนี้
เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
เบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
เบียดเบียนทั้งสองฝ่ายบ้าง
เป็นกายกรรมที่เป็น อกุศล
มีทุกข์เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบาก หรือไม่หนอ” ดังนี้
🍂 ถ้าเราพิจารณา รู้สึกอยู่ดังนั้นไซร้
เราไม่พึงกระทำกายกรรมชนิดนั้นโดยถ่ายเดียว
…
ถ้าเราพิจารณา รู้สึกอยู่ดังนี้ว่า
“กายกรรมที่เราใคร่จะกระทำนี้
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนทั้งสองฝ่ายบ้าง
เป็นกายกรรมอันเป็น กุศล
มีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก” ดังนี้
🪴 เราพึงกระทำกายกรรมชนิดนั้น
—— —— —— ——
🌿 เมื่อกระทำอยู่
เมื่อเรากระทำกรรมใดด้วยกายอยู่
พึงพิจารณากรรมนั้นว่า
“กายกรรมที่เรากำลังกระทำอยู่นี้
เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
เบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
เบียดเบียนทั้งสองฝ่ายบ้าง
เป็นกายกรรมที่เป็น อกุศล
มีทุกข์เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบาก หรือไม่หนอ” ดังนี้
🍂 ถ้าเราพิจารณา รู้สึกอยู่ดังนั้นไซร้
เราพึงเลิกละกายกรรมชนิดนั้นเสีย
…
ถ้าเราพิจารณา รู้สึกอยู่ดังนี้ว่า
“กายกรรมที่เรากำลังกระทำอยู่นี้
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนทั้งสองฝ่ายบ้าง
เป็นกายกรรมอันเป็น กุศล
มีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก” ดังนี้
🪴 เราพึงเร่งการกระทำกายกรรมชนิดนั้น
—— —— —— ——
🌿 เมื่อกระทำแล้ว
เมื่อกระทำกรรมใดด้วยกายแล้ว
พึงพิจารณากรรมนั้นว่า
“กายกรรมที่เรากระทำแล้วนี้
เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
เบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
เบียดเบียนทั้งสองฝ่ายบ้าง
เป็นกายกรรมที่เป็น อกุศล
มีทุกข์เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบาก หรือไม่หนอ” ดังนี้
🍂 ถ้าเราพิจารณา รู้สึกอยู่ดังนั้นไซร้
เราพึงแสดง พึงเปิดเผย
พึงกระทำให้เป็นของหงายซึ่งกายกรรมนั้น ในพระศาสดา
หรือในเพื่อนสพรหมจารี ผู้เป็นวิญญูชนทั้งหลาย
ครั้นแสดง ครั้นเปิดเผย ครั้นกระทำให้เป็นของหงายแล้ว
พึงถึงซึ่งความระวังสังวรต่อไป
…
ถ้าเราพิจารณา รู้สึกอยู่ดังนี้ว่า
“กายกรรมที่เรากระทำแล้วนี้
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเองบ้าง
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนทั้งสองฝ่ายบ้าง
เป็นกายกรรมอันเป็น กุศล
มีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก” ดังนี้
🪴เราพึงอยู่ด้วยปีติและปราโมทย์
ตามศึกษาในกุศลธรรมทั้งหลายอยู่
ทั้งกลางวัน และกลางคืนเถิด
.
ในส่วนของวจีกรรมและมโนกรรม ก็ทรงตรัสในทำนองเดียวกัน