8 มี.ค. 2022 เวลา 08:51 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
The Batman (2022)- เวอร์ชั่นเด็กเกเร
กำกับโดย Matt Reeves
รับชมได้ในโรงภาพยนต์
คะแนน 8/10
ขอรีวิวแบบกึ่งสปอยล์ก็แล้วกันนะคะ เพราะนี่ก็สร้างมาหลาย version เหมือนกับละครช่องเจ็ดโกโบริ-อังศุมาลิน คิดว่าคนทั่วไปน่าจะรู้กันหมดแล้วว่า เรื่องราวของมนุษย์ค้างคาวนี่เค้าเป็นมาอย่างไร
นี่คือ 10 Short Notes หลังดูจบ
1. Batman เวอร์ชั่นนี้หลายคนบอกว่าให้ความรู้สึกเหมือนบรรยากาศของหนังเรื่อง Seven ซึ่งฉันก็เห็นจริงตามนั้น ภาพตลอดทั้งเรื่อง 100% คือหม่นหมองมืดมัว แต่ก็มันก็ให้ความรู้สึกถึงความลึกลับน่าค้นหาแฝงความตื่นเต้นน้อย ๆ ไปด้วยในตัว
2. จากเวอร์ชั่นก่อน ๆ ที่เราจะรู้สึกว่าบรู๊ซ เวย์น และ ​Batman จะมีบุคลิคที่แตกต่างกันบ้าง บางเวอร์ชั่นก็เห็นถึงความเป็น Playboy ที่มีความชาร์มมิ่ง ขี้เล่นและหว่านเสน่ห์
แต่เวอร์ชั่นนี้ Robert Pattinson คีพคาแร็คเตอร์เดียว ไม่ว่าจะถอดหน้ากาก หรือใส่หน้ากาก ก็คือคนเดิมที่มีแต่ความดาร์ค เจ็บปวด แข็งทื่อ ดุจผีดิบ
ซึ่งส่วนตัวฉันกลับชอบแฮะ มันเหมือนกับว่า กูใส่หน้ากากใส่ชุดดำอำพรางก็แค่ไม่อยากให้ใครรู้ว่ากูคือใคร แต่กูก็ยังเป็นกูนี่แระจ้าา ปั้นหน้าไม่เป็นเด้อ
1
3. Batman - หนัง Super Hero ที่ไม่มีความเป็น Super Hero ในหนังเท่าไหร่ เพราะไม่ได้มีศักยภาพที่เก่งเกินมนุษย์จนจับต้องไม่ได้ คิวบู๊การต่อสู้เหมือนดูจอห์นวิค ไม่ใช่กัปตันอเมริกาหรือสไปเดอร์แมน แถมตกอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมบ่อยมาก รอดมาได้แต่ละครั้งก็เพราะชุดและอุปกรณ์ช่วยเหลือหรือมีคนมาช่วยไว้ทั้งนั้น
ฉันไม่แน่ใจว่าผู้กำกับเลือกช่วงอายุของ Batman ที่ยังไม่มากเหมือนเวอร์ชั่นก่อน ๆ รึเปล่า จึงเลือกที่จะให้ Batman ยังไม่ประสีประสา และดูคล้ายเหมือนเด็กเกเรหัวหน้าแก๊งค์ 4 Kings 😅
1
4. ซึ่งมันยิ่งทำให้รู้สึกถึงความ “จริง” ที่เราสามารถอินไปกับมันได้ ถ้าถอดชุด Batman ออกก็คือ เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังตามหาความจริง ด้วยการไขคดีถอดรหัสจากปริศนาที่ได้มาทีละชิ้น ๆ และก็อารมณ์ขึ้นในบางทีพร้อมต่อยตีกับทุกสถาบัน 😏
2
5. เส้นเรื่องหลักของตลอด 3 ชั่วโมงคือเน้นไปที่การสืบสวนสอบสวนมากกว่าการต่อสู้บู๊ล้างผลาญ ซึ่งถ้าไม่มี Batman อยู่ในเนื้อเรื่องนี้ด้วย หนังก็อาจจะไม่สนุกไปเลย
เพราะปริศนามันไม่ค่อยลุ้นตื่นเต้นเท่าที่ควร แต่เนื่องจากมันมีเส้นเรื่องของ Batman ประกอบมันก็ทำให้ทุกอย่างพอจะสนุกขึ้นมาซะอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วก็สืบกันเองรู้เรื่องกันเอง คนดูจะไม่ค่อยมีส่วนร่วมรับรู้อะไรมากนัก ที่สนุกก็เหมือนคอยตามดูว่า Batman ของเราจะสืบอะไรไปได้ถึงไหนนั่นแหละ
6. ตัวหนังไม่มีความพีค ขนาดตอนเฉลยปริศนาของ Riddler - ผู้ร้ายในเรื่องแล้ว ก็ยังไม่พีค ถ้าเปรียบเป็นเส้นกราฟ ก็คือเส้นระนาบราบเรียบ ไม่ค่อยมีขึ้นมีลงไม่มีจุดลุ้นตื่นเต้น แต่เนื่องจากได้ภาพที่โคตรสวย แสงที่โคตรดี ดนตรีที่โคตรเหมาะเจาะกลมกล่อม เอ้า กลายเป็นน่าสนใจ น่าติดตามขึ้นมาได้ซะอย่างนั้น
7. ผู้ร้ายในเรื่องคือ Riddler ที่ชอบเล่นเกมส์ทายปริศนา หลังจากฆ่าคนก็จะทิ้งปริศนาให้หาคำตอบ ซึ่งสัญลักษณ์ประจำตัว Riddler ก็คือเครื่องหมายคำถาม “?”
ตอนที่เห็น อัลเฟรด พ่อบ้านของตระกูลเวย์น ซึ่งเคยแสดงเป็น กอลั่ม ใน The lord of the ring และ The Hobbit ก็อดนึกถึงฉากที่ กอลั่มทายปริศนากับบิลโบไม่ได้ ซึ่งฉันรู้สึกว่าปริศนาของ Riddler นั้นใบ้คำให้ Batman มากเกินไป ไม่เหมือนตอนกอลั่ม ที่ไม่เคยออมมือให้บิลโบเลย 😏
8. ฉันไม่รู้สึกว่า Riddler เป็นตัวร้ายของเรื่องนี้ แต่กลับคิดว่า Riddler และ Batman ก็อยู่ฝั่งเดียวกัน ทั้งคู่ทนกับความโสมม ฉ้อฉล การคอรัปชั่นไม่ได้ และต่างก็อยากจะเปลี่ยนแปลงมัน เพียงแต่เลือกเส้นทางคนละทางเท่านั้นเอง ส่วนผู้ร้ายตัวจริงก็คือเหล่าคนที่เป็นเหยื่อของ Riddler นั่นแหละ ซึ่งมันทำให้ฉันมอบเครดิตให้กับ Riddler ไปแบบช่วยไม่ได้
9. มาว่ากันที่นางเอกของเรื่อง ฉันเคยชอบ Catwomen ในเวอร์ชั่นของ Nolan ที่แสดงโดย Anne Hathaway ที่มีความหน้าขาวปากแดง ตัดกับหน้ากากสีดำ ให้ความรู้สึกเซ็กซี่ขี้เล่น
แต่ในเวอร์ชั่นนี้เป็นสาวผิวเข้มนำแสดงโดย Zoe Kravitz ซึ่งยังคงความเซ็กซี่ไว้แต่ตัดความขี้เล่นออกเกือบหมด แต่เน้นไปที่ความหม่นของปูมหลังเธอแทน ส่วนตัวยังรู้สึกว่าชุดของ Catwoman ก็สมจริงแบบพวกตีนแมว หน้ากากคาดหน้านี่เหมือนหัวขโมยชาวญี่ปุ่นมาก 😁
บอกตามตรงว่าฉันชอบแม่สาวแมวเหมียวเวอร์ชั่นนี้มากกว่าเยอะ อาจจะเพราะโทนของหนังมันเน้นไปที่ความ real ของเนื้อหามากกว่าความ Super hero ดังนั้น Catwomen ก็ถูกสร้างให้ “จริง” ไปด้วย แทบจะไม่เหลือความเป็น Comic เหมือนในเวอร์ชั่นก่อน ๆ
ซึ่ง Zoe โปรยเสน่ห์ให้เราคนดูตั้งแต่ฉากแรกที่ออกมาจนฉากสุดท้ายที่ลับตาไป ทุกครั้งที่โผล่มาคือลืม Batman ไปได้เลย
Ann Hathaway เวอร์ชั่นก่อน เซ็กซี่แบบหวาน ๆ ให้อารมณ์ comic
Catwomen ใน The Batman 2022 เน้นชุดไปทางหัวขโมย หรือพวก ตีนแมว มากกว่าจะเป็นนางแมวยั่วสวาท
10. สิ่งที่ฉันชอบที่สุดในเรื่องนี้ก็คือ การ Focus ไปที่รองเท้าของ Batman ตอนเดิน การคัดเสียงย่ำเท้าให้เด่นขึ้น มันให้อารมณ์ของเด็กเกเรพร้อมลุย มากกว่า Super Hero หรือการมาถึงของพระเอก
รวมไปถึงเพลงประกอบในตอนต่อสู้กัน ที่ไม่ใช่ตื่นเต้นโฉ่งฉ่าง แต่เป็นเสียงนัว ๆ กลม ๆ ที่มันเข้ากันได้ดีกับโทนของหนังโดยรวม
สรุปอีกที
โดยรวมคือ ผู้กำกับทำได้ยังไงก็ไม่รู้ที่ทำให้หนังที่ถ้าดูกันตามเส้นเรื่องแล้วไม่น่าสนุกเลย กลับสนุกขึ้นมาได้ซะอย่างนั้น ตัวเอกยังไม่เก่ง ตัวร้ายยังไม่พีค นางเอกก็ไม่ได้แซ่บอะไรกับพระเอก
แต่ส่วนประกอบล้อมรอบซึ่งเอามายำรวมกันแล้วหนังสามชั่วโมงไม่น่าเบื่อเฉยเลย ถ้าคุณเคยเป็นแฟน Batman ก็ไปดูเถอะ มันไม่เหมือนกับเวอร์ชั่นก่อน ๆ ที่ผ่านมาหรอก เพราะมันดูจริงและจับต้องได้มากกว่าเดิม
ป.ล. ฉันเพิ่งรู้ว่า Colin Farrell แสดงเป็นเพนกวิ้น!! ยอมใจทีม Special effects มาก แต่งจนไม่เหลือเค้า คาดว่าภาคต่อไปน่าจะได้มี airtime มากกว่านี้
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา