10 พ.ค. 2022 เวลา 13:22 • ปรัชญา
๓๔. ผู้นำ-ผู้ตาม และ ธรรมบรรยาย
ในครั้งพุทธกาลก็พูดกันมาก ว่าพวกโยคีมีศีลกว่าพระพุทธเจ้า แต่ศีลเขาเป็นเพียงสีลัพพตปรามาส เช่น เอาขาห้อยหัวอยู่บนกิ่งไม้อยู่ตั้ง ๑๐ ปี เขาถือว่าอันนี้เป็นศีล และชาวบ้านนับถือด้วย บางคนนอนบนหนาม บางคนไม่พูด ๒๐ ปี บางคนเพ่งดวงอาทิตย์จนตาโปน เพราะเขาถือว่านี่คือศีลของเขา
พระพุทธเจ้าเอากับเขาด้วย เมื่อสมัยท่านปฏิบัติใหม่ๆ ท่านไม่รู้เรื่อง ท่านไปยึดถือในเรื่องอย่างนี้ ทำกับเขามั่ง ในที่สุดท่านก็โวยวายขึ้นมา นั่นไม่ใช่ทางของมัน เป็นเรื่องของความงมงาย
ศีลที่จะเป็นที่พึ่ง ศีลที่จะเป็นทางก็เพื่อให้เกิดการพัฒนาปัญญาให้สูงขึ้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อทำให้มีระเบียบที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ศีลภายนอกที่อยู่กับคนอื่นมันทำให้เราสำรวมระวัง เห็นใจเขาใจเรา เช่นนี้เป็นผู้มีศีล เช่นคนที่มีศีลจะไม่ข่มเหงน้ำใจใคร
ศีลชนิดนี้เป็นศีลที่เป็นอริยะ เป็นศีลที่เข้าอกเข้าใจเพื่อน ถ้ามีศีลชนิดนี้จะทำให้ปัญญาดีขึ้น เมตตาสูงขึ้น ทนได้ ทนต่อการเบียดเบียนได้รอบทิศ
เดี๋ยวนี้ ศีลทั่วไปที่ปฏิบัติกันอยู่ก็มักจะโน้มไปสู่การอวดและการปะทะแล้วข่มขู่ผู้อื่น จริงไหม? ถ้าเช่นนั้นชื่อว่ากระทำผิดอย่างร้ายแรง เป็นการกระทำผิดที่เรียกว่าผิดวิสัยของผู้ปฏิบัติธรรมด้วยซ้ำ
คำว่า “อริยกันตศีล” ศีลที่พระอริยเจ้าชอบใจนั้นไม่ได้หมายถึงเคร่งถึงที่สุด ถ้าคิดเช่นนั้นก็เป็นเรื่องโง่เขลา ศีลที่พระอริยเจ้าชอบใจ คือศีลที่นำไปสู่ความหลุดพ้น ศีลที่พระอริยเจ้าสังเกตเห็นว่าคนนั้นมีแล้วนี่ อนุโมทนาด้วยว่า จะนำไปถึงที่สุดแห่งการหลุดพ้น
แต่ตรงกันข้าม ในเมื่อสังเกตเห็นศีลที่เคร่งครัดมาก แต่เป็นศีลที่งมงาย ท่านชอบใจไม่ได้ พระอริยเจ้าท่านไม่ชอบใจศีลเช่นนั้น ทำให้ตายท่านก็ไม่อนุโมทนา เข้าใจใช่ไหม?
จะรักษาศีลก็เพื่อทำให้ชีวิตของเราเพิ่มพูนสมรรถภาพขึ้นทั้งในส่วนดำรงอยู่ร่วมกับเพื่อนมนุษย์ และส่วนที่จะพัฒนาปัญญาขึ้นที่จะเจาะแทงกิเลสได้
ศีลโดยตัวมันเองถ้าไม่มีทั้งสองสิ่งนั้นไม่มีความหมายอะไร เหมือนกับเอาหุ่นตุ๊กตามาตัวหนึ่ง ห่มจีวรดำเข้า แล้วให้มันยืนนิ่ง มันก็ไม่ผิดศีล มันก็ไม่ด่าใคร มันก็ไม่หิวข้าว มันก็ไม่พูดปด แต่มันจะมีประโยชน์อะไร
ธรรมบรรยาย ณ วัดสนามใน นนทบุรี ขณะนั้นท่านเขมานันทะยังครองสมณะเพศ
ถอดเทปและจัดพิมพ์ (โรเนียว-เย็บเล่ม) โดยกลุ่มศึกษาและปฏิบัติธรรม เมื่อกันยายน พ.ศ.๒๕๒๒

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา