27 พ.ค. 2022 เวลา 06:00 • ธุรกิจ
โลกสมัยนี้เปลี่ยนแปลงเร็ว มีธุรกิจใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา รวมถึงความต้องการของลูกค้าก็เปลี่ยน มองหาสิ่งใหม่และต้องการความพอใจในระดับที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
คำถามคือ ในความเปลี่ยนแปลงนี้ ธุรกิจของเรายังดีอยู่ไหม สามารถไหลไปตามคลื่นความเปลี่ยนแปลงนี้ได้รึเปล่า
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ เรายังมัวคิดว่าเราทำทุกอย่างโอเค แต่ในชีวิตจริงคือ ธุรกิจและแบรนด์ของเรากำลังถูกลืมและไม่มีใครสนใจแล้ว
ผมใช้คำว่าน่ากลัว เพราะอาการถูกลืมนั้นมันค่อยๆ เกิดขึ้นแบบเราไม่ทันรู้ตัว ลูกค้าค่อยๆ หายไปทีละนิด กว่าจะรู้ตัวก็ไม่เหลือลูกค้ามากพอให้ธุรกิจของเราอยู่ได้
ส่วนตัวผมคิดว่าอาการค่อยๆ ถูกลืมจะรับมือยากกว่าการโดนรุมทิ้งในครั้งเดียวแบบ เราออกสินค้าผิดพลาดไปแล้วลูกค้ารวมตัวกันแบน แบบนี้เรารับมือได้เพราะรู้สาเหตุชัดเจนว่าเกิดจากอะไร ต้องแก้ตรงไหนก่อน
คนทำธุรกิจ เจ้าของแบรนด์ จึงจำเป็นต้องคอยเช็กสภาพธุรกิจของเราเสมอว่ายังโอเคอยู่ไหม ด้วยวิธีเหล่านี้
1. ดูภาพรวมตลาด ว่ามูลค่ารวมเพิ่มขึ้นหรือเริ่มนิ่ง ไม่เติบโตแล้ว
ถ้าตลาดรวมยังโต แปลว่าเรามีหน้าที่วิ่งตามให้ทัน
ถ้าตลาดรวมนิ่ง ไม่ขยายตัว ก็มีแค่ 2 ทางเลือกคือแย่งส่วนที่เหลือ กับแยกย้ายไปทำอย่างอื่น
2. ดูจำนวนคู่แข่ง โดยให้ดูใน 3 มิติ คือ
- มีคู่แข่งเพิ่มขึ้นหรือลดลงในช่วง 4-6 เดือนที่ผ่านมา
- คู่แข่งที่แบรนด์ใกล้เคียงกับเรา ขายของคล้ายกัน ราคาใกล้เคียงกัน
- คู่แข่งที่มาเปิดร้านใกล้ๆ เรา และ
- มีคู่แข่งใหม่ๆ เข้ามาในธุรกิจนี้บ้างหรือไม่ ถ้าไม่มีใครมาเลย มันก็จะแปลกๆ หน่อยนะครับ
3. ดูตามงานแสดงสินค้า สินค้าแบบเรายังมีขายไหม หรือไม่มาออกงานกันแล้ว เคยเขียนอธิบายไปแล้วในหนังสือวิชาธุรกิจเล่มแรก ย้อนกลับไปอ่านรายละเอียดนะครับ
ทั้ง 3 วิธีนี้ คือวิธีเบสิก ที่ต้องทำ ไม่ทำไม่ได้
ยังมีวิธีตรวจเช็กเชิงลึกให้ทำอีกหลายวิธี (ขอนับต่อเลยนะครับ เพื่อความสะดวก)
4. ดูลูกค้าของเรา
- ลูกค้าประจำ ยังซื้อเท่าเดิมไหม หรือเริ่มห่างหายกันไป
- ลูกค้าที่เราอยากได้หมายตา วันนี้ไปซื้อคู่แข่งหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน
- ลูกค้าที่มาซื้อ มีโปรไฟล์เหมือนลูกค้าที่เราอยากได้ตั้งแต่แรกหรือเปล่า หรือขายได้แต่ลูกค้าเดิมนับวันยิ่งแก่ไปด้วยกัน และ
- เรามีลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาในธุรกิจบ้างหรือไม่ หรือกี่ปีๆ ก็ขายแต่ลูกค้าเดิม
5. ถามคนที่อายุน้อยกว่า ว่ารู้จักแบรนด์เราไหม เราขายอะไรบ้าง
ถามแค่นี้ก็พอ ไม่ขออะไรมากไปกว่านี้
ถ้าตอบว่าไม่รู้จัก คือจบ
ถ้าตอบว่ารู้จัก แปลว่ายังพอมีความหวัง
เวลาถาม ก็ต้องเข้าใจบริบทของธุรกิจตัวเองด้วย ว่าถามคนอายุน้อยกว่าประมาณไหนถึงจะได้คำตอบที่น่าเชื่อถือ เอามาทำงานต่อได้
ถ้าทำแฟชั่น ของสวยงาม ความงาม หรือธุรกิจที่ทำให้ผู้ใช้ทันสมัย เสริมภาพลักษณ์ให้ดูดี ถามเด็กอายุ 17-18 ขึ้นไป ก็ได้คำตอบที่ชัดเจน
ถ้าทำธุรกิจสุขภาพ อาหารเสริม ไม่แก่ ไม่เหี่ยว ไม่อ้วน ก็ต้องขยับอายุเริ่มต้นเป็น 20 กลางๆ ขึ้นมา
6. ดูสินค้าใหม่มาแรงในตลาด ว่าต่างจากของขายดีที่สุดของเราไหม ราคาประมาณไหน
7. ของที่ขายดีที่สุดของเรา ยังขายดีอยู่ไหม
ถ้าสินค้าพระเอกของเราขายไม่ดีเหมือนเดิม และเราก็ยังไม่มีสินค้าเพื่อขึ้นมาแทนที่ นั่นคือสัญญาณอันตราย
8. ชื่อแบรนด์ของเรา เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ใครถูกพูดถึงและค้นหามากกว่ากันใน google (ดูได้จาก google trend)
9. ซัพพลายเออร์ยังดีกับเรา ให้เวลากับเราเหมือนเดิมหรือไม่ หรือวันนี้มีลูกค้าคนอื่นที่ต้องให้เวลามากกว่า
คิดง่ายๆ ตามหลักคือ ลูกค้าที่ซื้อเยอะ ต้องได้รับการดูแลมากกว่าลูกค้าซื้อน้อยเป็นธรรมดา ถ้าเราซื้อน้อยลง ก็แปลว่าเราขายน้อยลงนั่นเอง
10. เช็กกำลังใจ เช็กพลังของเราเองว่า ทุกเช้าตื่นมาแล้ว ยังตื่นเต้นอยากออกไปทำงานไหม หรืออยากนอนต่อ หมดไฟไร้พลัง
ถ้าเจ้าของธุรกิจเริ่มหมดไฟ ไม่ตื่นเต้นกับธุรกิจของตัวเอง แล้วล่ะก็…
ผมว่านั่นคือสัญญาณอันตรายที่สุดของธุรกิจแล้วครับ
#trickofthetrade #ธุรกิจ #business

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา