29 เม.ย. 2022 เวลา 06:29 • หนังสือ
#47 CWG. 4️⃣ — บทที่ 1️⃣2️⃣ (ตอนที่ 4) : ‘ภารกิจของเธอ’ ก็คือ การบอกผู้อื่นในสิ่งที่พวกเขา “รู้อยู่แล้ว” ซึ่งพวกเขาก็แค่ “ไม่รู้ว่าตัวเองรู้” เท่านั้นเอง
ผู้แปล : คุณซิม จากเพจ Books for Life
ผู้เรียบเรียง : แอดมิน (ซึ่งผมอาจแก้ไข เพิ่มคำแปล และ เรียบเรียงประโยคใหม่บางส่วน)
Q : But not to do so in such a grandiose way that it defeats their purpose, as no one will listen to them.
นีล : แต่ต้องไม่ทำแบบโอ้อวดเสียจนทำให้ไม่มีใครอยากฟังพวกเขา หากเป็นแบบนั้นก็จะเป็นการทำลายวัตถุประสงค์ (ที่จะปลุกผู้อื่น) ของพวกเขาไป
A : It is good that you keep returning to this. It would indeed defeat your purpose if you set yourself apart as “Those Who Know,” and decide that it is your job to tell others what they don’t know.
พระเจ้า : ดีนะที่เธอกลับมาที่เรื่องนี้อีก มันจะเป็นการทำลายจุดประสงค์ของเธออย่างแน่นอนหากเธอแยกตัวเองออกมา (เพื่อต้องการให้เกิดความแตกต่าง) แล้วยกฐานะตนขึ้นเหนือคนทั่วไปว่า “ฉันนี่แหละคือหนึ่งในผู้รู้” (ตัวจริงเสียงจริง) และตัดสินใจว่าการสั่งสอนผู้คนในสิ่งที่ #พวกเขาไม่รู้ นั้นคือภารกิจของเธอ★
★ตรงนี้พระองค์เตือนให้ระวัง อัตตาตัวตนของตัวเองให้ดี ข้าเก่ง ข้าเจ๋ง ข้ายิ่งใหญ่กว่าคนอื่นเพราะข้ารับสารจากพระเจ้าหรือเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ ฉะนั้นข้าจึงมีหน้าที่ที่จะต้องถ่ายทอดให้คนรู้ให้มากที่สุด คนอื่นต้องเคารพกราบไหว้บูชาข้า เทิดทูนข้า และ ฯลฯ ในแบบที่หลงตัวหลงตน
มันอดไม่ได้จริงๆ ที่ต้องยกตัวอย่างหนึ่ง (อันนี้แค่ยกตัวอย่างให้เห็นนะครับ ไม่ได้จะว่าใคร 😆😅) — ผมได้ดูรายการโหนกระแส ที่เอาอดีต ส.ส. ท่านหนึ่งที่ว่าตนเป็นอวตารของพระศรีฯที่ลงมาเกิดบนโลกเพื่อโปรดมนุษย์ (ยังมีแบบอื่นๆอีกหลายคน 😅) เอาจริงๆนะครับไม่ว่าใครได้ฟังก็ต้องส่ายหน้า และทำให้มันเสียวัตถุประสงค์ในการต้องการช่วยปลุกคนอื่นให้ตื่นขึ้นไปอย่างที่พระองค์บอก การทำแบบนั้นมันจะทำให้คนหันหน้าหนีเรื่องทางจิตวิญญาณเสียมากกว่า ก็ช่วยคนอื่นกันอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ด้วยความรักความเข้าใจและเรียบง่ายไม่หรูหราหมาเห่ากันเถอะครับ 😄
อ่านทบทวนเรื่องนี้อีกครั้งได้ตามลิงค์ครับ —แอดมิน—
Your mission would be to tell others that they do know—and they simply may not know that they know.
ซึ่ง ‘ภารกิจของเธอ’ ควรจะเป็นการบอกผู้อื่นในสิ่งที่พวกเขา “#รู้อยู่แล้ว” —และพวกเขาอาจจะแค่ #ไม่รู้ในสิ่งที่ตัวเองรู้ เท่านั้นเอง
This is a gentle sharing, a gentle awakening, not such a startling jolt that all anyone wants to do is go back to sleep.
นี่คือการแบ่งปันอันละเมียดละไมแบบค่อยเป็นค่อยไป คือการปลุกให้ตื่นขึ้นอย่างนุ่มนวล ไม่ใช่การเขย่าปลุกแบบกระโชกโฮกฮากให้ตกใจตื่น จนทำให้สิ่งที่ทุกคนอยากทำก็คือ การกลับไปนอนหลับเหมือนเดิมน่าจะดีกว่า
.
Q : Okay, so I see that this single change is but another articulation of the One Decision I spoke of earlier. It could quickly bring about a new way of living on Earth. That excites me. The possibilities that arise from this excite me.
นีล : โอเคครับ ดังนั้น ผมจึงเห็นว่าการเปลี่ยนเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวคือรอยต่อของการตัดสินใจหนึ่งเดียวที่ผมพูดไว้ก่อนหน้านี้ มันจะนำมาซึ่งวิถีชีวิตใหม่บนโลกได้อย่างรวดเร็ว มันทำให้ผมตื่นเต้น ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจากความเข้าใจที่เปลี่ยนไป★นี้ทำให้ผมตื่นเต้น
★เข้าใจว่า “สรรพชีวิตทั้งมวลล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน” และ “ไม่มีการแบ่งแยกใดๆในจักรวาล ทุกสิ่งเชื่อมโยงกันหมด” —แอดมิน—
I’m still trying, though, to get sense of more than just one or two ways that our daily experience here would change, as a practical matter, if we moved through everyday life in the way that these Highly Evolved Beings have been encouraging us to do.
แต่ผมก็ยังพยายามทำความเข้าใจว่า มีอีกหนึ่ง หรือสองสามวิธี ที่เราควรจะเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตประจำวันของเราอีกไหม เอาแบบเป็นวิธีปฏิบัติที่เราสามารถนำไปใช้ได้จริงจนเป็นกิจวัตรประจำวันแบบที่สิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงเหล่านี้แนะนำและสนับสนุนให้เราทำ
A : I can give you a list of them.
พระเจ้า : ฉันจะให้รายการที่ควรทำแก่เธอก็แล้วกัน
Q : Please do.
นีล : ขอความกรุณาด้วยครับ
====== (จบบทที่ 12) =======

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา