Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
A WAY OF LIFE : ทางผ่าน
•
ติดตาม
22 มี.ค. 2022 เวลา 01:25 • ไลฟ์สไตล์
“สลัดปมในใจออก พร้อมที่จะให้อภัยทุกอย่าง ได้อย่างไร ?”
“ … ผลจากการใช้ชีวิตของเราเนี่ย เราก็ผ่านเรื่องราว ผ่านสิ่งต่าง ๆ กันมามากทีเดียว
ยิ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ผ่านประสบการณ์ต่าง ๆ มามาก บางคนอายุ ๓๐ ปี ๔๐ ปี ๕๐ ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก
เรื่องราวต่าง ๆ ถึงแม้มันจะผ่านไปแล้วน่ะ แต่สิ่งเหล่านี้มันก็ยังค้างคาอยู่ภายในใจของเรา
มีไหมบางเรื่องเรารู้สึกผิด รู้สึกค้างคาใจ
เคยทำไม่ดีกับตัวเองไว้ เคยทำไม่ดีกับพ่อแม่ไว้
เคยทำไม่ดีกับคนรอบข้างไว้ รู้สึกเจ็บปวด
มันค้างคาอยู่ในใจ มันจุกอยู่ข้างใน
ถึงแม้กาลเวลามันจะผ่านมาเนิ่นนาน แต่สิ่งเหล่านี้มันก็ยังติดค้างอยู่ภายในใจของเรา มันเป็นแผลในใจ เป็นปมในใจต่าง ๆ นั่นเอง
พยายามจะลืมมันก็ลืมไม่ได้ สลัดก็สลัดไม่ออก
บางครั้งมันก็ชอบไปจมอยู่กับสิ่งเหล่านั้นนะ
เรื่องราวที่ผ่านมาแล้วในอดีตนั้น
โดยเฉพาะเด็กสมัยนี้จะเป็นกันมาก ก็คือ สิ่งที่เกิดผลกระทบจากผู้ปกครองนั่นเอง
คนยุคใหม่เนี่ยจะมีปมในใจ มีแผลในใจกันเกือบทุกคนนั่นแหละ โดยเฉพาะช่วงวัยเด็ก เนื่องจากสถานการณ์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันมันบีบคั้นมากทีเดียว
พ่อแม่ก็มีแรงกดดันมาก ทั้งปัญหาชีวิต
ปัญหาคู่ครอง ปัญหาการใช้ชีวิต ปัญหาการทำงานต่าง ๆ
แรงกดดันที่พ่อแม่แบกรับไว้เนี่ย บางทีก็ลงกับลูก
ลูกเนี่ยตอนเด็ก ๆ ก็เป็นผ้าขาวใส แต่พอเจอแรงกดดันปุ๊บ เจอแรงกระทบกระทั่งจากคำพูดบางคำบ้าง
บางทีคำพูดจาแค่คำเดียวนะ แต่มันบาดลึกในใจ
แล้วมันก็ติดค้างอยู่มาอย่างยาวนานเลยทีเดียว
เนี่ยแรงเพรสเชอร์ แรงกดดันที่มันส่งต่อกันมาแบบนี้ มันจึงเกิดเป็นแผลในใจขึ้นมา โดยเฉพาะเกิดปมตั้งแต่วัยเด็ก สิ่งนี้มันไม่หาย มันค้างแล้วมันฝังอยู่ข้างใน แม้กระทั่งโตขึ้นมา สิ่งเหล่านี้มันก็ยังมีอยู่
แล้วมันก็เหมือนเป็นรากเหง้าที่ก่อให้เกิดเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีต่าง ๆ ตามมา เกิดความรู้สึก เกิดความก้าวร้าว
เกิดความ … ที่เรียกว่ากระด้าง เกิดความแข็งกระด้างต่าง ๆ ตามมา เนี่ยก็ผลกระทบต่าง ๆ ที่มันเกิดขึ้น ในการใช้ชีวิตในโลกยุคสมัยนี้
สิ่งเหล่านี้มันเป็นปมที่ค้างคาอยู่ในใจ เราจะสลัดสิ่งเหล่านี้หลุดได้อย่างไร ?
