9 เม.ย. 2022 เวลา 10:20 • สุขภาพ
จากบทความก่อนหน้า ได้มาคุยถึงเรื่องโพรไบติกกันแล้ว มาคราวนี้จะเล่าถึงพรีไบโอติกบ้าง
สืบเนื่องจากโพรไบโอติกนั่น คือจุลินทรีย์ตัวดีที่อยู่ในลำไส้ และช่วยปรับสมดุลต่างๆให้ดีขึ้น โดยจุลินทรีย์นั้นก็คือ สิ่งมีชีวิต และเมื่อมันมีชีวิต ก็ต้องมีอาหาร ซึ่ง"พรีไบโอติก" ก็คืออาหารของจุลินทรีย์นั่นเอง
พรีไบโอติกนั้นไม่มีชีวิต เมื่อเราทานเข้าไปแล้ว ร่างกายของเราจะไม่สามารถย่อยหรือดูดซึมได้ มันจะถูกส่งต่อจากลำไส้เล็ก มายังลำไส้ใหญ่ และถูกย่อยสลายโดยโพรไบโอติก มากระตุ้นการเจริญเติบโตและการทำงานที่ดีของจุลินทรีย์ดี ทำให้ลำไส้เรามีสภาพที่ปกติ
โดยเราสามารถหาอาหารธรรมชาติที่มีพรีไบโอติก ได้จาก หัวหอม กระเทียม ถั่วเหลือง ถั่วแดง หน่อไม้ฝรั่ง กล้วย แอปเปิ้ล หรือผัก ผลไม้ที่มีไฟเบอร์ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า เป็นอาหารประเภทที่เรารู้กันดี ว่าดีต่อสุขภาพ เมื่อเรากินไป ก็เหมือนได้ให้อาหารจุลินทรีย์ดี ระบบลำไส้เราก็ดีตามไปด้วย
แต่อีกทางเลือก ก็มีอาหารเสริมเช่นกัน มีทั้งอาหารเสริมโพรไบโอติก และพรีไบโอติก รวมถึงอาหารเสริมที่ควบรวมระหว่างโพรไบโอติก และพรีไบโอติกเข้าด้วยกัน ซึ่งจะเรียกว่า "ซินไบโอติก"
ซินไบโอติก ก็คือ การนำโพรไบโอติก และ พรีไบโอติก มาผสานเข้าด้วยกัน เมื่อเราทานเข้าไป ก็เพิ่มจุลินทรีย์ดีให้ร่างกาย พร้อมกับให้อาหารเค้าไปด้วยเลย เรียกได้ว่า ทานครั้งเดียวได้ครบจบในหนึ่งครั้ง จุลินทรีย์ดีก็พร้อมทำงานได้อย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามการทานอาหารเสริม ไม่ได้ช่วยรักษาโรคแต่อย่างใด แต่ช่วยในการบรรเทา หรือลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคขึ้นได้ เมื่อเราทานเพื่อให้เข้ามาช่วยบรรเทาแล้ว ทางที่ดีที่สุด ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเรา ทานอาหารที่ดี ออกกำลังกายให้เหมาะสม ดื่มน้ำเยอะๆ นอนหลับให้พอ เพื่อรักษาสุขภาพที่ดีในระยะยาวดีกว่าค่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา