"กระจายเสียซึ่งผัสสะ"
🍃 วิญญาณย่อมมีขึ้น เพราะอาศัยธรรม ๒ อย่าง
สองอย่าง คือ เพราะอาศัยซึ่ง จักษุ ด้วย
ซึ่ง รูปทั้งหลาย ด้วย
จักขุวิญญาณ จึงเกิดขึ้น
จักษุเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน
มีความเป็นไปโดยประการอื่น
รูปทั้งหลายเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน
มีความเป็นไปโดยประการอื่น
ธรรมทั้งสอง (จักษุ + รูป) อย่างนี้แล
เป็นสิ่งที่หวั่นไหวด้วย อาพาธด้วย ไม่เที่ยง
มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
จักขุวิญญาณเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน
มีความเป็นไปโดยประการอื่น
เหตุอันใดก็ตาม ปัจจัยอันใดก็ตาม
เพื่อความเกิดขึ้นแห่งจักขุวิญญาณ
แม้ เหตุ อันนั้น แม้ ปัจจัย อันนั้น
ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน
มีความเป็นไปโดยประการอื่น
จักขุวิญญาณเกิดขึ้นแล้ว
เพราะอาศัยปัจจัยที่ไม่เที่ยงดังนี้
จักขุวิญญาณจักเป็นของเที่ยงมาแต่ไหน
...
ความประจวบพร้อม ความประชุมพร้อม
ความมาพร้อมกันแห่งธรรมทั้งหลาย
(จักษุ + รูป + จักขุวิญญาณ) ๓ อย่าง เหล่านี้ อันใดแล
อันนี้ท่านเรียกว่า จักขุสัมผัส
แม้ จักขุสัมผัส ก็เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน
มีความเป็นไปโดยประการอื่น
เหตุอันใดก็ตาม ปัจจัยอันใดก็ตาม เพื่อความเกิดขึ้นแห่งจักขุสัมผัส
แม้ เหตุ อันนั้น แม้ ปัจจัย อันนั้น
ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน
มีความเป็นไปโดยประการอื่น
จักขุสัมผัสเกิดขึ้นแล้ว เพราะอาศัยปัจจัยที่ไม่เที่ยงดังนี้
จักขุสัมผัสจักเป็นของเที่ยง มาแต่ไหน
...
บุคคลที่ผัสสะกระทบแล้วย่อมรู้สึก (เวเทติ)
ผัสสะกระทบแล้วย่อม คิด (เจเตติ)
ผัสสะกระทบแล้วย่อม จำได้หมายรู้ (สญฺชานาติ)
แม้ธรรมทั้งหลาย(เวทนา เจตนา สัญญา) อย่างนี้เหล่านี้
ก็ล้วนเป็นสิ่งที่หวั่นไหวด้วย อาพาธด้วย
ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น
(ในกรณีแห่งโสตวิญญาณก็ดี ฆานวิญญาณก็ดี
ชิวหาวิญญาณก็ดี กายวิญญาณก็ดี
มโนวิญญานก็ดี ก็มีนัยเดียวกัน)
.
รับฟังรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Podcast ▶️