17 มี.ค. 2022 เวลา 05:12 • นิยาย เรื่องสั้น
นิยาย : บันทึกรัก ตอนที่ 8,9
เฟอร์กี้หยุดการอัพเดทบล็อกไปหลายวัน จนเริ่มมีข้อความจากเพื่อน ๆ นักอ่านทักมาตาม เพราะช่วงที่ผ่านมาเธอก็งานยุ่งจนไม่มีเวลามาอ่านบันทึกของคุณยายเลย วันนี้เธอตั้งใจว่าจะอ่านบันทึกให้จบ
"ฉัน เฟอร์นันด้า ฉันกลับมาแล้วนะทุกคน ไม่รู้ว่ายังมีใครรอติดตามอ่านเรื่องราวบันทึกรักของคุณยายอยู่บ้างหรือเปล่า
ก่อนอื่นฉันต้องขอบอกว่า ขอโทษที่ปล่อยให้แฟน ๆ รอนาน บางคนอาจถอดใจไปแล้ว บางคนอาจงอนกันจนเลิกติดตาม ฉันขอโทษ 😭
และขอบคุณในน้ำใจไมตรี ในความเมตตาของผู้ที่ยังอยู่ ยังรอ และติดตามฉันไม่หายไปไหน
เอาละ วันนี้เรามาอ่านบันทึกรักของคุณยายกันต่อเลยดีกว่าค่ะ อาจจะเศร้านิดหนึ่งนะคะ"
เธอรัวนิ้วพิมพ์ข้อความทักทายและแนะนำนิยายลงไปในหน้าบล็อกของเธออย่างมีความสุข
เธอชอบความรู้สึกที่ได้บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่อยู่ในหัวออกมาให้ผู้คนได้รับรู้
ถึงเฟอร์จะหายไปนานกับการเขียนเล่าเรื่องราวจากการอ่านบันทึกรักของคุณยาย ส่วนหนึ่งเพราะช่วงนี้เธอทำงานหนัก รับงานพิเศษมาทำเพิ่มอีก
ที่จริงนั่นไม่ใช่ประเด็นใหญ่ ใจความสำคัญอะไรหรอก ความจริงก็คือ เธอเอาใจลงไปรู้สึกกับเรื่องราวที่ผ่านมาของคุณยาย ทุกครั้งที่เธออ่านบันทึกรัก เธออินกับเรื่องราวจนต้องปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา
ความรู้สึกแบบนี้บางคนอาจมองว่าดี ที่เธอเข้าถึงความรู้สึกรักจากข้างในหัวใจ
แต่ในความเป็นจริง สภาพอารมณ์ที่แปรปรวน ไปตามความรู้สึกของคุณยายในตอนนั้น กำลังส่งผลทำร้ายต่อสุขภาพของเฟอร์ และเธอเองก็รู้เรื่องนี้ดี ทั้งยังมีคุณแม่ของเธอที่คอยโทรมาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
"เฟอร์กี้ หนูดูแลสุขภาพด้วยนะลูก แม่กับป๊าเป็นห่วงลูกนะ"
"ค่ะแม่"
"แล้วเมื่อกี้โทรหาแม่ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าจ้ะ"
"อ๋อ ไม่มีอะไรคะแม่ หนูแค่คิดถึงแม่กับป๊าค่ะ"
"Ok 👌 ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว แม่รักลูกจ้ะ"
"ค่ะแม่ หนูรักแม่กับป๊าที่สุดในโลกเลยค่ะ"
"จ้ะ ลูกรัก"
แม่ของฉันรู้ใจฉันที่สุดในโลกเลยละ เราเป็นทั้งเพื่อน พี่ น้อง และแม่ลูก แม่คือทุกอย่างของฉัน
ตอนที่ฉันขออนุญาตแม่ว่า จะมาเมืองไทยเพื่อทำงานนั้น ตอนแรกแม่ไม่เห็นด้วยหรอกนะคะ ฉันต้องไปอ้อนคุณป๊าให้มาช่วยพูด ช่วยกล่อม คุณแม่ถึงได้ยอมให้ฉันมา ก็แน่ละ คุณแม่ไม่ชอบอยู่เมืองไทย ไม่ชอบอากาศร้อน ก็เลยคิดเหมาเอาว่า ฉันก็ต้องไม่ชอบเหมือนกัน
ก็เรามีหัวใจดวงเดียวกันนี่นา
 
ฉันรักคุณแม่ แต่ฉันก็มีความฝันที่จะสร้างมันขึ้นมาให้เป็นความจริงตามแนวทางของฉันเหมือนกัน ฉันมาที่เมืองไทย เพื่อตามรอยความรักของคุณยาย
📝📝📝📝
ฉันตัดสินใจบอกคุณไปว่า "ฉันจะแต่งงานแล้วนะ" ใจหนึ่งก็หวังคำอวยพรจากคุณ แต่อีกใจก็บอกไปเพื่อจะได้ตัดใจจากคุณให้ได้สักที
คุณหายไปหลายวัน ไม่ตอบกลับอีเมลของฉัน
และเมื่อคุณตอบกลับมา "ผมรักคุณ ผมขอโทษที่ไม่เคยบอก เพราะอยากเก็บไว้บอกในวันที่เราเจอกัน แต่ในเมื่อคุณจะแต่งงานแล้ว ผมขอบอกให้คุณได้รับรู้ไว้ ว่าผมรักคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้พบกัน ในวันนี้มันอาจช้าไป แต่ขอให้ผมได้พูดความในใจออกไปเถอะนะครับ ว่า "ผมรักคุณ" และตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมก็หวังว่าคุณก็รู้สึกเหมือนกัน คุณจะแต่งงานวันไหน บอกผมด้วยนะครับ ผมอยากไปแสดงความยินดีในวันที่คุณมีความสุข"
พระเจ้า ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะตอบกลับมาแบบนั้น ถ้าเพียงแค่ฉันรู้จากปากของเขาว่าใจเราตรงกัน ฉันไม่ได้คิดไปเองฝ่ายเดียว ฉันคงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานขนาดนี้
นี่เขามาบอกในวันที่ฉันต้องไปแต่งงานกับคนอื่น คนที่ฉันไม่ได้รัก คนที่เตี่ยหามาให้ ฉันจะทำอย่างไรดี พระเจ้าท่านได้โปรดบอกทางให้ข้าด้วยเถอะ
"ฉันจะทำอย่างไรดีคะคุณทอม"
ฉันตัดสินใจตอบคุณกลับไปด้วยคำถาม
"คนที่ฉันจะต้องแต่งงานด้วย เป็นคนที่เตี่ยหามาให้ ฉันขอร้องเตี่ยแล้ว แต่เตี่ยไม่ฟังฉันเลย ตอนนี้ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว"
"คุณไม่ได้รักเขาเหรอเหมย"
โธ่ ฉันจะรักใครได้อีก ในเมื่อทั้งหมดของหัวใจฉันยกให้เขาไปหมดแล้ว
"เราไม่เคยรักกันเลยคะ เตี่ยเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด"
"ผมอยากไปอยู่ตรงนั้นและปลอบใจคุณ"
"ฉันก็อยากให้มีคุณอยู่ที่นี่ ตรงนี้ เวลานี้เหมือนกันค่ะ"
นั่นคงเป็นคำว่า "รัก" จากฉันที่พูดได้ในตอนนี้ ฉันจะบอกรักเขาได้อย่างไร ในเมื่อฉันเพิ่งบอกเขาไปว่า ฉันจะแต่งงาน ถึงในใจฉันจะรักเขาตั้งแต่แรกพบก็เถอะ
ฉันได้แต่หยิบสร้อยหินอเมทิสต์ที่เขาฝากไว้ให้ฉันมาดูแล และพูดคุยกับสร้อยหินเส้นนั้นแทน ฉันฝากความรู้สึกรักทั้งหมดไว้กับสร้อยเส้นนี้ก็แล้วกัน
😭😭😭
"เอาอีกแล้ว เฟอร์นันด้า เธอจะอ่านไปร้องไห้ไปแบบนี้ทุกวันไม่ได้นะ ตาบวมหมดสวยกันพอดี"
 
เฟอร์รีบถอยตัวเองออกมาจากการอ่านบันทึกรักของคุณยาย ก่อนที่เธอจะจมดิ่งไปมากกว่านี้ เธอหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาซับที่หน่วยตา แล้วโบกมือพัดเอาสายลมเข้าหาตัวเอง พร้อมท่องประโยคเดิมซ้ำ ๆ
"ความสุขจงเข้า ความเศร้าหายไป
ความสุขจงเข้า ความเศร้าหายไป
ความสุขจงเข้า ความเศร้าหายไป
เธอยิ้มให้กับตัวเองอีกครั้ง และกำหมัดชูมือขวาขึ้นฟ้า มือซ้ายเท้าสะเอว
"ไหวค่ะ แม้จะต้องแลกด้วยน้ำตา เฟอร์กี้ ก็ไหว"
💃💃💃
เธอลุกจากโต๊ะทำงาน เพื่อพักดื่มน้ำ และแวะหาของกินในครัว ก่อนที่จะกลับไปอ่านบันทึกอีกครั้ง
"ดึกแล้วก็จริง แต่ก็ต้องกิน เพื่อไม่ให้ดิ่งไปมากกว่านี้ คุณแม่เคยบอกว่า "ถ้าจะร้องไห้แล้วไม่อยากร้อง ให้ไปหาอะไรอร่อย ๆ มากินแทน เพื่อเบี่ยงเบนสมอง ไม่ให้จดจ่ออยู่กับความเศร้า อืม ก็คงต้องเป็นช็อกโกแลตแท่งนี้สินะ"
1
เธอคุยกับตู้เย็น พลางหยิบดาร์คช็อกโกแลตมาถือไว้ในมือ และยิ้มให้มันอย่างน่าเอ็นดู
"เราคงไม่กินไป ร้องไห้ไปด้วยหรอกนะ"
1
บทที่ 9 ปล่อยให้มันเป็นไป
"ฉันจะต้องอ่านเรื่องราวความรักของคุณยายให้จบให้ได้ นี่คือภารกิจของฉัน"
เมื่อเฟอร์นันด้า สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด เพื่อเพิ่มพลังใจให้กับตัวเอง และตั้งสติมาอยู่กับสมุดบันทึกรักปกสีดำเล่มหนาที่วางอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง
"คุณตาทอมส่งกำลังใจให้เฟอร์ด้วยนะคะ"
เธอสอดสองมือเข้าประสานกัน แล้วหลับตาตั้งจิตอธิษฐานถึงคุณตา ที่ล่วงลับไปแล้ว
"ขอให้คุณตารับรู้ ขอให้พลังแห่งรักแท้นำทาง ขอให้คุณตามีความสุข คุณยายฝากมาบอกว่า คิดถึงคุณตาที่สุด รักกว่าลมหายใจ และหนูจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดค่ะ"
เมื่อจบคำอธิษฐาน เฟอร์นันด้าเงยหน้าขึ้นมายิ้มพร้อมกับคราบน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม เธอรับรู้ได้ด้วยหัวใจ ด้วยจิตวิญญาณ
ความรัก ความรู้สึกรัก พลังงานความรัก โอบกอดเธอด้วยทั้งหมดจากจักรวาล มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความโศกเศร้า หรือเสียใจ หากเป็นน้ำตาแห่งความรู้สึกยินดี
1
ยินดีที่จะได้ส่งต่อเรื่องราวความรักแท้ ที่ฟ้ามิอาจกั้น แม้แต่สวรรค์ยังต้องเปิดทาง พระเจ้ายังต้องยอมล้มล้างคำสัญญา เมื่อคนสองคนไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา
1
อุปสรรคใด ๆ ที่มาขวางกั้น มันก็แค่บันไดอีกขั้นของพวกเขา
1
📝📝📝
"พระเจ้าคะ
วันนี้ข้ามองท้องฟ้า แล้วเห็นก้อนเมฆลอยอ้อยอิ่งบนนั้น ข้ารู้ว่า นี่เป็นของขวัญที่ท่านส่งมาให้ข้า
ในใจของข้านั้น รู้สึกได้ ข้ารู้สึกถึงท่าน
รู้ว่าท่านมองข้าอยู่
อย่าให้เขาหายไปอีกนะคะ"
1
เมื่อฉันรู้แน่แก่ใจแล้วว่าเรามีใจตรงกัน ฉันจะหาหนทาง ฉันจะสู้ ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อเขา เพื่อความรักของเรา เพื่อหัวใจดวงนี้จะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมาน ขอแค่เขารักฉัน คุณรอฉันนะ
ตั้งแต่วันที่เราบอกรักกัน คุณทอมกับฉันก็คุยกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น เราปรึกษาหารือกันทุกเรื่อง ให้กำลังใจกัน แม้ในวันที่เขามีปัญหาเรื่องธุรกิจ บางเรื่องที่ฉันก็ไม่เข้าใจ แต่เราก็บอกกล่าวกัน และฉันขอให้เขารอ
"ฉันจะลองคุยกับเตี่ยอีกครั้ง ให้เลื่อนงานแต่งงานออกไปก่อน คุณคิดว่ายังไงคะ"
"ผมรู้ผมไม่มีสิทธิ์ออกความคิดเห็นในเรื่องนี้ แต่ผมก็หวังให้ป๊าเข้าใจ และให้เวลาให้คุณได้มีโอกาสเลือก และตัดสินใจด้วยตัวเอง ผมอาจดูเหมือนคนเห็นแก่ตัว ถ้าจะบอกว่า ผมรอได้"
นั่นเป็นข้อความที่ดี มีพลังที่สุดสำหรับฉัน
เขาบอกว่าจะรอ !
"ม๊า ม๊าช่วยพูดกับเฮียเล้งให้เหมยหน่อยได้ไหม ขอให้เฮียเล้งอย่าเพิ่งรีบแต่งเลย ให้หมั้นกันไว้ก่อน นะม๊านะ"
เหมยนั่งคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ ม๊า สองมือจับที่มือของม๊า ที่วางอยู่บนตัก พลางบีบนวดให้อย่างเอาใจ
"อาเหมย นี่ก็สองปีแล้วนะ ที่ลื้อ ยื้อ ๆ หยุด ๆ ไม่ยอมแต่งงานกับอาเล้งสักที ลื้อรู้อ่าป่าว ว่าทางนั้นเขาชอบลื้อมากแค่ไหน"
ม๊าพูดจบก็ถอนหายใจ หันหน้ามองไปทางอื่น เหนื่อยล้าหัวใจกับความดื้อดึงของอาเหมย
"แต่ธุรกิจของเรากำลังไปได้ดีนะม๊า ตอนนี้เหมยขยายสาขาไปที่กรุงเทพ ตั้งหลายสาขา บนห้างใหญ่ ๆ ก็มีสินค้าของเราลงครบแล้ว เหมยขอทำงานตอบแทนม๊า ตอบแทนเตี่ยไปแบบนี้อีกหน่อยนะม๊านะ"
"บอกม๊ามาอาเหมย อาเล้งไม่ดีตรงไหน ทำไมลื้อถึงไม่อยากแต่งงาน"
นี่เป็นคำถามที่ม๊ากับเตี่ยมักจะถามฉันตลอด เวลาที่จนมุม ที่ไม่อาจจะโต้เถียงกับฉันเรื่องงานแต่ง
และฉันก็มักจะอ้างเอาเรื่องงาน เรื่องธุรกิจของครอบครัวมาเป็นกันชน ซึ่งมันได้ผลสะด้วยสิ
"ม๊ารักลื้อ อยากให้ลื้อได้แต่งงานกับผู้ชายดี ๆ มีวาสนา อาเล้งก็เป็นคนเก่ง คนดี มีความสามารถ ฐานะความมั่นคงก็เพียบพร้อม ยังจะรออะไร หรือรอใครอีกหึอาเหมย"
"ม๊า เหมยยังไม่พร้อมจะแต่งงานจริง ๆ ม๊าเข้าใจเหมยนะ"
"ดื้อจริง ๆ"
ฉันได้แต่ก้มหน้าก้มตา ยอมรับในความดื้อดึงของตัวเอง และปลอบใจม๊า ไม่ให้โมโหฉันมากไปกว่านี้
"เหมยอยากให้สินค้าของเราได้ส่งออก ไปขายที่ต่างประเทศ เหมยขอทำงานอีกไม่กี่ปีนะคะม๊า"
ม๊าได้แต่สายหัวไปมา
"จะเป็นลม ดื้อเหมือนเตี่ยไม่มีผิด"
"ม๊า" เหมยพูดพลางสะอื้นซบหน้าลงกับตักของม๊า
"ไม่ต้องร้อง ไม่ต้องร้อง ม๊าจะลองพูดกับเตี่ยอีกครั้งก็ได้ เห้อ ม๊าก็แพ้ให้กับน้ำตาของลื้อทุกทีสินา"
"เหมยรักม๊านะคะ"
"ไปอาบน้ำ กินข้าว เข้านอนได้แล้วไป พรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้าไม่ใช่เหรอ"
📝📝📝
เมื่อม๊าบอกว่าจะช่วย หัวใจของฉันก็พองโต ความหวังเริ่มฉายชัดเข้ามา แม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าเตี่ยจะว่ายังไงก็ตาม
"พระเจ้าคะ ท่านอยู่กับข้าใช่ไหม ข้ารู้สึกอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน
รู้สึกถึงพลังงานที่อยู่ในกายข้า มันเข้มข้น เข้มแข็ง มีความสดชื่น พลังงานความสุข ความสำเร็จมันไหลเวียนในตัวข้า
1
ข้ารับรู้ถึงพลังงานที่ยิ่งใหญ่ สิ่งที่ข้าปรารถนา ข้ายินดีและเต็มใจ ท่านรู้สึกเหมือนข้าหรือไม่
ข้ารับรู้ถึงความรัก ความปรารถนาดีที่ท่านมีต่อข้าแล้วนะ
ขอบคุณในความเมตตาที่ท่านมีต่อข้า แม้ในบางครั้ง ข้าอาจทำนิสัยไม่ดี แต่ขอให้ท่านอยู่เคียงข้างข้า อยู่ด้วยกัน ท่านสัญญาแล้วนะ
1
💞💞
คุณยายมักจะเล่าถึงการสื่อสาร พูดคุยกับพระเจ้าอยู่ในบันทึกเป็นประจำ เหมือนเป็นการอธิษฐานที่ฉันเพิ่งได้ทำไป
การสื่อสารกับตัวตนข้างในของคนเรานั้น ฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำให้เป็น
มันไม่ใช่ความบ้า หรือเพ้อเจ้อ แต่นั่นคือ "ขุมพลังที่ยิ่งใหญ่"
1
กำลังใจที่คนเราสามารถส่งให้กับตัวเองได้นั้นวิเศษที่สุด
1
ฉันขออวยพรให้ทุกคนที่ผ่านมาอ่านบันทึกเล่มนี้ ได้ลองพูดคุย สื่อสารกับตัวเองให้ได้ ให้เป็นนะคะ
🙏
เฟอร์นันด้าจบบทความลงด้วยความรู้สึกที่ยังตื้นตันใจ
เธอเก็บสมุดบันทึกเข้าที่อย่างเบามือ ลูบบนหน้าปกเบา ๆ ยิ้มกับสมุดบันทึกรักของคุณยายอีกครั้งและกล่าว "ฝันดีค่ะ"
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านมาถึงตอนนี้
ผู้แต่ง : SMLX
สำนักพิมพ์ : Laksamontra
เครดิตภาพประกอบ : canva.com

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา