Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
God Journey (การเดินทางของเหล่าพระเจ้า)
•
ติดตาม
14 ม.ค. 2022 เวลา 03:13 • หนังสือ
✴️ บทที่ 1️⃣4️⃣ ยกระดับจิตสู่ญาณ ✴️ (ตอนที่ 4)
◾ วิชาอ่านจิตคนจากการสัมผัสสิ่งของ — 𝗣𝘀𝘆𝗰𝗵𝗼𝗺𝗲𝘁𝗿𝘆 ◾
ในแบบฝึกฝนที่ฝึกเพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญนี้ ผมมักจะทำกับกลุ่มคนแค่ 𝟮 คน ผู้ทำแบบฝึกหัดจะแลกสิ่งของเล็กๆที่เป็นสมบัติของเจ้าตัวแก่กัน วัตถุสิ่งของนั้นจะเป็นแหวน นาฬิกา กำไล กุญแจ ล็อกเกต หรืออะไรก็ได้ ของชิ้นที่เลือกมา เจ้าของจะต้องจับต้องหรือถือมันมาก่อนหน้านี้
ผมเริ่มแบบฝึกหัดด้วยการทำ 𝗿𝗲𝗹𝗮𝘅𝗮𝘁𝗶𝗼𝗻 𝗲𝘅𝗲𝗿𝗰𝗶𝘀𝗲 หรือแบบฝึกฝนผ่อนคลายสั้นๆ ก่อน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติสามารถทำจิตให้นิ่งและเงียบได้ สองตาที่หลับสนิทขณะที่พวกเขาอยู่ในสภาวะผ่อนคลายอยู่นั้น ผู้ทำแบบฝึกหัดทั้งสองจะจับสิ่งของของคู่ปฏิบัติในมืออย่างนุ่มนวล ผมจะแนะให้เขาเปิดจิตรับรู้ถึงความคิด ความรู้สึก อารมณ์ ความประทับใจ หรือความสะเทือนไหวในใจใดๆก็ตามที่วูบขึ้นมาในสติรับรู้ตอนนั้น
ความรู้สึกที่วูบขึ้นมาอาจเป็นทางจิตวิทยา (อารมณ์ ความรู้สึก หรือสภาวะทางใจ) ทางกาย (เนื้อตัวเกิดความรู้สึกบางอย่าง) ทางญาณ (ภาพนิมิต สาร ความคิด ภาพวัยเด็กหรือภาพจากอดีตชาติ) หรือทางจิตวิญญาณ (สารหรือภาพจากอีกมิติหนึ่ง) ก็ได้
หลังจากผ่านไป 𝟱 นาที ผมจะขอให้คู่ปฏิบัติแลกเปลี่ยนแง่มุมของประสบการณ์ที่ได้รับกับคู่ของตน สำคัญมากเลยครับที่ต้องแบ่งปันทุกๆความรู้สึก ทุกความคิด ทุกแรงประทับในจิต ไม่ว่ามันจะดูโง่ ดูแปลกพิสดารแค่ไหนก็ตาม เพราะที่ดูโง่ ดูแปลกคนนี่แหละครับมักจะ "โดนเป้า" ถูกต้องแม่นยำและแรงมากเสมอ บ่อยเลยครับที่ความรู้สึกวูบขึ้นมาที่มันแปลกๆประหลาดๆนี่เองมักจะตรงความจริงที่สุดและมีความหมายมากที่สุด★
★ การฝึกใช้ญาณอย่างนี้ ความรู้สึก "วูบแรก" โดยเฉพาะวูบที่แรงมาก มักจะถูกต้องที่สุดเสมอ แต่เรามักจะไม่กล้าพูดออกมา แล้วเบี่ยงประเด็นเป็นจับความรู้สึกอื่นที่มาแทรกแทน เพราะเรา "กลัวผิด" การสั่งสอนอบรมฝังหัวมาตลอดให้กลัวผิด ซึ่งเป็นการปิดกั้นความสามารถทางการใช้ญาณที่มนุษย์มีอยู่ทั่วทุกคนอย่างน่าเสียดายที่สุด เป็นการผลักไสปฏิเสธความแหลมคมของญาณภายในตัวเรา (𝗜𝗻𝘁𝘂𝗶𝘁𝗶𝗼𝗻) แล้วไม่ยอมรับว่ามันมีอยู่จริง เมื่อเรากลัวผิดมากๆเข้า ก็ยิ่งต้องใช้ "ตรรกะและเหตุผล" (𝗥𝗲𝗮𝘀𝗼𝗻𝗶𝗻𝗴/𝗟𝗼𝗴𝗶𝗰) มาตอบปัญหามากขึ้นๆ ทำให้ความสามารถของญาณด้อยลงเสื่อมลง (แต่จะไม่มีวันหายไปแน่นอน)
การฝึก 𝗣𝘀𝘆𝗰𝗵𝗼𝗺𝗲𝘁𝗿𝘆 𝗲𝘅𝗲𝗿𝗰𝗶𝘀𝗲 ของ ดร.ไวส์นี้ เมื่อพัฒนาถึงขั้นสูงแล้วสามารถนำไปใช้ในการตามหาเหยื่อที่สูญหายไปจากการลักพาตัว หรือถูกฆ่าได้ เช่นในเมืองนอกที่ตำรวจขอแรง 𝗽𝘀𝘆𝗰𝗵𝗶𝗰 หรือนั่งทางในในการช่วยตามหาเหยื่อที่สูญหายและสันนิษฐานว่าอาจเป็นอันตราย ด้วยการหาวัตถุของใช้ประจำวันของเหยื่อมาให้นักทางในแบบไซโคมิทรีเหล่านั้นได้สัมผัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งของใช้ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุจนสามารถสัมผัสกับความรู้สึกก่อนตายของเหยื่อได้ว่า ตายอย่างไร (ถูกรัดคอ ถูกยิง ถูกทุบตีจนตาย ฯลฯ) เพื่อสืบหารูปแบบการฆ่า เพื่อไล่ไปหาวัตถุที่ใช้ฆาตกรรม และพื้นที่ที่กระทำการ : ผู้แปล
🛑 ไม่ว่าจะเป็นเพราะพลังของวัตถุที่เราจับต้องจะเป็นตัวช่วยส่งข้อมูลมาถึงเรา หรือจะเป็นเพราะจิตกำลังผ่อนคลายและรวมศูนย์ได้ดีก็ตาม ผลที่ได้แน่นอนก็คือการได้รู้ว่า เราทุกคนเป็นเจ้าของความสามารถทางญาณ และจิตที่ตื่นอยู่ด้วยกันทุกคน
แบบฝึกนี้ปลอดภัย เรียบง่าย ให้ความรู้ และสนุกจริงๆครับ
. . .
◾ ฝึกวัดสนามพลังของร่างกาย — 𝗘𝗻𝗲𝗿𝗴𝘆 𝗦𝗰𝗮𝗻𝗻𝗶𝗻𝗴 ◾
🛑 ไม่ว่าจะเห็นภาพอะไร หรือเกิดความรู้สึกใดที่วูบขึ้นมาในสติรับรู้ของคุณก็ตามให้รับไว้ทั้งนั้น ในแบบฝึกนี้ ขอให้คุณปลดปล่อยจินตนาการของคุณให้เป็นอิสระ เป็นแบบฝึกหัดที่ดีมากสำหรับการเรียนรู้และเติบโตครับ
กลุ่มปฏิบัติจะเป็นคู่ ก่อนที่จะเริ่มการฝึกหัด ให้เปิดใจรับรู้สนามพลังงานของตัวเราเองก่อน คู่ปฏิบัติจะหลับตาและอยู่ในภาวะผ่อนคลาย แล้วค่อยๆเอาสองมือเคลื่อนเข้าหากันโดยหันฝ่ามือทั้งสองเข้าหาฝ่ามืออีกฝ่าย เริ่มต้นที่ระยะห่างกันประมาณ 𝟮 ฟุต พอฝ่ามือค่อยๆเคลื่อนเข้าไปใกล้กัน คู่ปฏิบัติจะรู้สึกเลยว่ามีกระแสเต้นยิบๆเกิดขึ้นที่ฝ่ามือ ซึ่ง เกิดจากกระแสความร้อนที่เพิ่มขึ้น อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงและแรงต้านอ่อนๆ เหมือนกับเราสัมผัสได้ถึงพลังที่กั้นระหว่างกันอยู่ก่อนที่มือจะสัมผัสกันจริงๆ แบบฝึกหัดเปิดตัวนี้เราจะทำซ้ำหลายครั้งก่อนจะเข้าสู่ของจริง
ในคู่ปฏิบัติ คนหนึ่งจะทำหน้าที่ “ผู้รับ” ผู้รับจะต้องทำการ “สแกน” หรือ “ตรวจวัด” ร่างกายของคู่ ซึ่งจะนั่งหรือยืนอยู่ก็ได้ระหว่างทำแบบฝึกหัดนี้ การตรวจวัดนั้นให้ใช้มือของเรา ห่างจากร่างกายของคู่ประมาณ 𝟰-𝟱 นิ้ว ผู้ตรวจวัดพลังจะไม่แตะโดนตัวของคู่เลย
เราจะตรวจร่างกายทุกส่วนจากทุกๆมุม ผู้ตรวจวัดควรเปิดจิตรับรู้ว่าอุณหภูมิของร่างกายเปลี่ยนไปไหม ตรงส่วนไหนที่ร้อนหรือเย็น คู่คิดอะไรอยู่ รู้สึกอย่างไร สัมผัสอะไรได้บ้าง เราต้องสังเกตและจดจำไว้ สนามพลังงานทั่วร่างผิดแผกแตกต่างกันตรงไหนอย่างไร เราต้องรู้ให้หมด
ทำอย่างนี้ประมาณ 𝟰-𝟱 นาที แล้วก็เปลี่ยนข้างกัน คนที่ตรวจวัด หรือ 𝘀𝗰𝗮𝗻𝗻𝗲𝗿 เปลี่ยนกลับมาเป็น 𝘀𝘂𝗯𝗷𝗲𝗰𝘁 คือผู้ถูกตรวจวัดอยู่เงียบๆแทน ส่วนคนที่เป็นฝ่ายรับก็เปลี่ยนกลับมาเป็นฝ่ายตรวจ พอครบจบกระบวนการแล้ว คู่ปฏิบัติทั้งสองจะพูดคุยแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้รับมาว่าเจออะไร รู้สึกอย่างไรกันบ้างอีก 𝟰-𝟱 นาที
🛑 บ่อยเลยครับที่ตอนทำแบบฝึกหัดนี้จะเกิดการวินิจฉัยโรคได้ถูกต้องจนน่าตกใจ เหมือนข้อมูลที่ไม่เคยรู้มาก่อนเกิดการถ่ายทอดสู่ผู้สแกน หรือผู้ตรวจสนามพลังได้เอง 𝗜𝗻𝘁𝘂𝗶𝘁𝗶𝘃𝗲 𝗠𝗶𝗻𝗱 หรือ ‘เจโตปริญาณ’ (จิตที่รับรู้เหตุการณ์ได้เอง) ของเราถูกกระตุ้นให้ทำงานได้ระหว่างที่เราทดลองทำแบบฝึกหัดสั้นๆนี้
(มีต่อ)
หนังสือ
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
𝗠𝗲𝘀𝘀𝗮𝗴𝗲𝘀 𝗙𝗿𝗼𝗺 𝗧𝗵𝗲 𝗠𝗮𝘀𝘁𝗲𝗿𝘀
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย