โลกพิศวงงงงวย ตอน 4
ยุคเกลียดกันง้ายง่าย
ในยุคที่คนเข้าถึงโซเชียลมีเดียวได้ง่าย ก็เป็นยุคที่คนเกลียดโกรธกันง่ายเช่นเดียวกัน
มีงานวิจัยปี 2013 ของ Birmingham Business School ที่สรุปว่า แค่คุณแปะรูปบนเฟซบุ๊ก ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้สัมพันธภาพในโลกจริงย่ำแย่ลง
คาดกันว่าสาเหตุเพราะ หากไม่ใช่ญาติหรือเพื่อนสนิทแล้ว พวกเพื่อนบนเฟซบุ๊กจะไม่ “อิน” ไปกับรูปพวกนั้นมากหนักเลยรำคาญ
ที่แย่คือ โพสต์รูปเพื่อน ญาติก็ไม่ถูกใจ แต่พอโพสต์รูปญาติ เพื่อนก็ไม่ชอบอีก ทั้งขึ้นทั้งล่อง!
เท่านั้นไม่พอ มีการศึกษาปี 2018 ของมหาวิทยาลัยมิชิแกนสเตตที่ระบุว่า เมื่อให้อาสาสมัครดูโปรไฟล์เฟซบุ๊กปลอมที่ทำขึ้น แล้วให้ระบุว่าชอบหรือไม่ อย่างไร
สิ่งที่พบก็คือ ส่วนใหญ่หากโปรไฟล์พวกนั้นมีเพื่อนอยู่ 100–300 คน จะได้รับการชมชอบมากกว่า (แย่ละ ของผู้เขียนเลยไปเป็น 10 เท่าละ!)
เหตุผลคือคนที่มีเพื่อนเกิน 300 คน ถูกมองว่าเป็นพวกติดเฟซบุ๊ก และเป็นพวกมองหาความดัง การเป็นที่รู้จักจากจำนวนเพื่อนในเฟซบุ๊ก (แม้ว่าอาจจะไม่จริงก็ตาม)
แต่เมื่อเจาะลงไปดูรายละเอียด นักวิจัยพบว่าอาสาสมัครพวกนี้มีเพื่อนบนเฟซบุ๊กเฉลี่ยราว 300 คน ดังนั้น ไม่แน่ว่าหากค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 คน ความชอบก็อาจขยับไปอยู่ที่ 1,000 คนได้เช่นกัน
อ้อ มีการสำรวจในปี 2014 พบว่า ค่าเฉลี่ยจำนวนเพื่อนบนเฟซบุ๊กของผู้ใหญ่คือ 338 คน ใกล้เคียงกับการทดลองข้างบนเหมือนกัน
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ คนทั่วไปชอบดูรูปโปรไฟล์ที่เห็นหน้าใหญ่ๆ ชัดๆ มากกว่าครับ
มีงานวิจัยปี 2012 ระบุว่า ใบหน้าที่ถ่ายที่ระยะ 45 เซนติเมตร ได้รับการโหวตว่าดูไว้ใจได้ ดึงดูดใจ และเอาการเอางาน มากกว่ารูปที่ถ่ายจากระยะ 135 เซนติเมตร
โดยทั่วไปคนจะชอบคนอื่นที่ยิ้มให้ตัวเองมากกว่าไม่ยิ้มนะครับ แต่...มีงานวิจัยปี 2017 ที่บอกว่า การใส่รูปอีโมติคอนหน้ายิ้มในอีเมล กลับไม่ได้ทำให้ดูเป็นคนอบอุ่นน่าคบ แต่กลับทำให้ดูเป็นคนเหลาะแหละ–ซะงั้น!
แต่เรื่องอีโมหน้ายิ้มนี่คงต้องศึกษากันอีกหลายยก เพราะมีเปเปอร์อื่นที่บอกว่า ทำให้ดูอบอุ่นขึ้นเช่นกัน
อย่างที่จั่วหัวแหละครับ อะไรนิดอะไรหน่อย ก็ทำให้เหม็นหน้า เบื่อหน้ากันได้แล้ว สำหรับยุคนี้!!!
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
