สัตว์ลายเสือตัวที่ 4 ที่จะพามารู้จักกันในตอนนี้เป็นนกที่มีสีสันและลวดลายคล้ายเสือที่มีชื่อว่า 'นกกระจิบเคปเมย์' หรือ 'Cape May Warbler' กันค่า
Credit: Nick Balachanoff via. https://www.cbc.ca/news/canada/british-columbia/rare-warbler-sighting-thrills-birders-and-photographers-in-abbotsford-1.4965407
ก็เลยลองตามหานกในต่างประเทศดูจนได้พบกับนกกระจิบเคปเมย์ (Cape May Warbler) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Setophaga tigrina
เป็นนกในกลุ่มนกกระจิบโลกใหม่ (New World Warbler) มีถิ่นอาศัยในอเมริกาเหนือ และคำว่า ‘tigrina’ ในชื่อ species ก็มีที่มาจากสีสันและลวดลายคล้ายเสือนั่นเอง🐯
โดยผู้ที่ตั้งชื่อสปีชี่ส์คือ Johan Friedrich Gmelin นักธรรมชาติวิทยาชาวเยอรมันซึ่งส่วนหนึ่งมาจากลักษณะภายนอกที่คล้ายกับเสือของนกชนิดนี้แต่อีกส่วนหนึ่งก็อาจจะเพราะพฤติกรรมความก้าวร้าวในการปกป้องแหล่งอาหารของนกชนิดนี้นั่นเอง
ส่วนชื่อสามัญ Cape May Warbler นั้นมีที่มาจาก ตัวอย่างของนกกระจิบชนิดนี้ถูกพบครั้งแรกในเมือง Cape May รัฐนิวเจอร์ซี่ สหรัฐอเมริกา ในปี 1811 นั่นเอง แต่หลังจากปี 1920 เป็นต้นมาก็ไม่มีรายงานพบเจอนกชนิดนี้ใน Cape May อีกเลย
แฮชแท็กนี้ทำให้นึกถึงหนึ่งในหนังเรื่องโปรดอย่าง 'The Day After Tomorrow' เป็นหนังที่ฉายเมื่อปี 2004 ในหนังพูดถึงความรุนแรงของ climate change 🌡🌏ที่สั่นสะเทือนโลกให้เปลี่ยนแปลงในเวลาเพียงไม่กี่วัน
แต่มนุษย์เราก็ไม่ได้ตระหนักถึงปัญหานี้อย่างจริงๆ จังๆ จนกระทั่งมันเป็นปัญหาที่ใกล้ตัวมนุษย์มากขนาดนี้ ใจนึงก็ดีใจที่ปัญหาโลกร้อนดูเหมือนจะ mass แล้วจริงๆ แต่อีกใจก็แอบเศร้าเพราะมันก็เกือบจะสายไปแล้วรึเปล่านะ...
เพราะในยุคดิจิตอล ทุกวินาทีที่เราแชร์ข่าวกันในโซเชียลมีเดียเราเองก็กำลังสร้างก๊าซเรือนกระจกจากการที่ต้องใช้พลังงานมหาศาลในการหล่อเลี้ยง data center ที่เก็บข้อมูลเหล่านี้...