Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
A WAY OF LIFE : ทางผ่าน
•
ติดตาม
28 ก.พ. 2022 เวลา 07:41 • ไลฟ์สไตล์
“สละโลก”
“ … การที่จะสลัดคืนสู่ความบริสุทธิ์ของธรรมชาตินั้น มันต้องละทุกอย่าง
แม้กระทั่งสัญญา ความจำได้หมายรู้
ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งปวง
ซึ่งมันเป็นเรื่องของปัจจัยที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมา
ละสังขารธรรมทั้งหลายทั้งปวง
มันเป็นผล มันไม่ได้เกิดจากการที่เราจำไว้
ถ้าเราเข้าถึงแล้วเราจำไว้
ต่อไปจิตมันจะสร้างเป็นมิติส่วนตัว
เป็นสังขารปรุงแต่งขึ้นมา
แล้วเราจะติด
อยู่กับโลกของมิติส่วนตัวนั่นเอง
การปฏิบัติจะเข้าถึงธรรมแท้
มันเป็นไปที่ต้องละออกทุกอย่าง
เพราะฉะนั้นก็ให้วางความจำได้หมายรู้ออกไป
อยู่กับปัจจุบันธรรม เดินตามมรรคไปเรื่อย ๆ สบาย ๆ
เมื่อกำลังพอ แทงตลอดอริยสัจ ๔
ก็จะคืนสู่ความเป็นธรรมชาติได้เอง เป็นผลนั่นเองนะ
ไม่สามารถเข้าออกได้เหมือนสมาธิ
เป็นผลที่เกิดขึ้นจาก เมื่อใดที่ใจเรา มันหมดแล้ว
เยื่อใยทั้งหลายทั้งปวงในโลก
ท่านเรียกว่าสิ้นอาลัยในตัณหานั่นเอง
ความรัก ความชัง ความทะยานอยาก
ความมีความเป็นทั้งหลายทั้งปวง
เมื่อใดที่มันหมดไปออกจากใจของเรา
เยื่อใยทั้งหลายทั้งปวง
ใจมันจะหลุดพ้นจากการยึดมั่นถือมั่น
แม้กระทั่งกายเราที่อยู่ในวัฏฏะ แต่ใจมันพ้นออก
คืนสู่ความเป็นธรรมชาติเลย
เพราะว่าตัวที่ผูกไว้ ก็คือ สิ่งที่เรียกว่าตัณหานั่นเอง
ความทะยานอยากทั้งหลายทั้งปวง
กามตัณหา
ความทะยานอยากในกามคุณอารมณ์
รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ที่น่าใคร่น่าปรารถนาต่าง ๆ
ภวตัณหา
ความทะยานอยากในความมี ความเป็นต่าง ๆ
วิภวตัณหา
ความทะยานอยากในความไม่อยากมี ไม่อยากเป็น
อันไหนไม่ชอบ มันก็จะพยายามผลักออก
นี่เป็นเรื่องละเอียดแล้ว กิเลสละเอียด
เพราะฉะนั้นก็ให้รู้เท่าทัน ปฏิบัติก็เพื่อละตัณหา
เพื่อการสำรอกตัณหา อุปาทาน
เพื่อความสิ้นเยื่อใยในตัณหา
หมดความอาลัยในโลก
เครื่องชี้วัดเลย คือ ใจเราจะไม่ค่อยติดข้อง กับสิ่งใด ๆ ในโลก
มันก็แค่ รู้ สักแต่ว่า รู้
เห็น สักแต่ว่า เห็น
ได้ยิน สักแต่ว่า ได้ยิน
ทราบ สักแต่ว่า ทราบ
ดั่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า
เมื่อใด เธอเห็น ก็สักแต่ว่า เห็น
ได้ยิน ก็สักแต่ว่า ได้ยิน
ทราบ ก็สักแต่ว่า ทราบ
รู้ ก็สักแต่ว่า รู้
เมื่อนั้น ตัวเธอก็ไม่มี
เมื่อตัวเธอไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกไหน ๆ
นั่นแหละ ที่สุดแห่งทุกข์นั่นเอง
เมื่อใดที่มันจางคลายแล้ว
จากเยื่อใยทั้งหลายทั้งปวงในโลก
ไม่ติดข้องต่อสิ่งใด
จิตก็หลุดพ้น จากการยึดมั่นถือมั่น
คืนสู่ความเป็นธรรมชาติ
แล้วก็ดำรงอยู่ได้ ที่เรียกว่า สุญญตวิหาร
ว่างจากตัวตน จากการยึดมั่นถือมั่น
เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่สภาวะ ที่เราจะไปจำได้
ไม่อย่างนั้นมันจะเกิดความติดใจ
แล้วจิตก็จะสร้างเป็นมิติส่วนตัวขึ้นมา
ต้องละ สิ่งเหล่านี้ ทุกสิ่งทุกอย่าง
คืนสู่ความเป็นธรรมชาตินั่นเองนะ
เพราะฉะนั้นก็ฝึกตามที่ลงสอนไปเรื่อย ๆ สบาย ๆ
ส่วนในระหว่างวัน ก็อยู่กับวิหารธรรมที่เข้าถึง
อยู่กับปัจจุบันธรรมไปได้เนือง ๆ
เมื่อฝึกไปถึงจุดหนึ่ง
เยื่อใยทั้งหลายทั้งปวงในโลก
มันคลายออกหมดแล้ว
มันไม่ติดข้องกับสิ่งใด ๆ ในโลก
จิตจะหลุดพ้น‘เอง’ โดยธรรมชาติเลย
จะอยู่กับ สุญญตวิหาร ได้เองโดยธรรมชาติ
ภายนอกก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
แต่ภายใน มีแต่ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ
ไม่ติดข้องต่อสิ่งใดนั่นเอง
เพราะฉะนั้นการที่จะเข้าถึง สุญญตวิหาร ในชีวิตประจำวันได้ แสดงว่าต้องผ่านการฝึกฝน เดินตามมรรคมาอย่างเพียงพอ จะเป็นคนที่ไม่ค่อยสัมผัสโลกแล้ว ถ้าเรายังข้องอยู่กับโลกต่าง ๆ มันยากที่จะไปถึงตรงนี้
อาจจะเกิดขึ้นได้ในยกการฝึก เพราะว่าเป็นช่วงที่เราได้ปฏิบัติเต็มที่นั่นเอง แต่ในระหว่างวัน ส่วนใหญ่แล้ว เราก็ยังติดข้องอยู่กับสิ่งในโลกนั่นเอง
แต่ถ้าเราปฏิบัติ จนกลายเป็นวิถีของเราไปแล้ว
จนปลดเปลื้อง สิ่งที่เป็น สิ่งที่ติดข้องทั้งหลายทั้งปวง
ไม่เกาะเกี่ยวกับสิ่งใดแล้ว
ใจถึงจะหลุดพ้นโดยธรรมชาติ
สามารถดำรงอยู่ได้ใน สุญญตวิหาร แม้ในชีวิตประจำวัน
เหมือนผ้าขาว
ผ้าขาวเมื่อตกลงไปในบ่อน้ำคลำ
มันก็ถูกย้อมเป็นธรรมดา
ตราบใดที่เรายังสัมผัสกับเรื่องราวในโลก
จะถูกย้อม มันจะถูกเปื้อนที่ใจเป็นธรรมดา
การที่เรายกผ้าขาวมาซักฟอกจนขาวรอบแล้ว จะให้อยู่กับความขาวรอบปกติ ก็คือ เราต้องไม่กลับไปสัมผัสโลกอีก
อันนั้นถ้าเราพูดถึงระดับอรหันต์ ก็จะเป็นเรื่องหนักสำหรับฆราวาส แต่ให้รู้ว่าวิถีเนี่ย มันจะปลดไปเรื่อย ๆ จนไม่ติดข้องกับสิ่งใด ๆ ในโลก มันก็ต้องสละโลกนั่นแหละ
เพราะฉะนั้นวิถีของสมณะ จึงเป็นวิถีของการสละโลก
สำหรับคฤหัสถ์ฆราวาสแล้ว
ก็ค่อย ๆ ดำเนินไป ตามมรรควิธี
จนเข้าถึงตกกระแสธรรม
พระอริยบุคคลขั้นที่ ๑ ขั้นที่ ๒
ก็จะลดการสัมผัสโลกลงเรื่อย ๆ
จนเข้าถึงระดับที่ ๓
อนาคามี นี่คือก็แทบจะไม่สัมผัสโลกแล้วล่ะ
เพราะว่าไม่มีเรื่องกาม เรื่องปฏิฆะแล้ว
ก็เรียกว่าแทบไม่สัมผัส
พระอรหันต์ คือ ท่านพ้นแล้ว ท่านไม่สัมผัสโลกอีก
ไม่กลับมาแตะเรื่องของวัฏฏะอีกต่อไป
ผ่องแผ้วโดยสมบูรณ์ … “
.
1
ธรรมบรรยาย
โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
youtube.com
สภาวะการสลัดคืน | ธรรมให้รู้•2565 : ตอนที่ 57
เยี่ยมชม
Photo by : Unsplash
3 บันทึก
9
6
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เกล็ดธรรมคำครู
3
9
6
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย