10 พ.ค. 2022 เวลา 02:00 • หนังสือ
ยินดีที่รู้จักฉัน Pleased to meet me
“อยากรู้หรือไม่...ทำไมคุณเป็นอย่างที่เป็น และทำอย่างที่ทำ เรื่องราวของยีน ดีเอ็นเอ จุลชีพ กระบวนการเหนือพันธุกรรม และพลังซ่อนเร้นอีกมากมายที่จะช่วยให้เราเข้าใจตัวเอง” คำโปรยของหน้าปกหนังสือ ยินดีที่รู้จักฉัน Pleased to meet me ผู้เขียนคือ บิล ซัลลิแวน หนังสือเล่มนี้ เนื้อหาสนุก ๆ เกี่ยวกับที่มาที่ไปของตัวเรา ในมุมมองที่เป็นวิทยาศาสตร์มาก ๆ อธิบายตัวเราว่าทำไมเราถึงอ้วน ทำไมเราถึงผอม ทำไมเราอารมณ์ดีหรืออารมณ์เสีย ทำไมเราถึงชอบกินผักหรือไม่ชอบ ทำไมเราถึงมีความรัก หรือแม่กระทั่งทำไมความเชื่อทางการเมืองของเราถึงเป็นแบบอนุรักษ์นิยมหรือเสรีนิยม
ในมุมมองทางวิทยาศาสตร์ ตัวเรา พฤติกรรม นิสัย หรือความคิดเรา สิ่งที่กำหนดตัวเรานี้มีพื้นฐานมาจากยีน (gene) ซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยพื้นฐานที่สำคัญคือดีเอ็นเอ (DNA) และมีตัวควบคุมอื่น ๆ ได้แก่ กระบวนการเหนือพันธุกรรม (epigenetic) ที่สิ่งแวดล้อมมีส่วนเกี่ยวข้องในการควบคุมการแสดงออกของยีน นอกจากนี้ยังมีจุลชีพ (microbiota) นับล้าน ๆ ตัว มีน้ำหนักรวมในร่างกายราว ๆ 3 กิโลกรัม คอยชักใยอยู่เบื้องหลังในปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ในชีวิตเรา
นอกจากหนังสือเล่มนี้จะพยายามอธิบายสิ่งต่าง ๆที่เกิดขึ้นในชีวิตในมุมวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจ น่าค้นหา สิ่งที่หนังสือเล่มนี้มอบให้คนอ่าน และผมคิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือ ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น หรือ empathy
 
ทำไมอ่านเล่มนี้จึงรู้สึกถึง empathy
ผมขอยกตัวอย่างตามเนื้อหาในหนังสือ ผู้เขียนเล่าถึงตัวเองซึ่งเป็นคนไม่ชอบทานบร็อคโคลี่ เขาบอกว่ารสชาติแย่เอามาก ๆ ในขณะที่คนอื่น สามารถทานได้ ในปริมาณมาก สิ่งที่อธิบายทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องนี้คือ ตุ่มรับรสของแต่ละคนมีความไวต่อความขมของผักไม่เท่ากัน ซึ่งเกิดจากการแปรผันของยีน รวมทั้งกระบวนการเหนือพันธุกรรม ทำให้บางคนชอบผัก บางคนไม่ชอบผัก เวลาลูกเรา หรือคนรู้จัก ไม่ยอมกินผักทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันดีต่อสุขภาพ ถ้าเรารู้ถึงคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ดังกล่าว เราก็จะถึงบางอ้อว่า ทำไมเขาจึงไม่ชอบทาน เมื่อรู้เช่นนี้ เราก็มีความ empathy เอาใจเขามาใส่ใจเรามากขึ้น
นอกจากกรณีข้างต้น ยังมีตัวอย่างเช่น คนที่กระทำความผิดต่าง ๆ ในสังคม มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน ทั้งในระดับยีน กระบวนการเหนือพันธุกรรม รวมทั้งปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมและการเลี้ยงดู ทำให้เราเข้าใจว่า คนบางคนที่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้น มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ไม่ใช่สักแต่จะโทษตัวตนของคน ๆ นั้น ทั้งที่จริงแล้ว มีปัจจัยหลากหลายที่ควบคุมตัวของคน ๆ นั้นอยู่
ความอ้วนก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจเช่นกัน เรามิควรไปโทษคน ๆ หนึ่งที่อ้วนว่าทำไมเธอไม่รู้จักควบคุมการกินเสียบ้าง บางคนต้องบอกว่าทานน้อยแล้ว แต่น้ำหนักไม่ลดเสียที มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์เช่นกัน
คำอธิบายเรื่องความอ้วนมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องได้แก่ ยีน กระบวนการเหนือพันธุกรรม พฤติกรรมการกิน และที่เราไม่นึกถึงเลย คือ จุลชีพในทางเดินอาหาร (gut microbiota) สายพันธุ์ของแบคทีเรียในทางเดินอาหารส่งผลต่อโรคอ้วน มีการทดลองนำแบคทีเรียในอุจจาระของหนูที่อ้วนไปปลูกถ่ายในทางเดินอาหารหนูผอมที่เลี้ยงมาปลอดเชื้อโรค พบว่าหลังจากที่ได้รับการปลูกถ่าย หนูผอมที่ได้รับเชื้อแบคทีเรียจากอุจจาระของหนูอ้วนก็มีน้ำหนักมากขึ้นและอ้วนในที่สุด ฟังดูมหัศจรรย์มากใช่ไหมครับ ในมนุษย์ก็มีการศึกษาสายพันธุ์ของแบคทีเรียเช่นกัน และพบว่ามีความแตกต่างระหว่างคนผอมและคนอ้วน และคาดว่าความแตกต่างของแบคทีเรียในทางเดินอาหารนี้ส่งผลต่อการย่อยและดูดซึมอาหารและไปสร้างพลังงานและสะสม จนเกิดโรคอ้วนตามมาในที่สุด
โดยสรุป คน ๆ หนึ่งในสังคม มีความแตกต่าง หลากหลาย ทั้งในทางชีวภาพ พฤติกรรม นิสัย การกิน การนอน ความคิด หรือความเชื่อ ล้วนแล้วมีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถอธิบายได้โดย ยีน ดีเอ็นเอ กระบวนการเหนือพันธุกรรม จุลชีพ และสิ่งแวดล้อม เมื่อเรารู้เช่นนี้แล้ว เวลาใครทำอะไรแล้วไม่ถูกใจเรา อย่าพึ่งไปตัดสินในตัวตนของเขา มี empathy เข้าไว้ สิ่งที่เขาทำนั้น อาจมีปัจจัยบางอย่างที่เราอาจไม่ได้รู้ทั้งหมด บางคนเจ็บป่วย บางคนมียีนหรือดีเอ็นเอ ส่งผลให้เขาเป็นเช่นนั้น หรือบางคนมีกระบวนการเหนือพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อมมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในตัวเขา เรื่องนี้เหมือนสำนวนภาษาอังกฤษที่ว่า “Don’t judge a book by its cover” หมายความว่าอย่างด่วนตัดสินคน ๆ นั้นจากภายนอก โดยไม่ได้มองลึกเข้าไปในตัวเขา (ยีน ดีเอ็นเอ กระบวนการเหนือพันธุกรรม จุลชีพ และสิ่งแวดล้อม) มองลึกมาก ๆ เลยใช่ไหมครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา