๒๖. ผู้นำ-ผู้ตาม และ ธรรมบรรยาย
เดี๋ยวนี้ถ้าความปรารถนาของเราที่จะหลุดพ้นมีมากพอก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีก เพราะเมื่อช่วงกาลของชีวิตดำเนินไปด้วยความปรารถนาจะรู้แจ้งมากพอ เมื่อความต้องการจะรู้นั้นสุกงอม อินทรีย์ต่างๆ สติก็ดี ศรัทธาก็ดี ความเพียร ความใฝ่มุ่งมาดปรารถนา ความเข้าอกเข้าใจ ช่วงกาลที่เฝ้าดูจิตใจนานพอแล้ว อุปสรรคต่างๆ ซึ่งเคยทำให้เราสับสนก็กลับกลายเป็นเพิ่มเติมให้อินทรีย์ภายใน ธรรมชาติที่แกร่งกร้าวภายในได้ลับตัวมันให้คมชัดขึ้น
แต่เดี๋ยวนี้เรายังอ่อนเรายังหวาดกลัว เรายังไม่มั่นใจและเรายังไม่ต้องการตรัสรู้ด้วยอินทรีย์ เหล่านี้เรียกว่าอินทรีย์ที่อ่อน ความต้องการ การรู้แจ้งของเราไม่พอ บางทีเรายังไม่เชื่อ เราต้องการเพียงแต่ความสุขสามัญเท่านั้น เรายังชอบหัวเราะเล่น เรายังชอบทำให้สิ่งที่มันเป็นอุปสรรคต่อการตรัสรู้อยู่
ดังนั้นเราก็เลี่ยงไม่พ้นจากความสับสน เพราะเราสร้างมันขึ้นเอง เรายังใฝ่ฝันมุ่งมั่นแต่เรื่องหยุมหยิม ดังนั้นการกระทำของเราจึงกะปริบกะปรอย ไม่หนักแน่น ไม่มีแก่น ไม่มีโครงสร้าง ไม่มีรากฐานที่จะเติบใหญ่ไปพ้นความสับสนนานาประการ คนชราหลายคนในโลกนี้ต้องจบชีวิตของเขาด้วยความสับสน ตั้งแต่เกิด หนุ่ม แก่ จนกระทั่งตาย
คนร่ำรวย หรือคนที่จัดตัวเองว่าเป็นผู้ที่มีความรู้สูง อาจจะเป็นเพียงผู้ที่มีความทุกข์ระอุเหมือนกับไฟสุมแกลบ ไฟที่ถูกกลบ
ผู้นำทางสังคมทางการเมือง ผู้ทำหน้าที่สังคมสงเคราะห์อาจจะเป็นผู้ที่มีเคราะห์ร้ายอยู่ลึกๆ คือความที่ไม่หยั่งรู้สัจธรรม
นักศีลธรรมหรือพระอาจจะเป็นเพียงผู้ที่กำลังถูกย่าง อยู่ด้วยไฟของความไม่รู้ ไม่รู้จักตัวเอง แต่ว่าทุกคนมุ่งแสวงหาสถานะทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นการแสวงหาด้วยการโฆษณาสัจธรรมแง่หนึ่งแง่ใด ไม่ว่าเป็นพระที่พูดสัจธรรมด้วยฝีปาก หรือเป็นนักการเมืองที่โฆษณาทฤษฎีสัจธรรมทางการเมือง ไม่ว่าศิลปินที่พยายามจะป้ายโลกนี้ด้วยสีสัน แต่ข้อเท็จจริงคนเหล่านั้นไม่อาจจะเป็นผู้ที่ยังห่างไกลจากความสิ้นสับสน
ดังนั้นศิลปกรรม ทฤษฎีทางการเมือง คำเทศนาอันไพเราะเพราะพริ้งของพวกพระก็อาจจะเป็นเครื่องสะท้อนถึงความสับสนในหัวใจของเขาเท่านั้นเอง
แต่เมื่อโลกนี้ได้เป็นแหล่งสะสมอารยธรรมมานาน นับเป็นสิบๆ ศตวรรษแล้ว ดังนั้นย่อมเป็นการง่าย ที่พระ ศิลปิน หรือนักสังคมสงเคราะห์เหล่านั้นได้หยิบยืมถ้อยคำอันหรูๆ ของพระศาสดามาเป็นเครื่องโฆษณาชวนเชื่อ
ดังนั้นกิจกรรมเช่นนี้แหละที่ได้ถูกโฆษณาขายกินกันมาตลอด มันอาจจะเป็นเพียงเครื่องสะท้อนว่า มนุษย์นี้เป็นมนุษย์ที่สืบต่อของอารยธรรมขี้คุยถึงสัจธรรม โดยที่ว่าไม่มีใครได้รับผลมันเลยสักคนเดียวก็เป็นได้
ธรรมบรรยาย ณ วัดสนามใน นนทบุรี ขณะนั้นท่านเขมานันทะยังครองสมณะเพศ
ถอดเทปและจัดพิมพ์ (โรเนียว-เย็บเล่ม) โดยกลุ่มศึกษาและปฏิบัติธรรม เมื่อกันยายน พ.ศ.๒๕๒๒
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
