✴️ บทที่ 1️⃣4️⃣ ยกระดับจิตสู่ญาณ ✴️ (ตอนที่ 3)
◾ แบบฝึกหัดกลุ่ม ◾
ผมชอบให้ผู้เข้าสัมมนาของผมทำแบบฝึกหัดที่เรียกว่า “𝗙𝗮𝗰𝗲𝘀–หน้า” อยู่บ่อยๆ ในห้องที่ค่อนข้างมืดมีแสงรำไรพอไม่ให้ห้องมืดสนิท ผมจะให้ผู้เข้า สัมมนานั่งจับคู่กัน และนำแต่ละคู่เข้าสู่สภาวะจิตผ่อนคลายและเป็นสมาธิ จากนั้นก็จะให้คู่ค่อยๆจ้องมองกันจนเห็นหน้าหรือเห็นภาพที่ปรากฏอยู่ที่คู่ของเรา จ้องกันนานประมาณ 𝟱-𝟭𝟬 นาที ภาพที่เห็นจะเริ่มเปลี่ยนไป คนจะเห็นวัย เชื้อชาติ และเพศของคู่เปลี่ยนไป บางครั้งภาพสัตว์หรือเป็นภาพอุปมาอุปไมยอื่นๆจะปรากฏแทน ผู้ที่ทำแบบฝึกหัดนี้มักจะได้รับข้อมูลจาก ‘ญาณสังหรณ์’ (𝗶𝗻𝘁𝘂𝗶𝘁𝗶𝘃𝗲) หรือจาก ‘อำนาจจิต’ (𝗽𝘀𝘆𝗰𝗵𝗶𝗰) เกี่ยวกับบุคคลนั้นบ่อยทีเดียว เรื่องไม่น่าเชื่อเกิดขึ้นเสมอ ผลของการทำแบบฝึกหัดมันมากกว่าเป็นแค่การเห็นภาพหลอกตา แต่เป็นการรับข้อมูลที่เป็นความจริงก็ว่าได้
💥ลองทำดูซิครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น💥
. . .
ผมเคยทำแบบฝึกหัดหน้า (𝗙𝗮𝗰𝗲𝘀 𝗲𝘅𝗲𝗿𝗰𝗶𝘀𝗲) ให้กับผู้เข้าสัมมนาเวิร์กชอปกลุ่มใหญ่มากที่บอสตัน คุณผู้หญิงจากบอสตันกับคุณผู้หญิงจากมิลวอกี้จับคู่เป็นพาร์ตเนอร์กัน ทั้งคู่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนเลยจนตอนสุ่ม จับคู่จากกลุ่มผู้เข้าสัมมนาถึง 𝟳𝟬𝟬 คน
ทั้งคู่นั่งเกือบข้างหน้า ผมจึงเห็นหน้าเธอชัดเจนหลังจากสายตาของผมเริ่มชินกับความสลัวแล้ว หยาดน้ำเริ่มไหลจากสองตาของหญิงชาวบอสตัน
หลังทำแบบฝึกหัดจบ แล้วคนกลุ่มเล็กๆราวสองสามคนใช้เวลาบอกเล่าแบ่งปันประสบการณ์ที่เห็นและรู้สึกกันไปแล้ว ผมก็ขอให้คุณผู้หญิงท่านนั้นช่วยเล่าให้พวกเราฟังหน่อยได้ไหมว่าพบอะไรบ้างในการทำแบบฝึกหัด เธอตกลง
“ดิฉันร้องไห้เพราะความดีใจค่ะ” เธออธิบายให้ฟัง “ดิฉันเห็นหน้าของพี่ชายดิฉันเอง ดิฉันไม่ได้เห็นหน้าพี่ชายมาตั้งนานเหลือเกินแล้ว” พี่ชายของเธอเป็นทหารเข้ารบในสงครามโลกครั้งที่ 𝟮 เขาตายในฝรั่งเศสตอนอายุได้ 𝟭𝟵 ปีครึ่ง
แล้วคู่ของเธอก็พูดออกไมโครโฟนว่า “เมื่อวานนี้ ตอนที่เราทำการย้อนอดีตหมู่ ตอนที่คุณหมอนำเราไปเจออดีตชาตินะค่ะ ดิฉันเจอชาติที่เป็นผู้ชาย เป็นทหารอายุ 𝟭𝟵 ปีครึ่ง โดนฆ่าตายในฝรั่งเศสสมัย สงครามโลกครั้งที่ 𝟮 ค่ะ”
แล้วคุณผู้หญิงจากมิลวอกี้ก็ให้รายละเอียดการตายในครั้งนั้น แล้วก็บรรยายภาพพี่ชายของคู่ทำแบบฝึกหัดอย่างถูกต้องตรงความจริงทุกอย่าง
นาทีนั้น คนในห้องขนลุกซู่ไปตามๆกัน
หลังพูดจบผมถึงได้รู้ว่าคุณผู้หญิงจากมิลวอกี้เกิดวันเดียวกันกับที่ทหารนายนั้นเสียชีวิตในฝรั่งเศส
▪️ไม่มีเรื่องบังเอิญจริงๆครับ▪️
. . .
ระหว่างผมนำการทำแบบฝึกหัดหน้าที่นิวยอร์ก ชายสูงอายุชาวอินเดียท่านหนึ่งก็สะอื้นไห้ออกมาด้วยความสุข เพราะเขาเพิ่งได้เห็นหน้าของพระพุทธเจ้าภาคผู้หญิง★ ในหน้าของคู่พาร์ตเนอร์ ซึ่งเป็นหญิงสาวจากนิวอิงแลนด์ที่เขาไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อนจนมาจับคู่กันเมื่อ 𝟭𝟬 นาทีก่อนหน้านี้เอง
★ 𝗳𝗲𝗺𝗮𝗹𝗲 𝗕𝘂𝗱𝗱𝗵𝗮 พระพุทธเจ้าภาคสตรี ซึ่งในศาสนาพุทธนิกายมหายานกับทิเบตมีพระพุทธรูปและภาพวาดของภาคนี้ หรือปางสตรีเพศนี้แพร่หลายทีเดียว ซึ่งเป็นภาคที่คนไทยรุ่นเก่ารับไม่ได้ว่าพระพุทธเจ้าจะเป็นผู้หญิงได้ด้วย แต่คนรุ่นใหม่รับได้ ส่วนตัวดิฉันเองชอบปางนี้มากเพราะหมายความว่าความเป็นพุทธ หรือมีจิตแห่งผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานนั้นมิได้จำกัดเพศ
พุทธนิกายมหายานเน้นเรื่องการผสมผสานระหว่างพลังหยางเพศชาย (𝗺𝗮𝘀𝗰𝘂𝗹𝗶𝗻𝗶𝘁𝘆) กับพลังหยินเพศหญิง (𝗳𝗲𝗺𝗶𝗻𝗶𝗻𝗶𝘁𝘆) จนนำไปสู่ความรู้แจ้งในที่สุด แยกสองพลังนี้จากกันมิได้ ♂️พลังของเพศชายเป็นพลังแห่งปัญญาสมอง–ความฉลาดเฉลียว (𝗜𝗻𝘁𝗲𝗹𝗹𝗶𝗴𝗲𝗻𝗰𝗲) ♀️ส่วนพลังเพศหญิงคือพลังแห่งปัญญาธรรม (𝗪𝗶𝘀𝗱𝗼𝗺)
รูปบูชาที่แสดงถึงสองพลังประสานระหว่างความฉลาดทางปัญญาสมอง กับ ปัญญาธรรมนั้นคือ ‘โพธิศักติ’ รูปพระโพธิสัตว์กับมเหสีหลอมรวมกัน เป็นรูปบูชาของลัทธิตันตระนั่นเอง ซึ่งงดงามมากในสายตาของผู้ที่เข้าใจนัยอันลึกซึ้งของตันตระ : ผู้แปล
“พระพุทธผู้หญิงหายากมากเลย❗” เขาอธิบาย แล้วคู่ของเขาถึงได้เล่าให้ฟังว่าเธอเป็นศิษย์ของพุทธนิกายเล็กๆที่สักการบูชาพระพุทธเจ้าปางสตรีอยู่หลายปีทีเดียว
“เรื่องบังเอิญ” ที่มีค่าอย่างนี้แหละครับที่ช่วยเราวางเส้นทางชีวิตได้ถูกต้องเหมาะสม เส้นทางชีวิตที่เราได้เลือกมาแล้วก่อนเราเกิดมาเสียอีก
. . .
ผมไม่รู้จริงๆว่าด้วยเหตุใดหนอ เวิร์กชอปที่ผมจัดในเปอโตริโก้ถึงได้เปี่ยมมนต์ขลังและเกิดเรื่องปาฏิหาริย์อยู่ตลอดทุกครั้งที่จัดกันมา บางทีอาจเป็นเพราะว่าพลังศรัทธาของผู้เข้าสัมมนาที่เปิดใจกว้าง กระตือรือร้น และเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณธรรมภายในมีส่วนทำให้เกิดความอัศจรรย์ขึ้นก็ได้นะครับ ในห้องประชุมของโรงแรมคอนโดล่าพลาซ่า ในซานฮวน เดือนมีนาคม ปี 𝟭𝟵𝟵𝟴 ปาฏิหาริย์กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
ก่อนที่การจัดสัมมนา 𝟮 วันเต็มจะเริ่มขึ้น มีเหตุการณ์หนึ่งที่ผมไม่เคยรับรู้มาก่อนเลย คือคุณผู้หญิงวัยกลางคนท่านหนึ่ง ซึ่งเธอชอบสวมจี้รูปผีเสื้อใส่สายสร้อยทองรอบคอ เธอสวดภาวนาให้กับลูกชายของเธอที่เพิ่งตายจากไปไม่กี่เดือนก่อน
“โปรดส่งสัญญาณ หรือส่งสารมาให้แม่ที” แม่ผู้เศร้าสลดขอจากลูก “แม่จะรู้เลยว่าเป็นลูก ถ้าลูกส่งสัญญาณมาบอกเป็นสัญลักษณ์รูปผีเสื้อนะลูกนะ”
ก่อนเราจะเริ่มทำแบบฝึกหัดหน้ากัน ผมก็เล่าเรื่องซึ้งใจเกี่ยวกับผีเสื้อให้ผู้เข้าสัมมนาฟัง เพราะผีเสื้อเป็นคำอุปมาแทนจิตวิญญาณของเรา เป็นสัญลักษณ์ที่เด็กๆซึ่งกำลังจะตายหรือรู้ตัวว่าเขาจะต้องตายมักจะวาดผีเสื้อเสมอ (ตัวอย่างเช่น การพบภาพวาดรูปผีเสื้อจำนวนมากจากการวาดของเด็กมากมายที่ตายในแคมป์กักกันยิวระหว่างช่วงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์) และช่วงงานศพเราจะเห็นผีเสื้อบินว่อนอยู่บ่อยครั้ง ผมเองไม่ได้ตั้งใจไว้ก่อนเลยว่าจะเล่าเรื่องผีเสื้อให้ฟัง ความคิดว่าจะพูดถึงผีเสื้อมันวูบขึ้นมาในความคิดเดี๋ยวนั้นทำให้ผมเอ่ยปากเล่าเรื่องผีเสื้อขึ้นมาเอง
แม่ผู้เศร้าโศกเผยยิ้มกว้าง ลูกชายของเธอได้ส่งสารมาหาแล้ว แต่ทว่า...เรื่องที่ดีที่สุดยังไม่เกิดเลยครับ
ในห้องมืดสลัวนั้น เราเริ่มทำแบบฝึกหัดหน้ากัน ผมแนะให้กลุ่มเลือกคู่ทำแบบฝึกหัดจากคนที่พวกเขาไม่เคยพบมาก่อน คู่ของคุณแม่ผู้เศร้าโศกเป็นหญิงวัยกลางคนอีกท่านหนึ่งที่ไม่เคยเชื่อเลยว่าตัวเธอมีความสามารถด้านกระแสจิต แต่เธอกลับรับรู้ได้เลยว่ามีวิญญาณของชายหนุ่มยืนอยู่ข้างหลังแม่ของเขา เธอบรรยายลักษณะของชายหนุ่มให้ผู้เป็นแม่ฟัง และเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตของเขาว่าเขาเป็นอย่างไร บุคลิกหน้าตาแบบไหน แฟนเป็นใคร
ผู้เป็นแม่ช็อก ตื่นเต้นและปลื้มใจจนบอกไม่ถูก
“ทุกเรื่องที่เขาบอกมามันตรงความจริงทุกอย่างเลยค่ะ❗ เขาบรรยายลูกชายดิฉันถูกหมดเลย❗” คุณแม่ร้องลั่น
สีหน้าของเธอผ่องใสสว่างหมดจดแล้วตอนนี้ ผมเห็นเลยว่าจังหวะหายใจของเธอเปลี่ยนไป สองบ่าของเธอดูเบาขึ้นเพราะความหนักอึ้งจากความทุกข์ทรมานของเธอถูกยกออกไปแล้ว
พอผมสอนกลุ่มสัมมนาให้รู้จักวิธีเปิดความสามารถทาง ‘ญาณสังหรณ์’ และ ‘กระแสจิต’ ทั้งด้วยวิธีนี้กับวิธีอื่นๆแล้ว ประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นงวยงงก็เกิดไปทั่วห้อง คนกลุ่มเล็กๆที่นั่งอยู่สุดอีกฝั่งหนึ่งของห้องประชุมเจาะเข้าไปแถมยังได้ร่วมรับประสบการณ์ของอีกกลุ่มที่นั่งห่างออกไปอีกสุดฝั่งห้องด้วยซ้ำ “เรื่องบังเอิญ” ที่เหลือเชื่อ และ “เหตุพ้องจอง” (𝘀𝘆𝗻𝗰𝗵𝗿𝗼𝗻𝗼𝘂𝘀 𝗲𝘃𝗲𝗻𝘁𝘀) เกิดขึ้นพร้อมกันระหว่างกลุ่มต่อกลุ่มที่แยกกันนั่งกระจายไปทั่วห้องแท้ๆ คนที่ไม่เคยเชี่ยวชาญกระบวนการเกี่ยวกับญาณทางในมาก่อนเลยกลับสามารถเล่าประวัติการป่วยไข้ของคนที่เขาไม่เคยพบหน้ามาก่อนได้ถูกต้องทุกอย่าง คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนงานนี้กลับรู้เรื่องของกันและกันได้ลึกซึ้งกว่าที่ในภาวะระดับจิตปกติจะทำได้เสียอีก
🛑 ยามที่ผมนั่งดูการแลกเปลี่ยนปฏิสัมพันธ์อันแสนเหลือเชื่ออยู่นี้ ผมทึ่งอยู่เงียบๆว่าจิตมนุษย์นั้นช่างทรงพลัง ละเอียดอ่อน และรู้สติมากกว่าที่เราเคยรู้เคยคิดมากมายนัก มนุษย์เรานี่ช่างมหัศจรรย์แท้ ร่างทรง ผู้มีญาณ และบรรดาอาจารย์ทั้งหลายสำคัญสำหรับเราก็จริง แต่ก็แค่ชั่วประเดี๋ยวเดียวครับ พวกเขาอาจช่วยเปิดใจให้เราได้เห็น ได้เข้าใจว่า ชีวิตเรามีอะไรมากมายกว่าที่เราเคยรู้มานัก
✨ พอผมได้เห็นเหตุการณ์ที่เปอโตริโก้ประจักษ์แก่ตาตนเองอีกครั้ง ผมอยากบอกว่าเราทุกคนล้วน เป็นสื่อวิญญาณ เป็นผู้เชี่ยวชาญญาณใน และเป็นพระอาจารย์ได้ทั้งนั้นแหละครับ เมื่อเราเรียนรู้ เราเปิดใจรับ และฝึกความสามารถทางญาณสังหรณ์ให้แข็งแรงขึ้น แล้วปัญญาธรรมก็จะเกิดแก่เราเอง ✨
(มีต่อ)
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
