Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เขมานันทะในใจเรา - ชาติพันธุ์ภาวนา
•
ติดตาม
10 พ.ค. 2022 เวลา 05:29 • ปรัชญา
๓๓. ผู้นำ-ผู้ตาม และ ธรรมบรรยาย
คนไหนที่ไปเคร่งครัดศีลพูดอยู่แต่เรื่องนั้น เน้นแต่เรื่องนั้น มันพิสูจน์ว่าก้าวหน้าต่อไปไม่ได้ ก้าวต่อไปไม่ได้ ก็ยึดถือ ๆ แล้วก็อวด จบกัน
ศีลไม่ใช่สิ่งที่ต้องอวดใคร ศีลคือระเบียบของดวงใจของเรา ความรักคือศีล เห็นต้นไม้มีความรู้สึกไม่ทำลาย ขยันที่จะรดน้ำมัน ชื่นชมมัน มีแมว เลี้ยงแมว มันเป็นความรักต่างหาก ศีลไม่ใช่ระเบียบกฎเกณฑ์ตราหมายหรือหรืออะไรทำนองนั้น ไม่ใช่ commandment พุทธศาสนาไม่มีสิ่งที่เรียกว่า commandment, commandment จากพระเจ้านั้นไม่มี
ศีลคือสิ่งที่ยืดหยุ่นได้ตามธรรมชาติของผู้ปฏิบัติ รวมความว่า ศีลยึดถือไม่ได้ ยึดถือแล้ว เป็นความงมงาย เมื่อเราปฏิบัติศีลมากขึ้น เราก็ต้องมีความเมตตากรุณาสูง เข้าใจเพื่อนแล้วอภัยได้สูงขึ้นอย่างนี้เป็นผู้มีศีล
ศีลย่อมน้อมนำเข้าไปสู่ความเมตตา กรุณา และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อภัยให้ได้เสมอ
พระพุทธเจ้าท่านว่า บุคคลผู้มีปรกติเพ่งโทษผู้อื่น ตถาคตกล่าวว่า ประพฤติห่างไกลพระนิพพาน
ศีลชนิดนั้นมันทำให้เราเป็นคนกระด้างขึ้นโดยไม่รู้สึกตัว แต่ศีลชนิดที่นำไปสู่ความปล่อยวางนั้น เป็นความสุภาพ เป็นผู้ดี เป็นการกระทำให้ตัวเองไม่ถอยจากการมุ่งเข้าสู่การรู้แจ้ง
เราพบว่า ถ้าเป็นคนหยาบคายเกินไป ใจหยาบ ทำอะไรหยาบ รังแกเบียดเบียนสัตว์ มักพูดเท็จ ล่อหลอก หลอกลวงคน จิตมันไม่มีสมาธิ ตั้งมั่นไม่ได้ เมื่อตั้งมั่นไม่ได้มันเห็นเรื่องราวที่ลึกซึ้งไม่ได้ เงื่อนไขมันอยู่ตรงนี้
รากฐานของศีลคือสติ ถ้าไม่มีสติกลายเป็นกลัว ประพฤติศีลเพราะความหวาดกลัว เช่นกลัวจะเหยียบไส้เดือนตาย กลัวโดยไม่รู้เหตุผล
ไม่มีศีลอันไหนที่จะแยกจากปัญญาได้ พอมันแยกจากปัญญา ไม่รู้เหตุผลปั๊บ ศีลนั้นเป็นเรื่องงมงาย เหมือนละเมอไปทำ เหมือนคนละเมอเช้าแล้วไปทำบุญ มันก็ไม่เป็นบุญ มันไม่รู้เรื่อง เหมือนเราให้สัตว์หรือสุนัขคาบอาหารมาใส่บาตรพระนี่มันไม่รู้เรื่อง มันเพียงแต่กระทำก็เพราะว่า ถ้าอย่างนั้นแล้วนายให้อาหารมันกิน มันไม่เป็นการทำบุญ ไม่เป็นการรักษาศีล
คำว่ารักษาศีลที่จริงเป็นคำพูดที่ผิดๆ ความหมายไม่ชัด ถ้าพูดว่ารักษาใจ มีสติ อย่างนี้ถูกกว่า ศีลไม่ต้องไปรักษามัน ไปรักษาที่ใจ แล้วในที่สุดมีศีลระวังเข้าไปที่ใจของเรา อย่าพลุ่งพล่านเมื่อมีอารมณ์มากระทบ รู้สึกตัวแล้วก็ผ่อนคลายความตึงเครียด อย่างนี้เรียกว่า รักษาศีล
โดยทั่วไปยึดถือแบบแผนมัวแต่เคร่ง ไม่รักษาที่นี่ มัวแต่ไปรักษาศีล ไม่รักษาใจ กลัวจะผิดศีลอย่างนั้น กลัวจะผิดศีลอย่างนี้ กลัวอยู่ด้วยอำนาจของความกลัว ความกลัวนั้นไม่ใช่วิสัยของชาวพุทธ
ศีลเช่นนั้นยิ่งยึดถือเท่าไรมันยิ่งเป็นอุปสรรคต่อการรู้แจ้ง มันเป็นอุปาทานชนิดหนึ่ง ยึดอุปโลกน์ว่าตัวเองเป็นผู้ที่เป็นคนดี ก็เป็นเพียงความรู้สึกเท่านั้นเอง เป็นการเสวยเวทนาเอาเอง คิดว่าเราเป็นคนมีศีลมากกว่าคนอื่น เมื่อมากกว่าคนอื่นกลายเป็นมานะทิฏฐิ ทีนี้จะเอาความสุขที่ไหน ศีลเป็นระเบียบภายนอกซึ่งถ้าไม่มีการควบคุมภายใน ปัญญารู้แจ้ง ศีลจะกลายเป็นเครื่องหลอกลวงชนิดหนึ่งได้
ธรรมบรรยาย ณ วัดสนามใน นนทบุรี ขณะนั้นท่านเขมานันทะยังครองสมณะเพศ ถอดเทปและจัดพิมพ์ (โรเนียว-เย็บเล่ม) โดยกลุ่มศึกษาและปฏิบัติธรรม เมื่อกันยายน พ.ศ.๒๕๒๒
1 บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ผู้นำ - ผู้ตาม
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย