18 มี.ค. 2022 เวลา 03:47 • หนังสือ
#27 CWG. 4️⃣ — บทที่ 8 (ตอนที่ 1) : เธอมีอิสระอย่างเต็มที่ ที่จะเลือกเชื่อ หรือ ไม่เชื่อ อะไรก็ได้ทั้งนั้น
ผู้แปล : คุณซิม จากเพจ Books for Life
ผู้เรียบเรียง : แอดมิน (ซึ่งผมอาจแก้ไข เพิ่มคำแปล และ เรียบเรียงประโยคใหม่บางส่วน)
Q: Okay, this is getting veeerrry interesting. And I have to say, I totally “get” that Highly Evolved Beings could be watching over us. There have been enough UFO sightings over these past years to—
นีล: โอเคครับ เรื่องนี้มันโคตรรรรจะน่าสนใจเลย และผมคงต้องบอกว่า ผม "ไม่สงสัยเลยสักนิด" ว่ามีสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงคอยเฝ้าดูพวกเราอยู่ เพราะมีการพบเห็นยูเอฟโออยู่บ่อยครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่ง—
1
A: —these past years? You mean these past centuries—
พระเจ้า: —หลายปีที่ผ่านมางั้นเหรอ❓ เธอคงหมายถึงหลายร้อยปีที่ผ่านมา—
.
Q: —okay, these past centuries—to make it, one would think, incontrovertible that we’re being observed. But helped? Stopped from hurting ourselves? How is that done? Planting ideas in our heads from afar? Okay, I can maybe even accept that, I can hold even that as a possibility . . . but actually visiting us?
นีล : —ก็ได้ครับ หลายร้อยปีที่ผ่านมา— ซึ่งทำให้ไม่ว่าใครก็คิดได้โดยปราศจากข้อกังขาว่า พวกเรากำลังถูกสังเกตการณ์อยู่ แต่เรื่องการให้ความช่วยเหลือนะเหรอ❓ เรื่องที่คอยหยุดยั้งพวกเราไม่ให้ทำร้ายตัวเอง❓วิธีการใดกันที่พวกเขาใช้ช่วยเหลือเรา❓ ฝังความคิดใส่หัวพวกเราจากระยะไกลงั้นหรือ❓ โอเคครับ ผมอาจทำใจยอมรับเรื่องพวกนั้นได้ ผมกระทั่งสามารถทำใจให้เชื่อว่ามันก็อาจจะมีความเป็นไปได้. . .แต่ว่า การมาพบพวกเราแบบตัวเป็น ๆ เนี่ยนะ❓
1
We're getting into some pretty way out territory here.
ผมว่าเราชักจะออกทะเลไปไกลแล้วล่ะครับ
A: Talk about a play on words.
พระเจ้า : เธอนี่ก็เล่นคำได้ดีไม่ต่างกันเลยนะ
.
Q: And I didn’t do that deliberately any more than you did. But I have to say, I never thought my conversation with God would carry me here. I never thought I’d get into this.
นีล : ผมก็ไม่ได้จงใจเล่นคำเหมือนกับพระองค์นั่นแหละครับ แต่ผมต้องบอกว่า ผมไม่เคยคิดเลยว่าการสนทนากับพระเจ้าจะนำพาผมมาถึงจุดนี้ได้ ไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวอะไรกับเรื่องพวกนี้
A: Remember when you said that we spent a significant portion of Conversations with God, Book 3 talking about Highly Evolved Beings?
พระเจ้า : จำที่เธอเคยพูดได้ไหม ว่าเราใช้เวลาส่วนใหญ่ในหนังสือสนทนากับพระเจ้า เล่ม 3 พูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูง❓
.
Q: Yes, but not about them choosing to help us.
นีล : จำได้ครับ แต่เรื่องที่เราคุยกันมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาเลือกที่จะให้ความช่วยเหลือพวกเรานี่ครับ
A: No, but about the fact that they exist, for sure.
พระเจ้า : มันก็ใช่ แต่เราได้คุยกันถึงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการมีอยู่ของพวกเขาแน่ๆ
.
Q: Hypothetical existence and here-and-now assistance—including visiting us—are two different things. Two dramatically different things.
นีล : ข้อสันนิษฐาน เรื่องการมีอยู่ของพวกเขา กับ เรื่องที่พวกเขากำลังให้ความช่วยเหลือพวกเราอยู่ที่นี่-ในตอนนี้—รวมถึงการมาเยี่ยมเยียนพวกเรา—เป็นสองเรื่องที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยนะครับ
1
A: Agreed. Embracing this possibility is all part of the Third Invitation.
พระเจ้า : ฉันเห็นด้วย การเปิดใจรับซึ่งความเป็นไปได้นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของคำเชิญครั้งที่สามนะ
.
Q: I thought the invitation was to awaken our species, not to be introduced to a new species. Are you now saying that to awaken the species I have to embrace a belief that other life forms ...... I guess most people would not call them HEBs, as we referred to Highly Evolved Beings in Book 3, but would just call them extraterrestrials ...... are you saying that I have to embrace a belief that extraterrestrials—
นีล : ผมคิดว่าคำเชิญครั้งที่ 3 เป็นเรื่องของการปลุกเผ่าพันธุ์ของเราให้ตื่นขึ้น ไม่ใช่การแนะนำให้รู้จักกับเผ่าพันธุ์ใหม่ๆเสียหน่อย นี่พระองค์กำลังบอกว่า การจะปลุกเผ่าพันธุ์ของเราให้ตื่นขึ้นได้ ผมต้องเปิดรับเอาความเชื่อที่ว่า มีรูปธรรมชีวิตแบบอื่น ...... ซึ่งผมพนันได้เลยว่า คนส่วนใหญ่คงไม่เรียกพวกเขาว่า สวส. ตามชื่อย่อที่เรามอบให้กับสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงในเล่ม 3 หรอกนะครับ แต่พวกเขาจะถูกเรียกว่า มนุษย์ต่างดาว ...... พระองค์กำลังบอกว่า ผมต้องเปิดรับเอาความเชื่อที่ว่า มีมนุษย์ต่างดาว—
A: —let’s just continue to call them Highly Evolved Beings, or HEBs for short—
พระเจ้า: —กลับมาเรียกพวกเขาว่า สิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูง หรือ สวส. แบบย่อ เถอะ—
.
Q: —that an awakened species is choosing to help us, and is visiting us?
นีล : —ว่ามีเผ่าพันธุ์ที่ตื่นแล้ว ได้เลือกที่จะช่วยเหลือพวกเรา และ มาเยี่ยมเยียนพวกเรางั้นเหรอครับ❓
A : You don’t have to embrace anything. You can move forward with your mission to awaken your species without adopting any belief that another species exists, much less the idea that there are Highly Evolved Beings choosing to help those on Earth.
พระเจ้า : เธอ “ไม่จำเป็น” ต้องเปิดรับความเชื่อหรืออะไรทั้งนั้น เธอสามารถดำเนินภารกิจในการปลุกเผ่าพันธุ์ของเธอต่อไปได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องทำใจให้เชื่อเรื่องการมีอยู่ของเผ่าพันธุ์อื่นๆ นับประสาอะไรกับความเชื่อที่ว่า มีสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงได้เลือกที่จะช่วยเหลือมนุษย์บนโลกอยู่ นั่นยิ่งไม่จำเป็นเข้าไปใหญ่
.
Q: But you just said that “embracing this is all part of the Third Invitation.”
นีล : แต่พระองค์เพิ่งบอกไปเองนะครับว่า "การเปิดใจรับซึ่งความเป็นไปได้นี้เป็นส่วนหนึ่งของคำเชิญครั้งที่ 3"
A: It’s part of the invitation, it’s not required to accept the invitation.
พระเจ้า: มันเป็นส่วนหนึ่งของคำเชิญ ไม่ใช่ข้อบังคับในการตอบรับคำเชิญซักหน่อย
.
1
Q: Would you unpack that for me?
นีล : ช่วยขยายความหน่อยได้มั้ยครับ❓
A : Let’s go back to the front door analogy.
พระเจ้า : กลับไปที่การเปรียบเทียบเรื่องการเปิดประตู
If you knock on my door, and I open it and invite you in, and if I say, “How timely! I’ve just put out some hors d'oeuvres,” that doesn’t mean you may not accept the invitation unless you consume the specialty items on the tray.
เมื่อเธอเคาะประตูหน้าบ้านของฉัน แล้วฉันไปเปิดและเชิญเธอเข้ามาในบ้าน แล้วถ้าฉันพูดว่า “มาได้ถูกเวลาจริงๆ❗ ฉันเพิ่งทำอาหารเรียกน้ำย่อยเสร็จพอดี” นั่นมันก็ไม่ใช่ข้อผูกมัด เธออาจไม่ตอบรับคำเชิญก็ได้ จนกระทั่ง เธอได้หยิบอาหารที่วางบนถาดนั้นแล้วกินเข้าไปนั่นแหละ
.
Q: Got it. I can come to the party without having to “swallow” what may not be my cup of tea★—to mix metaphors.
นีล : เข้าใจแล้วครับ ผมสามารถไปที่งานปาร์ตี้ โดยไม่จำเป็นต้อง “กลืน” อะไรเลยก็ได้หากผมไม่ชอบใจ★ —ขอใช้การเปรียบเทียบด้วยคนนะครับ
★my cup of tea — เป็นสำนวน ประมาณว่า การที่เราถูกชะตาหรือโปรดปรานใครหรืออะไรซักอย่าง เราก็เรียกว่า เป็น my cup of tea ของเรา ซึ่งสามารถใช้กับคน สิ่งของ หรือ กิจกรรม ก็ได้เช่นกัน ซึ่งหากมี not ข้างหน้า ก็เป็นไปในทางตรงกันข้าม
—แอดมิน—
A: You can, indeed.
พระเจ้า : แน่อยู่แล้วว่าเธอสามารถทำอย่างนั้นได้
.
Q: I can accept the invitation to help awaken our species without having to believe that other species are choosing to help us, and are visiting us.
นีล : ผมสามารถตอบรับคำเชิญเพื่อปลุกเผ่าพันธุ์ของเรา โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อว่า มีเผ่าพันธุ์ “อื่นๆ” เลือกที่จะให้ความช่วยเหลือพวกเรา หรือ มาเยี่ยมเยียนพวกเรา
A: Yes. One decision does not hinge on the other.
พระเจ้า: ถูกต้อง การตัดสินใจเลือกอะไรสักอย่าง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการต้องตัดสินใจเลือกอะไรอีกอย่างหนึ่งเสียก่อน
.
Q: That feels better. That feels like I’ve got a little more freedom here.
นีล : รู้สึกดีขึ้นมากเลยครับ ค่อยรู้สึกหน่อยว่าตัวเองมีอิสระภาพที่จะเลือกอะไรก็ได้
A: Freedom is something you will always have. That’s my promise to you. That is my eternal commitment.
พระเจ้า : #อิสระภาพ คือสิ่งที่เธอจะมีเสมอ นี่คือคำมั่นสัญญาของฉัน คือพันธะสัญญาชั่วนิรันดร์ที่ฉันมีต่อเธอ
(มีต่อ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา