Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ChristianThai
•
ติดตาม
16 ม.ค. 2022 เวลา 12:36 • การศึกษา
คนมาจากลิงจริงหรือ?
ค้นหาแหล่งกำเนิดของมนุษยชาติ
ในท่ามกลางประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของมนุษยชาติ ได้มีนักค้นคว้าหลายต่อหลายคนพยายามที่จะค้นหาคำตอบของคำถามที่ว่า
“มนุษย์มาจากไหน?”
และหลายครั้งเมื่อเราถามคนทั่วไปว่า
“คนมาจากไหน?”
ถ้าเราลองถาม-ตอบดูเล่น ๆ ก็คงจะถาม-
ตอบว่า... “คนมาจากพ่อของคน”...
“แล้วพ่อของคนมาจากไหน?”
“มาจากพ่อของพ่ออีกที”
“แล้วคนแรกมาจากไหน”
“มาจากลิง”
“แล้วลิงมาจากไหน?”
“มาจากพ่อของลิง”
“แล้วพ่อของลิงมาจากไหน?”
“มาจากพ่อของพ่อลิงอีกที”
“แล้วลิงตัวแรกมาจากไหน?”
“มาจากพ่อของเซลล์”
“แล้วพ่อของเซลล์ล่ะมาจากไหน?”
“มาจากพ่อของพ่อเซลล์อีกที”
“แล้วเซลล์ตัวแรกมาจากไหน?”
เมื่อมาถึงคำถามนี้คนทั่วไปก็ไม่ทราบว่าจะตอบอย่างไร?
บางคนก็ตอบว่า “ไม่รู้เหมือนกัน!”
หรือบางคนก็ตอบว่า “คงเกิดขึ้นเองมั๊ง!!”
ที่มาของทฤษฎีวิวัฒนาการ
หลุยส์ ปาสเตอร์ นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบวัคซีนรักษาโรคพิษสุนัขบ้า ได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นชัดเจนแล้วว่า ชีวิตไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นเอง แต่ชีวิตจะต้องเกิดจากชีวิตเท่านั้น
ซึ่ง ชาร์ล ดาร์วิน (Charles Darwin) ผู้เขียนหนังสือ “ที่มาของพันธุกรรม” (The Origin Of Species ค.ศ.1859)
ก็มีความคิดเห็นที่เหมือนกันและถ้าจะถามดาร์วินต่อไปว่า
“ชีวิตเกิดมาจากไหน?”
เขาก็ได้ตอบในหนังสือของเขาเล่มนี้ว่า “ชีวิตนั้นถูกสร้างและออกแบบขึ้นมาจากพระเจ้าผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งปวง” (หน้าที่ 458)
จากข้อมูลข้างต้นนี้ทำให้เราเห็นว่า ชาร์ล ดาร์วินเองก็เชื่อว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างชีวิตขึ้นมา เพียงแต่เขาต้องการอยากจะทราบว่า พระเจ้านั้นสร้างสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ หลายรูปแบบจากเซลล์เดียว หรือค่อย ๆ มีการวิวัฒนาการ
โดยเขาได้ศึกษาเกี่ยวกับชีวภาคของสิ่งมีชีวิต และเห็นว่าความคิดในเรื่องเซลล์ที่มีชีวิตต่างๆ ในโลกนั้น เป็นสิ่งที่จริงในวิทยาศาสตร์ เพราะฉะนั้นมันน่าจะเป็นไปได้ที่สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในโลกนั้นมาจากการวิวัฒนาการของเซลล์เล็ก ๆ เหล่านี้
ดังนั้นเขาจึงพยายามหาข้อมูลจากสิ่งที่ปรากฏในธรรมชาติ เพื่อมาพิสูจน์ทฤษฎีความเชื่อของเขาในหนังสือเล่มนี้ของเขา ได้อธิบายถึงความสามารถในการดำรงชีวิตอยู่ของเซลล์ที่มีศักยภาพในการต่อสู้เพื่อมีชีวิตของมันสามารถดำรงอยู่ได้โดยใช้ระยะเวลาและความบังเอิญในการสร้างรูปร่างของมัน
เขาจึงคิดว่ามนุษย์เราน่าจะมาจากสายพันธุ์ของลิงเอป (ape)โดยการใช้ระยะเวลาหลายล้านปีในการปรับสภาพรูปร่างจนกลายเป็นรูปร่างของมนุษย์ก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการวิวัฒนาการไปเรื่อย ๆ ไม่ได้หยุด
ดังนั้นในอนาคตอีกหลายล้านปีข้างหน้า มนุษย์เราอาจจะมีหัวโตขึ้น เพราะใช้สมองมาก และนิ้วมืออาจจะเล็กลงเพราะใช้แต่นิ้วชี้ หรือร่างกายภายในอาจจะมีการปรับตัวให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ แม้จะมีอ๊อกซิเจนในอากาศไม่ถึง 21% ก็ตาม...
และถ้ามีคนถามชาร์ล ดาร์วินว่า
อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตมากมายหลายพันธ?ุ์
อะไรเป็นตัวคัดเลือกว่า
เซลล์นี้ควรจะเป็นปลาวาฬ...
เซลล์นี้ควรจะเป็นผีเสื้อ...
เซลล์นี้ควรจะเป็นแรด
เซลล์นี้ควรจะเป็นคน? ฯลฯ
ซึ่งชาร์ล ดาร์วินก็ได้ตอบว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดมีสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ก็เพราะผ่านขบวนการคัดเลือกทางธรรมชาตินั่นเอง
ซึ่งถ้าเราจะสรุปข้อสมมุติฐานในเรื่องนี้ของดาร์วินก็จะสามารถสรุปได้ 3 ประการ แต่ทั้ง 3 ประการนี้ล้วนแต่สามารถมีข้อโต้แย้งได้ทั้งสิ้น
เราจะมาดูว่าข้อสมมุติฐานทั้ง 3 ประการนี้คืออะไรบ้าง?...
1.การที่เกิดสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ต่าง ๆ ในโลก ก็เพราะสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ได้ผ่านขบวนการปรับตัวตามสภาพแวดล้อม เพื่อที่จะมีการดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัย....
แต่เราจะเห็นว่าทำไมสิ่งมีชีวิตที่ชาร์ล ดาร์วินบอกว่าวิวัฒนาการได้ดีที่สุดคือ “มนุษย์” กลับมีปรากฏการณ์ที่ขัดแย้งกับทฤษฎีของเขามากที่สุด...
เมื่อเราเห็นลูกของสัตว์ต่าง ๆ ที่คลอดออกมาใหม่ ๆเราก็จะเห็นว่ามันสามารถที่จะปรับตัวของมันได้อย่างรวดเร็วเพื่อที่จะมีชีวิตรอด
แต่มนุษย์เรานั้นเมื่อคลอดออกมาแล้ว กลับต้องใช้เวลาหลายปี จึงจะสามารถที่ปรับตัวในการช่วยตัวเองให้อยู่รอดได้...
ดังนั้นการอธิบายเช่นนี้ของเขาจึงไม่มีน้ำหนักพอที่จะสามารถทำให้เชื่อถือได้เลย..
2. สิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ อาจจะเกิดมาจากการผสมข้ามพันธุ์ แล้วเกิดพันธุ์ใหม่ขึ้น
ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ความเป็นจริงแล้ว เมื่อม้าผสมกับลา มันก็จะออกมาเป็นล่อ
ซึ่งยังเป็นสัตว์ที่อยู่ในสายพันธุ์เดียวกันกับมันอยู่ดี มันไม่สามารถ “ผ่าเหล่า” ได้เลย เช่น ม้าลายผสมพันธุ์กับแมวน้ำแล้วออกมาเป็นสัตว์อีกสายพันธุ์หนึ่ง
3. การเกิดมีสิ่งมีชีวิตหลายสายพันธุ์นนั้ อาจเกิดมาจากการบังเอิญของการผิดปกติทางพันธุกรรม
สมมุติฐานนี้ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะวงการแพทย์เองก็รู้ดีว่าการผิดปกติทางพันธุกรรม จะก่อให้เกิดผลในแง่ลบมากกว่าผลในแง่บวก เช่น ถ้าภายในร่างกายเกิดสิ่งผิดปกติ ก็จะกลายเป็นมะเร็งหรือถ้ามีเด็กเกิดมาหัวโตผิดปกตินั้น ไม่ใช่รูปร่างที่สวยงามเลย...
แต่เมื่อเราดูสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในโลก เราจะเห็นว่า มันมีรูปร่างที่สวยงามและสมส่วน ซึ่งถ้าจะอธิบายว่าสิ่งมีชีวิตเกิดจากการออกแบบอย่างยอดเยี่ยมจากพระเจ้าซึ่งเป็นพระผู้สร้าง ก็จะง่ายในการเชื่อมากกว่าที่จะอธิบายว่ามาจากการบังเอิญ
เพราะส่วนใหญ่แล้วการบังเอิญสร้างสรรสิ่งที่สวยงามไม่ได้ เช่น ฉันบังเอิญทำแจกันแก้วหล่นแตก แล้วเศษแก้วก็บังเอิญประกอบเป็นภาพของโมนาลิซ่า คุณจะเชื่อไหมครับ? ไม่มีทาง!...
ถึงแม้มันจะตกลงไปล้านครั้ง ก็บังเอิญเกิดภาพสวยไม่ได้หรอกครับ.. นอกจาก... ความเละเทะ!...
จากเหตุผลข้างต้นเราจะเห็นว่า... การอธิบายของ ดาร์วินนั้นมีน้ำหนักน้อยมาก แม้แต่ตัวของเขาเองก็ยอมรับว่าทฤษฎีของเขาขาดหลักฐานและข้อมูลอยู่สองประการ
คือ Missing link (ซากฟอสซิลของสัตว์ผสมที่กำลังกลายรูปร่าง) และข้อมูลเรื่องการทำงานของระบบต่าง ๆ ในตัวมนุษย์และสัตว์ ว่าแตกต่างหรือเหมือนกันเพียงไร ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของระบบทางเดินของเลือดและการทำงานของDNA ...
เพราะเขาได้พูดไว้ว่า “ทฤษฎีของข้าพเจ้านั้นไม่ใช้เป็นข้อมูลหรือข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ แต่มันเป็นเพียงความเชื่อหรือความคิดส่วนตัวของข้าพเจ้าเท่านั้น ข้าพเจ้ายังขาดข้อพิสูจน์อีกหลายอย่าง...
ดังนั้นถ้าในอนาคตมีใครสามารถที่จะอธิบายได้ว่า ระบบการทำงานภายในร่างกายของมนุษย์และสัตว์ต่างกันอย่างสิ้นเชิงได้ เขาคนนั้นก็จะสามารถที่จะลบล้างคำอธิบายเรื่องทฤษฎีวิวัฒนาการของข้าพเจ้าได้เลย”...
และเมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า Darwin Black Box : The Biochemical to Evolution Michael J.Behe นักชีววิทยาชาวอเมริกาได้เขย่าการทฤษฎีวิวัฒนาการอย่างรุนแรง
โดยเขาชี้ให้เห็นว่าการทำงานของระบบภายในของมนุษย์และสัตว์นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และเมื่อบรรดานักชีววิทยาทำการตรวจสอบข้อมูลที่เขานำเสนอ ก็เห็นว่าเป็นจริง
ส่วนเรื่อง Missing link นั้น ถ้าสมมุติฐานของ ดาร์วิน ที่ว่ามนุษย์เรามีวิวัฒนาการมาจากลิงเป็นเรื่องจริง เราก็น่าจะค้นพบซากของลิงในขณะที่อยู่ในระหว่างกึ่งกลางที่กำลังวิวัฒนาการเป็นคน (คนผสมลิง)
แต่จนถึงปัจจุบัน โลกนี้ถูกสำรวจจนพลิกแผ่นดินก็ยังไม่มีการค้นพบ Missing link ที่ว่าแม้แต่ชิ้นเดียว แต่พวกที่เชื่อในทฤษฎีที่ว่าคนมากจากลิงนั้นต่างอ้างว่า พวกเขามี Missing link อยู่หลายชิ้น แต่ในปัจจุบันนี้มีนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการพิสูจน์และได้ข้อสรุปออกมาแล้วว่า ไม่ใช่ Missing link และ บางชิ้นก็ทำออกมาเพื่อตบตาคนทั่วโลกด้วยซ้ำไป...
ดังนั้นในปัจจุบันนี้แนวโน้มของคนตะวันตกไม่ค่อยมีการค้นหาข้อมูลที่จะมาสนับสนุนทฤษฎีวิวัฒนาการแล้ว ความเชื่อที่ว่าคนมาจากลิงก็ค่อย ๆ ลบเลือนไป...จากข้างต้น
เราได้อธิบายแล้วว่าทฤษฎีวิวัฒนาการนั้นไม่ใช่วิทยาศาสตร์เลย แต่เป็นเพียงการตั้งสมมุติฐานขึ้นมาเท่านั้น และเป็นสมมุติฐานที่มีข้อมูลในการสนับสนุนที่น้อยและขาดน้ำหนัก ซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือเลย
ถ้าเช่นนั้น
“มนุษย์เรามาจากไหนกันแน่?”
ซึ่งคำตอบของคำถามนี้ก็เหลือเพียงคำตอบเดียวเท่านั้น นั่นก็คือมาจากการทรงสร้างของพระเจ้าซึ่งพระองค์ก็ทรงสร้างมนุษย์เราให้เป็นมนุษย์โดยตรง ไม่ได้เริ่มมาจากเซลล์แล้ววิวัฒนาการมาหลายล้านปีตามที่หลายคนเข้าใจหรือเชื่อผิด ๆอยู่
ที่มาของมนุษย์
ผู้อ่านที่รัก...ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ได้บันทึกไว้อย่างชัดเจนว่า ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนแต่มาจากพระเจ้าทั้งสิ้น ซึ่งเราจะสังเกตุเห็นว่า สิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างนั้นล้วนแต่สวยงามและน่าอัศจรรย์
แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการทรงสร้างของพระเจ้าก็คือ “มนุษย์” นั่นเอง ดังนั้นชีวิตของท่านไม่ได้เกิดขึ้นเองมนุษย์เราก็ไม่ได้มาจากลิง...
ถ้าเราลองวิเคราะห์ดูชีวิตของมนุษย์แล้ว เราก็จะเห็นว่า มนุษย์เรานั้นแตกต่างจากสัตว์อย่างสิ้นเชิง เพราะว่ามนุษย์นั้นมีสมองอันปราดเปรื่อง มีความคิดสร้างสรรค์ มีศักดิ์ศรีมีจริยธรรม มีนโนธรรมและที่สำคัญก็คือมนุษย์เรานั้นมีจิตวิญญาณจึงทำให้มีความกระหายหาอยากรู้ว่า
ฉันมาจากไหน?
อยู่ในโลกนี้เพื่ออะไร?
และฉันกำลังจะไปไหน?
ซึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้กำลังชี้ให้เห็นว่า มนุษย์เรานั้นไม่ได้วิวัฒนาการมาจากสัตว์ แต่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่ซึ่งก็คือ พระเจ้านั่นเอง...
และเมื่อพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาแล้ว พระองค์ก็ทรงมีพระประสงค์ให้มนุษย์เรามีสัมพันธภาพกับพระองค์เหมือนกับพ่อลูก
ดังนั้นพระองค์จึงอยากให้มนุษย์เราได้รับความรักและสิ่งที่ดีต่าง ๆ จากพระองค์ และพระองค์ก็ทรง มีกฏเกณฑ์ที่ดีงามให้กับมนุษย์เรา แต่พระองค์ก็ไม่ได้ทรงบังคับมนุษย์ให้ทำตามกฏเกณฑ์ที่พระองค์ทรงวางไว้ เพราะพระองค์ทรงให้มนุษย์มีอิสระในการตัดสินใจได้เอง
แต่น่าเศร้าที่มนุษย์เราใช้อิสระที่พระเจ้าทรงประทานให้ในทางที่ผิดเพราะเราจะเห็นว่ามนุษย์ทุกคนต่างตัดสินใจทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ผิดบาป ซึ่งความบาปก็ได้ครอบงำชีวิตมนุษย์เราทุกคน ทำให้เราไม่สามารถที่จะต่อสู้กับความบาปและเอาชนะมันได้เลย
และไม่ว่ามนุษย์จะทำอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะช่วยตนเองให้พ้นจากบาปที่อยู่ในชีวิตเขา ดังนั้นเมื่อเขาจากโลกนี้ไป จิตวิญญาณของเขาก็จะต้องรับการพิพากษาโทษจากพระเจ้าผู้สร้างเขา ในที่สุดก็จะต้องรับโทษในนรกและอยู่ที่นั่นตลอดไปเป็นนิตย์...
แต่พระเจ้าทรงรักมนุษย์ พระองค์ไม่อยากให้มนุษย์ที่พระองค์สร้างขึ้นมานั้นต้องพบกับความพินาศในนรกเลย
ดังนั้นเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว พระองค์จึงทรงให้พระเยซูคริสต์ซึ่งเป็นพระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลก เพื่อมาเป็นผู้รับโทษบาปแทนมวลมนุษยชาติ โดยทรงยอมถูกตรึงจนสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน
นี่นับว่าเป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่ทรงจัดเตรียมทางรอดจากบาปเช่นนี้ให้แก่มนุษย์เรา และวันนี้ พระเจ้าได้ทรงตรัสสั่งให้มนุษย์ทุกคนทั่วโลกกลับใจเสียใหม่ละทิ้งความบาป และหันหลับมารับพระคุณความรอดที่พระองค์ทรงจัดเตรียมให้โดยผ่านทางพระเยซูคริสต์...
บัดนี้ท่านมีโอกาสที่จะรอดพ้นจากบาปแล้ว รีบหันกลับมาหาพระเจ้า และรับความช่วยเหลือที่มาจากพระเยซูคริสต์ เพื่อท่านจะไม่รับการพิพากษาโทษจากพระเจ้า แต่จะได้ไปอยู่ในสวรรค์กับพระองค์เป็นนิจนิรันดร์ ..
ท่านสามารถอธิษฐานทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์ดังนี้
“ข้าแต่พระเจ้า...ข้าพระองค์ได้ทราบแล้วว่า พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างชีวิตของข้าพระองค์ แต่ข้าพระองค์ไม่เชื่อฟังพระองค์และหันไปทำความผิดบาปหลายอย่าง ขอพระองค์ทรงโปรดเมตตายกโทษความผิดบาปให้แก่ข้าพระองค์ด้วย และขอพระเยซูคริสต์ทรงช่วยรับโทษบาปแทนข้าพระองค์ด้วยเถิดข้าพระองค์ขอเชื่อพึ่งในพระองค์ตลอดไป อธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน”.
ถ้าท่านได้อธิษฐานตามข้างต้นนี้ด้วยความจริงใจแล้ว ขอให้ท่านมั่นใจเถิดว่า พระเจ้าได้ทรงอภัยโทษบาปให้แก่ท่านแล้วอย่างแน่นอน...
ผู้เขียน : อาจารย์นิกร สิทธิจริยาภรณ์
สารบัญ Blockdit christianthai
https://www.blockdit.com/posts/62bc6a5483c9c7afe1978688
ซีรีส์ หนังสือเสียงคริสเตียน
https://www.blockdit.com/series/6494669e4e915381ad23f92e
ซีรีส์ แบ่งปันข้อพระคัมภีร์โดย ChatGPT
https://www.blockdit.com/series/6442a9778df4b54742d64a3f
ซีรีส์ ใบปลิวคริสเตียน
https://www.blockdit.com/series/6443f153175a891238f59001
ปรัชญา
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ใบปลิวคริสเตียน
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย