27 มิ.ย. 2022 เวลา 13:31 • อาหาร
"ดูว่าแอดมินได้อะไรมาจาก 'ตลาดนัดอาหารพื้นบ้านชุมชนบ้านครัว'...อาหาร อาหาร อาหาร"
1
อย่างที่บอกแล้วว่าวันอาทิตย์ที่ผ่านมาแอดมินจะไปงาน "เปิดตำนานแขกจามนามบ้านครัว 235 ปี บนแผ่นดินสยาม" ที่ศูนย์ถักทอสายใยประสานใจบ้านครัว ภายในชุมชนจามมุสลิมบ้านครัวเหนือ และบ้านครัวตะวันตก ริมคลองแสนแสบ กรุงเทพมหานคร
แอดมินไปไม่ทัน พลาดอาหารที่เป็นลายเซ็นของจามมุสลิมบ้านครัวไปหลายอย่าง เช่น แกงส้มเขมร (แกงส้มเนื้อ) สะเต๊ะเนื้อ เนื้อทอด ข้าวยำเขมร และขนมบอบอสะแด๊ก
งานนี้มีกิจกรรมหลายอย่าง เช่น เวทีเสวนาวิชาการ กิจกรรมเยาวชนเดินขบวนรณรงค์และประกวดคำขวัญต้านยาเสพติด นิทรรศการวัฒนธรรม ดนตรีมุสลิม และพื้นที่ที่แอดมินให้เวลากับมันมากเป็นพิเศษ คือ "นิทรรศการอาหารจามที่มีชีวิต"
พ่อค้าแม่ค้าจามมุสลิมรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ นุ่งโสร่ง สวมหมวกกะปิเยาะฮ์ คลุมฮิญาบตั้งแผงขายอาหารกันแน่นสองข้างทางใต้สะพานเจริญผลริมคลองแสนแสบ และยาวเลยเข้าไปถึงด้านในมัสยิดยามีอุลค็อยรียะห์ (สุเหร่ากองอาสาจาม)
"ข้าวหมกไก่" แม้จะหากินได้ทั่วไป เพราะเป็นอาหารจานหลักของมุสลิม แค่บ้านครัวก็มีหลายเจ้า จานที่เห็นนี้เป็นของ "บังอ๊อด" ข้าวหุงกับเครื่องเทศเป็นเม็ดสวย ให้เยอะทุกอย่าง ทั้งข้าว ไก่ หอมเจียว แตงกวา แม้แต่น้ำจิ้ม เฉพาะน้ำจิ้มนี้ว่ากันว่าเป็นสูตรเฉพาะของบ้านครัว เพราะน้ำจิ้มที่อื่นใช้พริกเขียว แต่ที่นี่ใช้พริกแดงและครบรสเผ็ดหวานเค็มเปรี้ยว
"สลัดแขก" พิเศษตรงน้ำสลัดที่มีรสจัดหวานมันเผ็ดเค็มครบรส มีผักที่นิยมกินเฉพาะตามสูตรของชาวมุสลิม ได้แก่ ผักกาดหอม แตงกวา มะเขือเทศ หัวหอมใหญ่ ต้นหอม เต้าหู้ มันฝรั่งทอด และไข่ต้ม ส่วนใครที่ชอบเนื้อสัตว์ ผักแปลก ๆ หรือมีผักชนิดอื่น ๆ อยู่ในครัวอยู่แล้วก็หามากินเพิ่มเติมได้
"ก๋วยเตี๋ยวกะทิ" หน้าตาและส่วนผสมคล้ายก๋วยเตี๋ยวแกง แต่ต่างกันตรงไม่มีเครื่องแกงและไม่มีกลิ่นเครื่องเทศ ทำให้รสชาติออกนวล ๆ และหอมกะทิ ว่ากันว่าเหมาะสำหรับเด็กเล็ก ๆ ที่ยังกินอาหารรสเผ็ดไม่ได้ นับเป็นก๋วยเตี๋ยวที่นิยมมากในหมู่ชาวมุสลิมภาคกลาง แถบพระนครศรีอยุธยา และแพร่หลายสู่ชาวมุสลิมคลองแสนแสบ หนองจอก ลาดกระบัง มีนบุรี โดยเฉพาะชุมชนจามมุสลิมบ้านครัวนี้
"ขนมข้าวแขก" ลักษณะคล้ายข้าวหลามตัด เครื่องปรุงประกอบด้วย ข้าวเจ้า กะทิ ขมิ้น หัวหอม เกลือ และน้ำตาล วิธีทำเริ่มจาก มูนข้าวจ้าวหุงสุกด้วยกะทิ (หากใช้หัวกะทิมากรสก็จะออกมันอร่อย) ผสมขมิ้น เกลือและน้ำตาล เทลงถาดเกลี่ยให้เรียบ แล้วทำหน้าขนม ประกอบด้วยหัวกะทิ ขมิ้น เกลือ และน้ำตาล ราดให้ทั่วปล่อยจนแห้ง จากนั้นโรยหอมเจียว กินกับหน้าต่าง ๆ เช่น ไก่ กุ้ง ปลา หรือเนื้อปรุงรสก็ไม่เลว
"ขนมอาลัว" ขนมหวานเคี้ยวหนึบ ทำจากแป้งสาลี แป้งถั่วเขียว กะทิ น้ำตาล และเกลือ ผิวด้านนอกจะเป็นน้ำตาลแข็ง ด้านในเป็นแป้งหนืด นิยมทำเป็นอันเล็กหลายสี มีกลิ่นหอม รสหวานจัด ขนมอาลัวมีต้นกำเนิดมาจากโปรตุเกส ก่อนจะถูกนำมาเผยแพร่ในเอเชีย ตะวันออกกลาง ปัจจุบันเป็นที่นิยมในประเทศไทย รวมทั้งชาวมุสลิมด้วย
"กุหลาบยามุน/กุหลาบจามุน" (Gulab Jamun) ขนมหวานจากเอเชียใต้ ทำจากแป้งข้าวเจ้า เกลือ น้ำตาล และเนย วิธีทำเริ่มจากนำแป้งกวนสุก ปั้นเป็นก้อนทรงรีคล้ายลูกสมอหรือรักบี้ (แถบเอเชียใต้นิยมปั้นเป็นลูกทรงกลม) ทอดด้วยเนย แช่ในน้ำเชื่อมใส่ผงกระวานและน้ำดอกกุหลาบ แช่จนอิ่มตัว มีกลเม็ดว่า แป้งที่กวนต้องละเอียดและสุกมาก หากเหลือไส้ให้เป็นไตบ้างเวลาเคี้ยวจะให้ความรู้สึกอร่อยกว่า
อาหารสีสวย ๆ หอม ๆ หวาน ๆ แบบจามมุสลิมบ้านครัว
อย่างที่บอกไปครั้งก่อนว่า ขนมจามมุสลิมส่วนใหญ่ทำจากข้าวเจ้า แทนที่จะเป็นข้าวเหนียวเหมือนขนมโบราณของไทย จีน มอญ ลาว และมุสลิมแถบภูมิภาคนี้ทั่วไป นับเป็นวัฒนธรรมขนมหวานที่ใช้วัตถุดิบไม่ซับซ้อน แต่ทำอย่างประณีต และผลลัพธ์คือความอร่อย
โฆษณา