#55 CWG. 4️⃣ — บทที่ 1️⃣4️⃣ (ตอนที่ 3) : พลังแห่งความคิดของเธอนั้นมีอิทธิพลเหนือเซลล์ในร่างกายของเธอ
▪️ผู้แปล : แอดมิน
{🔸ซึ่งผมอาจนำคำแปลบางส่วน ของคุณซิม จากเพจ Books for Life มาใช้ด้วยครับ ก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ที่ทำให้งานแปลมันสมบูรณ์ขึ้นครับ 🙏 นี่เป็นงานแปลที่ผมตั้งใจแปลมาก ๆ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยครับ🔸}
Q : Then there must be a way that I can get the cells of my body to do whatever I communicate that I want them to do! Like heal me from an illness, for instance.
นีล : ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมีวิธีที่จะสื่อสารให้เซลล์ในร่างกายของผมทำทุกอย่างที่ผมต้องการให้ทำได้น่ะสิครับ❗เช่น รักษาตัวผมให้หายจากอาการเจ็บป่วย อะไรแบบนั้น
A : You are right if you are suggesting that the energy of your thoughts has an influence over the cells of your body.
พระเจ้า : เธอคิดถูกแล้วถ้าเธอกำลังจะบอกว่าพลังแห่งความคิดของเธอมีอิทธิพลเหนือเซลล์ในร่างกายของเธอ
.
Q : I remember learning of Émile Coué, a French psychologist and pharmacist, who introduced in the early part of the 20th century a process of psychotherapy with a foundation in optimistic and conscious autosuggestion.
นีล : ผมจำได้ว่าเคยเรียนรู้มาจาก เอมิล คูเอ นักจิตวิทยาและเภสัชกรชาวฝรั่งเศส ผู้นำเสนอกระบวนการทางจิตบำบัดในช่วงต้นศตวรรตที่ 20 เกี่ยวกับกระบวนการทางจิตที่มีพื้นฐานมาจากความคิดเชิงบวก และการชี้นำจิตซ้ำๆ (สะกดจิตตัวเองด้วยความคิดและคำพูดดีๆซ้ำๆ)
As an experiment he invited people who were ill to repeat at least twenty times a day—and especially in the morning and before retiring—a simple mantra: Tous les jours à tous points de vue je vais de mieux en mieux. In English: Every day, in every way, I am getting better and better.
ในการทดลอง เขาแนะนำให้ผู้ป่วยพูดประโยคหนึ่ง อย่างน้อย 20 ครั้งต่อวัน —โดยเน้นที่ช่วงเช้าหลังตื่นนอน และก่อนนอน— คำพูดง่ายๆแบบว่า : “Tous les jours à tous points de vue je vais de mieux en mieux” แปลได้ว่า : “ฉันกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ วัน และในทุกๆทาง”
A : And his results?
พระเจ้า : แล้วผลเป็นยังไง❓
.
Q : A remarkable percentage of his patients got better!
นีล : เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่หายดี เพิ่มจำนวนขึ้นมากมายเลยน่ะสิครับ❗★
A : Of course.
พระเจ้า : แน่อยู่แล้ว
★ผมอยากให้ทุกคนทดลองทำดูครับ ซึ่งผมทำมาน่าจะหลายปีล่ะ ทุกเช้าหลังตื่นนอน (หลังจากนี้อาจจะต้องเพิ่มเวลาก่อนนอนด้วยอีกรอบ)
ผมจะบอกกับร่างกายและเซลล์ในร่างกายว่าผมรักพวกเค้า และก็ขอบคุณพวกเค้าที่มีสุขภาพแข็งแรง แบ่งตัวกันได้อย่างสมบูรณ์ตามพิมพ์เขียวต้นกำเนิด และก็ขอบคุณที่สามารถคงความเยาว์วัยไว้ได้ตลอดไป ซึ่งผลที่ออกมาก็ดีนะครับ ผมก็แข็งแรงดีและก็หน้าเด็กมาจนถึงตอนนี้ ฮ่าๆ 😁 ผมสร้างความเชื่อขึ้นมาว่าผมจะไม่แก่ ผมตอนอายุ 80 ก็จะยังดูหนุ่มแบบตอนนี้นี่แหละ ฮี่ๆ 😁 —แอดมิน—
.
Q : My heavens, can it then be possible to get most of the cells of the body to choose the same thing most of the time?
นีล: สวรรค์ทรงโปรด จะเป็นไปได้ไหมครับ ที่จะทำให้เซลล์ส่วนใหญ่ในร่างกายเลือกแบบนี้อยู่ตลอดเวลา❓
A : Ah! This is the same question you are asking yourselves right now regarding the rest of the people on the planet.
พระเจ้า : อาาา❗ คำถามที่เธอถามตัวเองอยู่นี้ เป็นคำถามเดียวกับที่ผู้คนที่เหลือบนโลกใบนี้ก็กำลังถามตัวเองอยู่ด้วยเหมือนกัน
.
Q: It is! It is this same question exactly.
นีล : ใช่เลยครับ❗ ยังไงทุกคนก็ต้องถามแบบเดียวกันนี่แหละ
A : And the answer is, it is possible, through alignment.
พระเจ้า : และคำตอบก็คือ มันเป็นไปได้ ผ่าน “การเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบแบบแผน”
The choice to act co-jointly, in unison and in harmony with each other, is made by elements of life when there is alignment on purpose within the sector or area where those elements exist.
การตัดสินใจของทุกภาคส่วนที่ร่วมกระทำการไปด้วยกันอย่างพร้อมเพรียงเป็นหนึ่งเดียวกันนั้น เกิดขึ้นจากการเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบแบบแผนไปตามวัตถุประสงค์ของธาตุแห่งชีวิตที่ดำรงอยู่ภายในขอบเขตหรือในพื้นที่นั้นๆ
The cells of your body will act in unison and in harmony with each other when there is alignment with the soul on the direction each moment in your life will take, from a cellular level, based on the Soul’s agenda in that femtosecond.
เซลล์ในร่างกายของเธอจะร่วมกระทำการเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบแบบแผนโดยพร้อมเพรียงกันไปตามทิศทางที่วิญญาณได้เลือกทุกๆขณะในชีวิต (ที่จะต้องประสบ) ไว้ก่อนแล้ว เริ่มไปตั้งแต่ระดับเซลล์โดยมีพื้นฐานไปตามแผนการของวิญญาณ★ ด้วยความเร็วในระดับเฟมโตวินาที
★ที่ได้เลือกหรือวางแผนไว้ก่อนแล้วก่อนลงมาเกิด สิ่งนี้คือสิ่งที่นักโหราศาสตร์ หรือ ความเชื่อทางศาสนาบางศาสนา บนโลกของเราเรียกกันว่า `โชคชะตา หรือ ชะตากรรม` เป็นโชคชะตา หรือ เส้นทาง หรือ แผนการ แห่งชีวิต (การมีประสบการณ์) ที่เราเป็นคนวางแผนด้วยตัวเอง
แต่ทว่า ณ ขณะ นั้น ที่เหตุการณ์ที่เราวางแผนไว้เกิดขึ้นในชีวิต ก็อยู่ที่ว่า เราจะเลือกอะไร จะเลือกทำตามแผน หรือ ไม่ทำ ก็อยู่ที่การตัดสินใจของเราเอง นี่แหละ คือ เจตจำนงอิสระ หรือ free will ที่พระเจ้าให้ไว้ กับสรรพชีวิตทั้งมวล –แอดมิน–
.
Q : Okay, I had to look that one up. A “femtosecond” is one quadrillionth, or one millionth of one billionth, of a second.
นีล : โอเคครับ ผมคงต้องขอไปดูความหมายของเจ้า “เฟมโตวินาที” นี่สักหน่อย และนั่นมันเท่ากับ หนึ่งในพันล้านล้านของวินาทีเลยนะครับ
A : Exactly. And your soul is The Source of the energy of the Essential Essence that resides with you.
พระเจ้า : ถูกแล้ว และ #วิญญาณของเธอ #ก็คือแหล่งกำเนิดของพลังงานที่เป็นแก่นแท้ของทุกสิ่ง ที่ซึ่งดำรงอยู่ภายในตัวเธอ
(มีต่อ)
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
