21 ก.พ. 2022 เวลา 13:22
สุวรรณสามชาดก
พระราชากบิลยักขราช ออกมาดักล่าสัตว์ที่จะมากินน้ำตามวิถีพระราชา พบสุวรรณสามออกมาตักน้ำ
มีฝูงสัตว์เดินติดตามมาก็สงสัยว่าสุวรรณสามเป็นมนุษย์หรือเทวดา
จะเข้าไปถามก็เกรงว่าสุวรรณสามจะตกใจหนีไป พระราชาจึงยิงธนูอาบยาถูกสุวรรณสามล้มลง…
1
แสตมป์แบบที่ 4 จาก 4 แบบในชุดวันมาฆบูชา 2539 มีราคาหน้าดวง 8 พิมพ์ออกมา 2,000,000 ดวง เป็นภาพ “สุวรรณสามชาดก”
1
แสตมป์มาฆบูชา 2539 แบบที่ 3
ทศชาติ 3 พระสุวรรณสาม (บำเพ็ญเมตตาบารมี)
ในอดีตกาลนายมาแล้ว ห่างจากกรุงพาราณสีไม่ไกลนัก มีหมู่บ้านนายพรานสองหมู่บ้าน แบ่งเขตด้วยแม่น้ำ มีนายพรานที่เป็นสหายกันไปมาหาสู่เสมอ ตั้งใจว่า หากบุตรที่เกิดมาเป็นหญิง ชาย ก็จะให้แต่งงานกัน
นายพรานคนนึงมีลูกชาย ตั้งชื่อว่า “ทุกูลกุมาร” และนายพรานอีกคนมีลูกสาว ตั้งชื่อว่า “ปาริกากุมารี” ทั้งสองรักใคร่กันฉันเพื่อน แต่ต้องแต่งงานกันตามความต้องการของพ่อทั้งสองฝ่าย หนุ่มสาวทั้งสองฝักใฝ่ในศีลธรรม จึงอธิษฐานจิตออกบวชไปอยู่ป่า…
ในเวลาหนึ่ง พระอินทร์ทราบว่าจะมีพระโพธิสัตว์ จะมาจุติเป็นบุตรของดาบสทั้งสอง จึงได้ลงมาบอกให้ทั้งสองมีบุตร เพื่อคอยช่วยเหลือปรนนิบัติในยามยาก ทุกูลดาบสบอกว่า เป็นนักบวชถือเพศพรหมจรรย์ ไม่ได้ดำเนินชีวิตอย่างชาวโลก แล้วจะมีลูกได้อย่างไร พระอินทร์บอกว่า เพียงแต่เอามือลูบท้องนางปาริกา นางก็จะตั้งครรภ์ได้ ทุกูลดาบสทำตาม จึงได้ลูกชาย และตั้งชื่อให้ว่า สุวรรณสาม
เมื่อเวลาผ่านไป 16 ปี ดาบสผัวเมียออกไปหาผลไม้ในป่า พบฝนตกหนัก จึงหลบฝนอยู่ใกล้จอมปลวกที่มีงูพิษอาศัยอยู่ น้ำฝนที่เสื้อผ้าและผมของทั้งสองไหลหยดไปในรูงู งูตกใจพ่นพิษออกมาถูกตานักบวชทั้งสองจนบอด สาเหตุที่ทั้งสองต้องมารับกรรมแบบนี้ เกิดจากกรรมในชาติก่อน เมื่อทุกูลดาบสเป็นหมอตา รักษาตาให้เศรษฐีคนหนึ่งจนหาย แต่เศรษฐีขี้งกกลับไม่ให้เงินค่ารักษา ภรรยาจึงแนะนำให้สามีหลอกเศรษฐีใช้ยาต่ออีกขนานหนึ่ง ทำให้ตาบอด ผลของการไม่มีจรรยาบรรณครั้งนั้นทำให้ทั้งสองต้องมาตาบอดในชาตินี้ ดาบสทั้งสองเดินกลับที่พักไม่ได้
1
สุวรรณสามตามหาพ่อแม่จนพบ และแบกพ่อแม่กลับศาลาที่พัก เหตุการณ์นี้ทำให้สุวรรณสามร้องไห้และหัวเราะไปพร้อมกัน ที่ร้องไห้เพราะเสียใจที่พ่อแม่ตาบอด ที่หัวเราะเพราะดีใจที่จะได้ปรนนิบัติพ่อแม่ได้อย่างเต็มที่
1
ตั้งแต่นั้นมา สุววรณสามก็ออกหาผลไม้ในป่ามาเลี้ยงดูพ่อแม่ทุกวัน บรรดาสัตว์ทั้งหลายในป่าพากันมาแวดล้อมสุวรรณสามด้วยความวางใจ เพราะสุวรรณสามมีเมตตาจิต ไม่เคยทำอันตรายฝูงสัตว์
กบิลยักขราช พระราชาแห่งเมืองพาราณสี ออกมาล่าสัตว์ พบสุวรรณสามออกมาตักน้ำ มีฝูงสัตว์เดินติดตามมากมาย ก็นึกสงสัยว่าสุวรรณสามเป็นมนุษย์หรือเทวดา ครั้นจะเข้าไปถามก็เกรงว่าสุวรรณสามจะตกใจหนีไป จึงยิงธนูอาบยาถูกสุวรรณสามจนศรทะลุจากซ้ายไปขวาทันที สุวรรณสามล้มลง แต่ยังไม่ถึงตาย เอ่ยขึ้นว่า “เนื้อของเรากินไม่ได้ หนังของเราเอาไปทำอะไรก็ไม่ได้ จะยิงเราทำไม คนที่ยิงเราเป็นใคร ?”
กบิลยักขราชยิ่งแปลกใจ คิดว่าหนุ่มน้อยนี้ถูกเรายิง ยังไม่โกรธเคือง แถมยังพูดจาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน มิได้ด่าว่า จึงออกมาแสดงตัวให้เห็น แล้วกล่าวเท็จว่า ตั้งใจจะยิงเนื้อเป็นอาหาร แต่พอสุวรรณสามมา เนื้อก็เตลิดหนีไปหมด จึงยิงไปด้วยความโกรธ สุวรรณสามแย้งว่า สัตว์ทั้งหลายในป่านี้ไม่เคยกลัวตน ไม่เคยเตลิดหนี ทำให้พระราชาละอายใจ และสารภาพผิด
1
พระราชาได้ถามสุวรรณสามว่าจะตักน้ำไปไหน สุวรรณสามตอบว่า ตักน้ำไปปรนนิบัติพ่อแม่ที่ตาบอด เมื่อตนต้องมาตายลง ต่อไปพ่อแม่จะต้องลำบาก กล่าวแล้วก็ร้องไห้ด้วยความทุกข์ใจ พระราชาสำนึกผิด รับปากว่าจะปรนนิบัติพ่อแม่สุวรรณสามแทนเอง และจะเลิกล่าสัตว์ สุวรรณสามกล่าวฝากพ่อแม่แล้วสลบไป
พระราชาถือหม้อน้ำไปส่งที่ศาลา เมื่อดาบสทั้งสองรู้ว่า สุวรรณสามถูกยิงตายแล้ว ก็เสียใจมาก พระราชาบอกว่าได้รับปากกับสุวรรณสามว่าจะรับใช้ดาบสทั้งสอง ทุกูลดาบสกล่าวว่า “ท่านเป็นถึงพระราชาควรจะไปปกครองบ้านเมือง ขอแค่พาข้าไปหาลูกชายข้าเพื่อจะได้สำผัสเป็นครั้งสุดท้ายก็พอ” ยิ่งทำให้พระราชาแปลกใจยิ่งขึ้นที่ดาบสทั้งสองสยบความโกรธได้รวดเร็ว
ดาบสผู้เป็นแม่พบว่าสุวรรณสามยังตัวอุ่นอยู่ อาจยังไม่ตาย จึงตั้งสัตยาธิษฐานว่า สุวรรณสามประพฤติดี มีความกตัญญูกตเวที เรารักสุวรรณสามยิ่งกว่าชีวิต ด้วยสัจวาจานี้ ขอให้พิษธนูจงคลาย ขอให้สุวรรณสามฟื้นเถิด พอสัตยาธิษฐานจบ สุวรรณสามก็พลิกตัวไปข้างหนึ่ง ฝ่ายนางเทพธิดาวสุนธรี ผู้ดูแลรักษาป่าก็ตั้งสัตยาธิษฐานช่วยอีกแรงหนึ่ง
ด้วยความกตัญญูอันเป็นประจักษ์ ทันใดนั้น สุวรรณสามก็พลิกกายฟื้นตื่นขึ้น หายจากพิษธนูโดยสิ้นเชิง ยิ่งกว่านั้นดวงตาของพ่อและแม่ของสุวรรณสามก็กลับแลเห็นเหมือนเดิม พระราชา พิศวงยิ่งนัก ถามว่าสุวรรณสามฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร สุวรรณสามตอบพระราชาว่า
“บุคคลใดเลี้ยงดูปรนนิบัติมารดาด้วยความรักใคร่เอาใจใส่ เทวดาและมนุษย์ย่อมคุ้มครอง นักปราชญ์ย่อมสรรเสริญ เมื่อตายไปแล้วก็จะได้ไปเกิดในสวรรค์”
1
จากชาดกนี้ "พระราชากบิลยักขราช" ในกาลนั้นกลับชาติมาเกิดเป็น พระอานนท์
"พสุนธรีเทพธิดา" เกิดเป็นภิกษุณีชื่อ อุบลวรรณาเถรี
"ท้าวสักกเทวราช" เกิดเป็น พระอนุรุทธะ
"ทุกูลบัณฑิต" ผู้บิดา เกิดเป็น พระมหากัสสปะ
"นางปาริกาดาบสินี" ผู้มารดา เกิดเป็นภิกษุณีชื่อ ภัททกาปิลานี
“สุวรรณสามดาบถ” ทรงอุบัติเป็น พระโคตมพุทธเจ้า
บำเพ็ญเมตตาบารมี = ทำใจให้เต็มไปด้วยความเมตตา
ชาติที่ 1 เตมีย์ชาดก
ชาติที่ 2 มหาชนกชาดก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา