19 พ.ค. 2022 เวลา 07:54 • ไลฟ์สไตล์
"อะโวคาโด (Avocado)" ผลไม้ผิวขรุขระยอดนิยมของสายสุขภาพ (ที่ในอดีตไม่เคยมีใครสนใจ)
1
🥑 อะโวคาโด (Avocado) หรือผลไม้ที่มีชื่อเรียกที่ไม่คุ้นหูอีกชื่อว่า “Alligator pear”
ซึ่งก็ตรงตามชื่อ ด้วยรูปทรงที่มีลักษณะคล้ายลูกแพร แต่มีเปลือกขรุขระแบบผิวหนังจระเข้
ส่วนอีกชื่อเรียกที่คุ้นหู ก็คือ “ลูกเนย” เนื่องด้วยตัวเนื้อของเจ้าอะโวคาโดจะเหนียวนุ่มเหมือนครีมแบบเนย
คงไม่ต้องอธิบายเรืองรูปลักษณะกันเยอะ เพราะพวกเราเชื่อว่าเพื่อน ๆ น่าจะรู้จักเจ้าผลไม้อันนี้เป็นอย่างดี
แต่เพื่อน ๆ ทราบไหมว่า ก่อนหน้าที่น้องอะโวคาโดจะถูกพูดถึงกันบ่อย (โดยเฉพาะในกลุ่มเพื่อน ๆ สายสุขภาพ) เจ้าน้องอะโวคาโดผิวขรุขระนี้ เคยเป็นผลไม้ที่ไม่มีใครเหลียวแลมาตั้งแต่ในอดีต
เรื่องราวของอะโวคาโดจะมีอะไรบ้างนะ ?
แล้วน้องอะโวคาโด มีสายพันธุ์ไหนที่น่าสนใจบ้างละ ?
วันนี้พวกเรา InfoStory ขอพาเพื่อน ๆ ไปรับชมกับภาพอินโฟกราฟิกสุดสบายตาและเรื่องราวเพลินสมองด้านล่างกันได้เลย !
Avocado by InfoStory
[ ทำไมในอดีต “อะโวคาโด” ถึงไม่ได้รับความนิยมกันละ ? ]
1
มาเริ่มกันที่ เรื่องราวต้นกำเนิดของเจ้าอะโวคาโดกันก่อน
อะโวคาโด มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก เปรู และหมู่เกาะเวนต์อินดีส เป็นผลไม้เก่าแก่ที่มีอายุประมาณ 8,000 - 15,000 ปี 🌎 🇲🇽 🇵🇪
(แต่เราอาจจะคุ้นเคยกับอะโวคาโด ว่ามาจากทางรัฐแคลิฟอร์เนียของทางฝั่งอเมริกาเหนือมากกว่าเนอะ ซึ่งจริง ๆ ก็เป็นแหล่งปลูกอะโวคาโดขนาดใหญ่ของโลก แต่แรกเริ่มก็จากการนำเข้าจากเม็กซิโกกับหมู่เกาะทางอเมริกากลาง-ใต้ นี่ละ)
ต้นของอะโวคาโด จะมีลักษณะเป็นต้นไม้ยืนต้น ออกดอกขนาดเล็กเป็นช่อที่ปลายกิ่ง
เป็นพืชที่เติบโตได้ดีในสภาพภูมิอากาศร้อน ชอบแสงแดด อย่างเช่น อเมริกากลาง-ใต้ (ประเทศไทยเองก็ปลูกได้ดีเหมือนกันนะ)
เดิมที…ชาวเมโสอเมริกา คือชนเผ่าแรกที่ได้รู้จักกับต้นอะโวคาโด 🥑
ซึ่งจริง ๆ แล้ว อาจต้องเรียกว่าพวกเขาเริ่มนำผลอะโวคาโดมาทานตะหาก (เพราะเราคิดว่า เจ้าต้นไม้นี้มันก็อยู่มาเป็นหมื่นปีอยู่แล้ว ก็คือคงจะธรรมดาม๊ากมาก)
💡 แล้วเพื่อน ๆ ทราบไหมว่า ในสมัยก่อนเมื่อประมาณ 500 ปีก่อนคริสตกาล จนมาถึงศตวรรษที่ 19 ชาวโลก ได้เรียกชื่ออะโวคาโดว่าเป็น “ลูกอัณฑะของโลก” อาจจะเพราะด้วยรูปทรงกระมัง (โดยเริ่มเรียกมาจากชนเผ่าแถบอเมริกาใต้) แต่ต่อมาจึงเรียกว่าทรงลูกแพรแทนนะ แห่ะ ๆ
ต้องจินตนาการกันต่อเองนะคร้าบบบ แห่ะๆ
จนมาถึงในช่วงปี ค.ศ. 1915 ที่ชาวอเมริกาเหนือได้เริ่มทานอะโวคาโด พวกเขาก็เรียกชื่อว่า “Alligator pear” 🍐🐊
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชื่อไหนก็ตาม… “ลูกอัณฑะของโลก” หรือ “ลูกแพรจระเข้”
มันก็คงจะดูไม่น่ารับประทาน (และไม่ค่อยนิยมนำมาใช้ทางการตลาด) สักเท่าไร…
[ อ้าว แล้ว..อะโวคาโด มาเริ่มเป็นที่นิยมช่วงไหนละ ? 🧐]
ต้องบอกว่า ความนิยมทานอะโวคาโดเริ่มแพร่กระจายในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 เมื่อนักล่าอาณานิคมชาวสเปนนำไปต้นอะโวคาโดไปปลูกที่เปรู
จนต่อมาในศตวรรษที่ 18 ได้แพร่เข้าสู่ฮาวาย ฟลอริดา แคลิฟอร์เนีย และอเมริกาเหนือ
ตามมาด้วยยุโรป และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มปลูกที่ฟิลิปปินส์
💡 แต่คนที่จุดประกายความนิยมของอะโวคาโด ก็คือตั้งแต่ชาวอเมริกัน(ฝั่งอเมริกาเหนือ) นี้ละ
โดยสายพันธุ์แรก ๆ ที่เป็นที่นิยม (จนถึงตอนนี้) ก็คือ อะโวคาโดสายพันธุ์แฮสส์ (Hass)
คือเอาง่าย ๆ ว่าแทบจะทุกร้านฟาสต์ฟู้ดสัญชาติอเมริกันในช่วงต้นปี ค.ศ. 2000 อย่างเช่น Burger King, Au Bon Pain, Panera Bread ต่างก็หยิบยกอะโวคาโดเข้ามาในเมนูแทบจะทุกร้าน 🍔🍕🍟🌭
Burger King และ Au Bon Pain
หรือแม้กระทั่งภาพลักษณ์ที่บอกว่าอะโวคาโด เป็ยผลไม้ผิวจระเข้ ขรุขระน่าเกลียด
ก็ยังถูกกลบด้วย อะโวคาโดสายพันธุ์เฟอร์เต้ (Fuerte) ที่จะมีผิวเรียบเนียนกว่าแฮสส์
ด้วยสารอาหารและเรื่องของไขมันที่สูง (แต่เป็นไขมันดี) ก็ทำให้กูรูด้านสุขภาพและโภชนาการชาวอเมริกันหลายคน ถึงกับขุดงานวิจัยต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียออกมาอ้างอิงถึงเจ้าผลไม้ที่เป็นซุปเปอร์ฟู้ดอันนี้
อย่างเช่น “ซูซาน ออลพอร์ต (Susan Allport)” นักเขียนชื่อดังด้านประวัติศาสตร์ธรรมชาติ และวิทยาศาสตร์ทางอาหาร ก็ได้เขียนถึงคุณประโยชน์ทางสุขภาพของมันในหนังสือ The Queen of Fats เมื่อปี 2003 👩‍🏫
หรือแม้กระทั่ง ในปี 2015 แอป Pinterest ก็ยังยกย่องและจัดอันดับอะโวคาโดเป็นอาหารยอดนิยมประจำปี อีกด้วย
ส่วนหนึ่งพวกเรามองว่า กระแสของผู้บริโภคสายสุขภาพเริ่มมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ รวมไปถึงกลุ่มคนที่ทานวีแกน มังสวิรัติ ก็คงจะต้องหาอาหารทางเลือกที่ให้พลังงานและไขมันดีที่สูง แน่นอนว่าอะโวคาโดเอง ก็จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คนยุคใหม่คงจะต้องมองอย่างแน่นอน
(หรือ บางทีอาจจะเป็นการตลาดก็เป็นได้นะ)
[ เมื่อ “อะโวคาโด” เคยสร้างเรื่องราววุ่น ๆ ระดับประเทศ 🧯🥑 ]
เห็นหน้าตาน่ากินแถมให้ประโยชน์ดีแบบนี้
แต่เพื่อน ๆ ทราบไหมว่า เคยมีเหตุการณ์ที่คงไม่มีใครคาดคิดเกิดขึ้น
แน่นอนว่าเกี่ยวข้องกับเจ้าผลไม้ “อะโวคาโด” นี้ละ
[เรื่องแรก] เกิดขึ้นกับ ประเทศเม็กซิโก ที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว เพราะ “อะโวคาโด” 🇲🇽🥑❗️
อย่างที่เราทราบกันในตอนต้นของบทความว่า อะโวคาโดมีต้นกำเนิดมาจากเม็กซิโก
ก่อนที่จะส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญเลยละ
เพียงแต่ว่า… ด้วยความต้องการบริโภคอะโวคาโดของชาวอเมริกัน (และชาวโลก) เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
จึงทำให้ เกษตรกรในรัฐ Michoacán ในประเทศเม็กซิโก ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการปลูกต้นอะโวคาโด ก็เริ่มถางป่า เพื่อปลูกอะโวคาโด รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของชาวโลก (แน่นอนว่า พอมันเป็นกระแส มันก็เลยกลายเป็นโอกาส)
แต่ทีนี้ เจ้าอะโวคาโดเนี่ย มันเป็นพืชที่ชอบแสงแดด อากาศร้อน ซึ่งพอ ๆ กันกับการที่มันชอบดูด “น้ำ” 🥑💖💦
ด้วยปริมาณของต้นอะโวคาโดที่เพิ่มมากขึ้น จนเกินพอดี ทำให้ในแต่ละวัน รัฐ Michoacán ต้องใช้น้ำปริมาณมากถึง 9,500 ล้านลิตร ในการดูแลต้นอะโวคาโด (อ่านจากเพจลงทุนแมน เขาเปรียบว่า จำนวนน้ำเท่านี้ เท่ากับสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิกถึง 3,800 สระ เลยทีเดียวนะ โอโห…)
ด้วยความที่บริเวณที่ตั้งของรัฐ Michoacán เกิดแผ่นดินไหวบ่อยอยู่แล้ว
ผนวกกับในฤดูร้อนที่มีภัยแล้ง แล้วยังมีเจ้าต้นอะโวคาโดมที่เพิ่มขึ้นมหาศาลอีก…
แหล่งน้ำธรรมชาติจึงเริ่มขาดแคลนในภัยแล้ง เป็นสาเหตุให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กมากกว่า 3,000 ครั้ง
เป็นผลทำให้รัฐบาลต้องเข้ามาควบคุมการปลูกอะโวคาโด
สีเขียว ๆ คือ จำนวนแหล่งปลูกต้นอะโวคาโดที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว
แต่ก็นั้นแหละนะ.. ความเกินพอดีของมนุษย์ อาจไม่สามารถต้านทานกับธรรมชาติได้…
[เรื่องที่ 2] “โจรขโมยอโวคาโด” 🥑🚫 🇳🇿
เรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศนิวซีแลนด์
หากพูดสั้น ๆ ก็จะประมาณว่า ความนิยมบริโภคอะโวคาโดเนี่ย สูงมากกกกในประเทศนิวซีแลนด์
จากเดิมที อะโวคาโดมีราคาขายที่ผลละ 4-6 ดอลลาร์ ก็ได้เพิ่มมาเป็น 2 เท่าตัว อยู่ที่ประมาณ 10-15 ดอลลาร์
หลับตาก็พอนึกภาพออกเลยว่า สถานการณ์แบบนี้ ก็จะต้องเกิดเหตุการณ์ลักขโมยอะโวคาโดอย่างแน่นอน
เพียงแต่ว่า… มันดันมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทั่วประเทศนิวซีแลนด์ ถึงแม้ว่าจะไม่เยอะมาก แต่ก็พอจะสร้างชื่อ(เสีย) ให้กับประเทศที่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
จนกระทั่งเคยมีพาดหัวข่าวเชิงประชดว่า ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของอะโวคาโดในประเทศนิวซีแลนด์ ได้สร้างอาชีพใหม่อย่าง "โจรขโมยอโวคาโด"
1
ที่เขาว่าหนักกว่าโจรขโมยอะโวคาโด คือ การที่คุณพี่โจร เขาไม่มีความรู้เรื่องผลไม้ชนิดนี้ ก็ขโมยและนำไปทาน ในขณะที่ผลยังอ่อนอยู่ (ยังไม่สุก) …. โอ้ย ก็ตามสภาพกันไปเลยนะพี่โจร.. 🫣😵‍💫
อันที่จริงแล้ว เรื่องราวของอะโวคาโด ค่อนข้างยาวและมีอีกหลายเรื่องให้เลือกเขียนพอสมควร (ตอนแรกคิดว่าเป็นผลไม้ธรรมด๊าธรรมดาชนิดหนึ่ง)
จะว่าไปแล้ว พวกเราในทีแรกก็มีอตติ จากรูปลักษณ์ที่เห็น และก็แบบ อึ๋ยย.. มีเนื้อครีมแบบเนยเนี่ยนะ จะอร่อยเหรอ…
จนกระทั่งได้มาเปิดใจลองทาน (ในร้านอาหารสเปน) ก็เลยร้อง “โอ้ ! ”ขึ้นมาทันที
ไม่แปลกใจที่เจ้าผลนี้ มันจะกลายเป็นที่นิยมได้ทั่วโลก
แรก ๆ เราก็ติดทาน 2 ลูกระ สนุกดี แต่เขาว่าทานแค่ 1 ลูกก็เพียงพอต่อร่างกายแล้วนะจ้าาา ฮ่า ๆ
พอหอมปากหอมคอกับเรื่องราวสบายสมอง (ที่หวังว่าจะเป็นสาระให้กับเพื่อน ๆ) กันเช่นเคย
งั้นพวกเราขออนุญาตไปหั่นอะโวคาโดก่อนเลยดีกว่า ! ! 😋🥰
โฆษณา