[Bnomics] พื้นที่สาธารณะกับการตกหลุมรัก : เพราะกรุงเทพฯ รถติดเลยทำให้เราโสด ตอนเด็กๆ หลายคนคงจะเคยดูหนังเรื่อง “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” แล้วสงสัยว่าคนอย่างเหมยลี่ที่โสดมาจนอายุ 30 นั้นมีจริงหรือ?

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

Bnomics

•

11 ก.พ. 2022 เวลา 12:19 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

พื้นที่สาธารณะกับการตกหลุมรัก : เพราะกรุงเทพฯ รถติดเลยทำให้เราโสด

ตอนเด็กๆ หลายคนคงจะเคยดูหนังเรื่อง “รถไฟฟ้ามาหานะเธอ” แล้วสงสัยว่าคนอย่างเหมยลี่ที่โสดมาจนอายุ 30 นั้นมีจริงหรือ?

แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป เรากลับกลายเป็นเหมยลี่เสียเอง…

บรรยากาศในหนังเรื่องรถไฟฟ้ามาหานะเธอ แม้จะผ่านไป 13 ปี แล้ว แม้ว่าในตอนนั้นรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทจะวิ่งสุดแค่ปลายทาง หมอชิต - อ่อนนุช แต่บรรยากาศการคมนาคมที่รถติด เต็มไปด้วยความวุ่นวายในยามเร่งรีบในปัจจุบันก็ไม่ได้ต่างจากฉากหลังในหนังนัก

ไม่น่าแปลกที่มนุษย์วัยทำงานหลายคนจะหมดพลังไปกับการเดินทางและทำงานในแต่ละวัน จนการเลิกงานมีความหมายเพียงแค่กลับบ้านนอนแล้วพรุ่งนี้ตื่นมาสู้ใหม่อีกครั้ง ไม่เหลือพลังให้ออกไปตามหาความรักอีกแล้ว

ประกอบกับในกรุงเทพฯ ยังไม่มีค่อยพื้นที่สาธารณะให้พักผ่อนหย่อนใจ หรือเป็นพื้นที่ที่ช่วยให้เราได้พบปะผู้คนใหม่ๆ หลังเลิกงาน แล้วนำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์เป็นคนรักกันได้เลย

วันนี้ Bnomics จึงอยากจะมาเล่าถึงความสำคัญของ “พื้นที่สาธารณะ” ที่นอกจากจะมีบทบาทในการช่วยให้คนตกหลุมรักกันได้ง่ายขึ้น ยังเป็นสิ่งที่สร้างประโยชน์มากมายให้แก่เศรษฐกิจและสังคมได้

📌 ชีวิตที่รีบเร่ง และตามหาความรักอย่างเร่งรีบ

ภาพผู้คนที่เดินเข้าออกรถไฟฟ้าอย่างเร่งรีบ ผู้คนที่ต่อคิวรอรถตู้ รถประจำทางอย่างหนาแน่น คงจะเป็นภาพคุ้นตาสำหรับหลายคนที่ทำงานในกรุงเทพฯ ว่ากันว่าในแต่ละวัน หากรวมประชากรที่เดินทางจากปริมณฑลเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ด้วยแล้ว

กรุงเทพฯ จะมีประชากรมากถึง 15 ล้านคนเลยทีเดียว

ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ และความเจริญในกรุงเทพฯ จึงนำพาคนมากมายให้ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองแห่งนี้เพื่อแสวงหาโอกาสในการจะมีชีวิตที่ดีขึ้น จนทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีความหนาแน่น การจราจรคับคั่ง และต้องเผชิญกับปัญหารถติดอย่างเลี่ยงไม่ได้ นอกเสียจากจะต้องเร่งรีบออกเดินทางก่อนช่วงเวลาที่รถจะติด

นั่นจึงทำให้ใครหลายคน ต้องตื่นแต่เช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเพื่อเข้ามาทำงานในเมือง และกลับบ้านหลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว กิจวัตรที่วนลูปทุกวันเช่นนี้ จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้คนที่ยังโสดส่วนใหญ่พบรักได้ยากขึ้น เพราะแทบไม่ได้มีโอกาสไปพบปะผู้คนใหม่ๆ เลย นอกเสียจากเจอระหว่างเดินทางไปทำงาน

แน่นอนว่าการจะตกหลุมรักใครสักคนและสานความสัมพันธ์กันไปจนเป็นคู่ชีวิตกันมันไม่ได้ง่ายเหมือนในหนังขนาดนั้น โดยเฉพาะการจะเริ่มต้นบทสนทนากับคนที่ไม่รู้จัก เพราะคนไทยมักจะถูกสอนให้ระวังการสนทนากับคนแปลกหน้ากันมาตั้งแต่เด็กๆ

เครดิตภาพ : GDH 599

📌 พื้นที่สาธารณะ…กับการตกหลุมรัก

แต่หากมีพื้นที่สาธารณะที่ทำให้คนที่มีความสนใจคล้ายๆ กันได้มาเจอกัน เช่น พิพิธภัณฑ์ หรือสวนสาธารณะ ที่เข้าถึงได้ง่ายและกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ คงจะเป็นช่องทางที่ช่วยเชื่อมต่อให้กลุ่มคนที่มีความสนใจใกล้เคียงกัน ได้มาพบปะพูดคุย และพัฒนาความสัมพันธ์ได้โดยง่ายขึ้น

อย่างที่เราคงเห็นภาพจากในซีรีส์เกาหลีบ่อยๆ ที่นางเอกกับพระเอกใช้เวลาว่างหลังเลิกงานนั่งกินรามยอนริมแม่น้ำฮัน เดินคุยกันไปเรื่อยๆ จนถึงบ้าน หรือทำอาหารไปปิกนิกในสวนสาธารณะวันหยุด กิจกรรมเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังช่วงให้คู่รักได้ศึกษานิสัยใจคอ เห็นมุมมองต่างๆ ของอีกฝ่ายได้ด้วย

ในทางกลับกัน ภาพเหล่านี้คงไม่ได้เป็นภาพที่เห็นบ่อยนักในกรุงเทพฯ ด้วยความที่ผังเมืองของเราไม่ค่อยมีพื้นที่สาธารณะกระจายตัวอยู่ทั่ว ส่วนทางเท้าในเมืองเองก็ไม่ได้เดินได้สะดวกขนาดนั้น ทำให้หลายคู่มักจะเลือกไปเดทที่ห้าง กินข้าว ดูหนัง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่ค่อยช่วยให้ได้เรียนรู้นิสัยซึ่งกันและกัน จนนำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ได้ดีเท่าไรนัก

เครดิตภาพ : GDH 599

📌 มูลค่าทางเศรษฐกิจของพื้นที่สาธารณะ

เมื่อพูดถึงในเชิงเศรษฐกิจ การสร้างพื้นที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่สีเขียวในเมือง, ทางเท้าที่เดินได้สะดวก และการปรับปรุงบริเวณสาธารณะ ไม่เพียงแต่จะช่วยเชื่อมโยงให้ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดประโยชน์ด้านอื่นต่อเศรษฐกิจและสังคมได้อีก ตัวอย่างเช่น

1. เมื่อมีพื้นที่ที่ช่วยเชื่อมโยงให้คนเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กันเยอะๆ ก็จะตามมาด้วยการเกิดขึ้นของร้านค้า ร้านอาหารในย่านนั้นๆ หรือกลายเป็นศูนย์กลางสำหรับธุรกิจท้องถิ่น เกิดอีเว้นท์ต่างๆ เช่น คอนเสิร์ต, การจัดงานเทศกาล, กิจกรรมออกกำลังกาย จากข้อมูลพบว่าการมีพื้นที่สาธารณะในเมืองช่วยให้ปริมาณการค้าเพิ่มขึ้น 40% และยังกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจากภาคเอกชนอีกด้วย

เครดิตภาพ : GDH 599

2. เพิ่มมูลค่าที่ดินและทรัพย์สินโดยรอบ อาทิ ร้านค้าปลีก, บ้าน, ที่อยู่อาศัย และที่ดินเพื่อการพาณิชย์ อีกทั้งยังกลายเป็นแหล่งรายได้ให้แก่รัฐบาลจากการจัดเก็บภาษีต่างๆ เมื่อมีการซื้อขายที่ดิน เพื่อนำมาใช้ลงทุนในสินค้าและบริการต่อไป จึงสามารถช่วยประหยัดงบประมาณโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาว

3. ช่วยส่งเสริมให้คนเดินเท้า และใช้จักรยานได้อย่างปลอดภัย ทำให้กระตุ้นให้คนอยากมาเดิน หรือวิ่งจ๊อกกิ้งเพื่อออกกำลังกายในยามว่าง รวมถึงอยากใช้จักรยานในการเดินทาง ซึ่งก็จะช่วยลดมลพิษ และลดปัญหาการจราจรหนาแน่นได้

เครดิตภาพ : GDH 599

4. เมื่อผู้คนมีพื้นที่ให้มาออกกำลังกายนอกบ้าน และมีกิจกรรมให้ทำนอกบ้านมากยิ่งขึ้น ก็จะช่วยลดโอกาสที่จะเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ซึ่งเป็นภาระค่าใช้จ่ายสาธารณสุขในระยะยาว นอกจากนี้ยังช่วยให้สุขภาพจิตของประชาชนดีขึ้นเมื่อได้อยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดี

5. ส่งเสริมให้เด็กเล็กๆ ได้มีโอกาสออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน ได้สัมผัสธรรมชาติ ซึ่งจะดีต่อพัฒนาการ ทักษะการเข้าสังคม และการเรียนรู้ในอนาคต ทั้งยังพบว่าเด็กเล็กที่ใช้เวลาอยู่นอกบ้านบ่อยๆ มีโอกาสจะเจ็บป่วยน้อยลง และมีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น

6. สร้างพื้นที่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียว และอนุรักษ์ทรัพยากรทั้งบนดินและน้ำใต้ดินได้อย่างยั่งยืน

ผลประโยชน์ที่เศรษฐกิจและสังคมได้รับ ดูเผินๆ ก็เหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่เมื่อนำทุกองค์ประกอบมารวมกันแล้วจะพบว่าเพียงแค่มีพื้นที่สาธารณะดีๆ กระจายอยู่ทั่ว จะช่วยให้คุณภาพชีวิตประชาชนในภาพรวมดีขึ้นได้ในเกือบทุกมิติเลยทีเดียว

จากการที่ประเทศไทยมีจำนวนเด็กเกิดใหม่ต่ำกว่าปีละ 600,000 คน ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 แล้ว นำมาซึ่งความกังวลใจให้กับหลายฝ่ายในเรื่องการกลายเป็นสังคมสูงวัย ทางกระทรวงสาธารณสุขเองก็ได้เคยมีไอเดียจัดกิจกรรมมีตติ้งจับคู่คนโสดเพื่อให้ได้พบปะพูดคุยกันและนำไปสู่การแต่งงาน

ดังนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ดีหากมีการส่งเสริมให้เกิดพื้นที่สาธารณะขึ้น เพราะนอกจากก่อให้เกิดประโยชน์ในมิติอื่นๆ กับเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาวแล้ว ยังอาจจะช่วยให้คนโสดที่กำลังตามหาความรักอยู่ มีโอกาสพบคู่ชีวิตได้ง่ายขึ้นด้วย

สุดท้ายนี้ Bnomics อยากบอกผู้อ่านทุกคนว่า การจะเจอคนที่ใช่สักคนไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าคุณเจอใครสักคนที่ยอมฝ่ารถติดเป็นชั่วโมง เพื่อไปเจอหน้าคุณแค่ไม่กี่นาที…นั่นแหละเรียกว่ารักแท้ ขอให้รักษาเขาไว้ให้ดี

ส่วนใครที่ยังไม่มี ก็ขอให้คุณได้เจอคนที่ใช่ในเร็ววันนะคะ