มันหลุดได้ด้วยการให้อภัย
ด้วยการให้อภัยทั้งต่อตนเอง ให้อภัยทั้งต่อพ่อแม่ ให้อภัยทั้งต่อผู้อื่น
ซึ่งอยู่ ๆ มันไม่ง่ายเลยที่จะสลัดแล้วให้อภัยตรงนี้หลุดได้ โดยเฉพาะสิ่งที่มันเป็นระดับปมแล้วอ่ะ เป็นปมในใจแล้วเนี่ย มันจะเป็นพลังงานที่อัดแน่นอยู่ข้างใน
ต่อให้เราปากเราพูดว่าอยากจะให้อภัย แต่มันไม่ออกหรอก
ตรงนี้มันจะหลุดไปได้ก็ต่อเมื่อเราน่ะ ให้อภัยตัวเองด้วยการให้โอกาสตัวเอง ได้กลับคืนสู่ธรรมชาติอันบริสุทธิ์นั่นเอง
เพราะธรรมะอันบริสุทธิ์นี่แหละ ที่จะเยียวยาทุกสิ่ง
ดับไฟในใจ ดับความเจ็บปวด
ดับความทุกข์ทรมานทั้งปวงได้
ก็เริ่มต้นจากการวางของหนักของร้อน เรื่องราวต่าง ๆ ลง วางลงชั่วคราวก็ยังดี อยู่ ๆ มันวางเลยมันวางไม่หมดหรอก แต่เราวางชั่วคราวเนี่ยมันพอวางได้
ก็วางลงบ้าง พักลงบ้าง ค่อย ๆ ฝึกปฏิบัติธรรม เพียรฝึกตามที่ลงสอนอยู่เป็นประจำ ก็ฝึกวางอยู่ทุกเช้า - ค่ำอยู่แล้วนั่นเอง
ผลจากการที่เราค่อย ๆ วางลงได้
ค่อย ๆ ปฏิบัติแล้วเริ่มเข้าถึงธรรมะ
ให้ธรรมะได้เยียวยาจิตใจ
จนจิตใจเราเริ่มมีความเบา มีความสบาย มีความสงบ
ได้สัมผัสความชุ่มชื่นของจิตใจขึ้นมา
จิตใจเราจะค่อย ๆ คลายออก คลายออกนั่นเอง
1
ถึงจุดหนึ่ง จนเราเข้าถึงความเป็นธรรมชาติ
ความสุขที่ลึกซึ้ง ใจมันคลายตัวออกเนี่ย
มันจะค่อย ๆ ให้อภัยได้เอง ให้อภัยทั้งต่อตัวเอง
ให้อภัยทั้งต่อผู้อื่น ต่อพ่อแม่ ต่อใครก็ตาม
มันจะคลายออกโดยธรรมชาตินั่นเองนะ
เพราะฉะนั้นการให้อภัยที่แท้จริง ก็คือ การที่เราน่ะได้เข้าถึงธรรมะอันบริสุทธิ์ ได้เยียวยาจิตใจ จนมันเต็มเปี่ยม เอ่อล้นจากข้างในออกมา ที่มันแผ่ความสุขเบาสบายออกมาน่ะ
เปรียบเหมือนทางโลกนั่นแหละ ถ้าเรายังยากจนยังแห้งแล้งอยู่ ยังขัดสนอยู่นะ ยังขาดแคลนอยู่ เราจะไปให้อะไรกับใครเขาได้ มันมีแต่อยากจะเอา อยากจะทดแทนสิ่งที่เราขาดไปทั้งนั้นน่ะ มันมีแต่การพยายามดึงรั้งเข้ามา
เพราะใจเรามันขาดแคลนไง ใจเรามันหิวกระหาย ใจเรามันไม่เต็มอ่ะ เราจะไปให้ใครเขาได้ล่ะ มีแต่อยากจะเอาเท่านั้นแหละ
นี่คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับทุกคนบนโลกใบนี้นะ คนส่วนใหญ่นะ มันขาดแคลนระดับจิตวิญญานนั่นเอง
แต่ก็ให้เปรียบง่าย ๆ เหมือนคนทางโลก ที่เราถ้าเรายากจน เราขาดแคลนอ่ะ เราจะไปให้อะไรใครเขาได้ล่ะ เรามีแต่อยากจะรับเข้ามาเท่านั้นเอง
แต่เมื่อใดที่เรามีทรัพย์มากเพียงพอแล้ว ข้าวปลาบริบูรณ์ ทรัพย์สมบัติทุกอย่างบริบูรณ์ มันอิ่มแล้วไง คนเราเมื่อมันอิ่มแล้วเนี่ย แล้วมันยังมีอยู่ มันก็พร้อมที่จะแบ่งปัน พร้อมที่จะให้ออกไป
พร้อมที่จะให้ออกไป การเกื้อกูลการให้อภัยต่าง ๆ มันจึงเกิดขึ้น
เพราะฉะนั้นการที่เราไปถึงจุดการให้อภัยตรงนั้นได้ ก็เพราะว่าเราได้เข้าถึงธรรมะอันบริสุทธิ์ ได้ธรรมะเยียวยาจิตใจ ได้เติมเต็มจิตวิญญานของตนเอง
ได้ดับไฟในใจ ดับความเร่าร้อน ดับความหิวกระหาย
ดับความทุกข์ทรมานทั้งปวง
มันมีแต่ความเบิกบาน มีแต่ความแช่มชื่นในธรรม
เมื่อนั้นแหละ เราพร้อมที่จะให้อภัยกับทุกสรรพสิ่ง ทั้งตัวเราเอง ทั้งผู้อื่น
และตรงนั้นแหละ เมื่อถึงจุดนั้นแหละ
สิ่งที่มันเป็นปมต่าง ๆ มันจะหลุดออกไปทั้งหมดเลย
เพราะงั้นก็เริ่มจากการให้โอกาสตัวเอง ได้เรียนรู้ศึกษาธรรมะ ตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง
แล้วท่านทั้งหลายจะพร้อมที่จะให้อภัยกับทุกอย่าง
แล้วคืนสู่ความเป็นธรรมชาติได้ …“
.
ธรรมบรรยาย
โดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร
https://youtu.be/wvS2rvxjQ8o
เยี่ยมชม
youtube.com
การให้อภัยตัวเอง | ธรรมให้รู้•2565 : ตอนที่ 67
Photo by : Unsplash
5 บันทึก
8
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เกล็ดธรรมคำครู
5
8
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย