21 มิ.ย. 2022 เวลา 20:46 • ประวัติศาสตร์
การนองเลือดที่ แบกแดด
หลังจากที่ยึด เดลิ ได้สำเร็จ เป้าหมายต่อไปของติมูร์ก็คือการยึดพื้นที่แถบ เลวานท์(Levant) ติมูร์เริ่มสงครามกับ ออตโตมัน และ มัมลุค ในปี ค.ศ.1399 ในขณะเดียวกันเองเขาก็รุกราน จอร์เจีย และ อาร์เมเนีย พร้อมจับเฉลยมาเป็นทาสไว้ใช้งาน
หลังจากนั้นจึงได้บุกปล้นสะดม อเล็ปโป และ ดามัสกัส สงครามช่วงหลังต่างจากช่วงก่อนคือ ติมูร์ ไม่สังหารทุกคนใน เขาเลือกที่จะเก็บ ศิลปินไว้ และส่งกลับซามาร์คานด์ เพื่อสร้าง สถาปัตยกรรม และ ปฏิมากรรมต่างๆ
กองทัพติมูร์กับหอคอยกะโหลก source:quora.com
แบกแดด เป็นเมืองที่มีความโดดเด่นด้านการศึกษา วิชาการ และ วัฒนธรรม ถือเป็นเพชรเม็ดงามของเอเชีย และอาจเป็นเมืองหลวงที่ดีเมืองหนึ่งของอิสลามถึงแม้จะมีชาวคริสต์ ชาวยิว อาศัยอยู่ด้วยก็ตาม และเมืองแห่งนี้เองที่ถูกกองทัพของติมูร์รุมทึ้งราวกับปิรัย่า
เมื่อเขามาถึงแบกแดดและเจอกับการต่อต้านจากชาวเมือง ทำให้เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะแสดงความปรานีอีกต่อไป ในปี ค.ศ.1401 เมื่อแบกแดดถูกพิชิต ติมูร์สั่งให้ทหารต้องตัดหัวชาวเมืองตามโควต้าคืออย่างต่ำ 2 หัว หากต่ำกว่าโควต้า หัวของทหารเองจะถูกตัด
สิ่งที่เกิดขึ้นบอกถึงความกลัวของทหารที่มีต่อ ติมูร์ เมื่อทหารหาหัวมาตัดไม่ได้ พวกหวาดกลัว ลนลาน และ นำตัวเฉลยศึก หรือ ใครก็ได้มาตัดหัว
บางแหล่งข้อมูลอ้างว่า การบุกแบกแดดในครั้งนี้ มีการประมาณว่าชาวเมืองราวๆ 90.000 ชีวิตถูกสังหาร และ มีการสร้างหอคอยกะโหลกถึง 120 หอคอย ตั้งตระหง่านอยู่ภายในตัวเมือง
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา