7 ก.ค. 2022 เวลา 05:00
Ep. 18 ปีนน้ำตกหมื่นสาย
หุบเขาน้ำตกหมื่นสาย
ขอบคุณภาพจาก koreanconsult.com
หลังจากเปลี่ยนไปใส่รองเท้าสำหรับปีนเขา ที่ทางโรงแรมจัดไว้บริการแล้ว เราก็นั่งรถออกจากโรงแรมเมื่อเวลาบ่ายสองโมงครึ่ง ช้ากว่ากำหนดนิดหน่อย เพราะรถต้องเข้าไปรับไกด์ท้องถิ่นที่จะมานำปีนเขาที่ในหมู่บ้าน
เหตุที่ต้องมีไกด์ ก็เพราะเส้นทางปีนเขามีหลายทางด้วยกัน มีทั้งทางปีนง่ายๆ ทางที่ท้าทายสำหรับนักผจญภัย และยังมีเส้นทางหฤโหดที่ใช้ถ่ายทำภาพยนต์บู๊ล้างผลาญหลายเรื่องมาแล้ว ต้องอาศัยเจ้าถิ่นมานำทาง มิฉะนั้นอาจหลงได้ เรานั่งชมวิวสองข้างทางแค่ 10 นาทีก็ต้องลงจากรถ แล้วเริ่มออกแรงผจญภัยตามเส้นทางแบบเรียบง่าย ตามที่ตุ้ยนุ้ยสัญญากับนายไว้ นายพูดเบาๆ กับฟองน้ำว่า หวังว่าตุ้ยตุ้ยคงไม่ทรยศนะ!
รายการออกกำลังกายครั้งนี้ เริ่มต้นโดยไกด์ท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้หญิงนุ่งกระโปรงลำลอง หน้าตาน่าเอ็นดูของเราเลือกใช้เส้นทางที่ปีนง่ายที่สุด เธอคงได้พิจารณาในภาพรวมของวัยค่อนข้างจะปลายฤดูของกลุ่มเราเป็นหลัก จึงได้เลือกเส้นทาง “หุบเขาน้ำตกหมื่นสาย” (Valley of Ten Thousand Fountains) ให้เราปีน
แผนที่คร่าวๆ ของหุบเขาน้ำตกหมื่นสาย
ขอบคุณภาพจาก koreanconsult.com
ทางเดินไปสู่น้ำตกในตอนแรกนั้นชันน้อยๆ พอเดินสบายและเหงื่อหยดแต่เพียงนิดๆ ทางร่มรื่นด้วยเงาไม้ใหญ่เขียวไปหมดทั้งเขา นัยว่าเทือกเขานี้มีแร่ทองคำอยู่มาก แต่ประธานาธิบดีไม่อนุมัติให้มีการขุดทอง เพราะต้องการคงสภาพของวนอุทยานแห่งนี้ไว้ตามธรรมชาติให้มากที่สุด นี่เป็นสิ่งน่าชื่นชมที่เขาสามารถรักษาป่าและต้นน้ำลำธารไว้ได้ตามสภาพเดิม มีคำขวัญจูงใจคนให้รักป่า บูชาธรรมชาติอยู่ทุกแห่ง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นการปีนเขาเลยทีเดียว ตุ้ยนุ้ยแปลข้อความจากป้ายให้เราฟังพอเป็นตัวอย่าง เช่น
“ขอให้เราช่วยกันรักษาป่าให้เขียว!”
“ธรรมชาติสวยทำให้เกาหลีงาม!”
“จงช่วยกันทำให้น้ำในลำธารใสสะอาดเสมอ!”
“อย่าทำลายสัตว์ป่า!”
และที่เหมือนบ้านเราเปี๊ยบมีอยู่ 1 ป้าย คือ “ระวังไฟป่า!”
บรรทัดนี้ฟองน้ำต้องขอออกตัวกับคุณก่อนว่า ส่วนหนึ่งที่เขียนเกี่ยวกับเกาหลีเหนือนั้น จะผิดจะถูก หรือบกพร่องอย่างไร ฟองน้ำก็ขอโยนทั้งก้อนอิฐและช่อดอกไม้ ให้กับล่ามตุ้ยนุ้ย (คนนี้เอาไป 70%) และล่ามกบน้อย (เอาที่เหลือ 30% ไป เพราะบริการเราน้อยกว่า) เนื่องจากเราไม่สามารถ ‘สัมผัสและสื่อสารโอภาปราศรัย’ กับชาวเมืองเขาโดยตรงได้เลย
...เราเดินขึ้นเขาแบบสบายๆ ได้สัก 15 นาที ก็ได้ยินเสียงซัดซ่าของน้ำตกแว่วมา เมื่อถึงโขดหินผากว้าง ตุ้ยนุ้ย คุณหลัง และคนขับรถ ซึ่งหอบขวดเครื่องดื่มพะรุงพะรังมาด้วยก็วางของ แล้วจัดแจงเอาขวดวางแช่ไว้ในตู้เย็นธรรมชาติแถวๆ ข้างซอกหิน
ทางข้างหน้าเป็นหน้าผาสูงชัน แต่ปรับพื้นทางเดินไว้อย่างดี มีบันไดเคี้ยวคดไปตามรูปร่างของหินผา สองข้างทางเดิน มีโซ่เหล็กโยงต่อกันไว้กันหวาดเสียว หรือกันหล่นลงไปจากขอบทางเดิน และเพื่อให้นักไต่เขาใช้สาวขึ้น – ลงขณะปีนบันได ระหว่างไต่เขาขึ้นไป มีจุดให้หยุดชมวิวและพักให้หายเหนื่อยหอบหลายแห่งด้วยกัน ทางเดินบางช่วงก็แคบ ต้องรอหลีกกับคนที่สวนมา บางตอนก็ชวนให้ใจหวิว สำหรับคนที่กลัวความสูง
จากที่เรายืนอยู่ไปจนถึงยอดเขาที่มีอักษรสลักบนหินคำว่า “จูเช่” (ซึ่งเราเคยมองเห็นแล้วจากเฉลียงโรงแรม) เป็นระยะทาง 2.4 กิโลเมตร และเมื่อขึ้นไปถึง “ผาจูเช่” แล้ว เราจะอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 เมตร
1
หัวหน้าคณะเราเขาเป็นโรคแพ้ความลาดชัน จึงยอมแพ้ตั้งแต่ยกแรก ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ขึ้นเวทีไต่เขาเลย เขาชวนคุณรุ่งหยุดแสวงหาความวิเวกด้วยกันบนผาใหญ่ แถวๆ ใกล้กับขวดแช่เย็นของเรานั่นเอง ผลที่ตามมาคือ คุณหลังก็นั่งตาม (เป็นเพื่อน) ทันที พร้อมกับโบกมือให้ตุ้ยนุ้ยปีนตามไปควบคุมกิจกรรมไต่เขาของอีก 13 หน่อเพียงลำพัง
หนึ่งใน บรรยากาศน้ำตกหมื่นสาย
วิวสวยจริงๆ มีน้ำตกน้อยใหญ่มากมายตลอดสองข้างทางเดิน สมแล้วที่เขาอยากให้เรามาชมนักหนา นอกจากธรรมชาติงามๆ แล้ว ที่ฟองน้ำชื่นชมมากก็คือ ความสะอาดของต้นน้ำลำธารและป่าที่ไม่มีร่องรอยการถางถางเลย น้ำในธารใสสะอาดมากจริงๆ บรรดาปลาน้อยใหญ่ก็แหวกว่ายอย่างเริงใจโดยไม่ต้องกลัวภยันตราย เพราะแน่ใจว่าไม่มีมนุษย์มาทำร้าย ขนาดนายนั่งเอาเท้าแช่น้ำเล่น ยังมีปลาว่ายเข้ามาตอด คงจะไขว้เขว เห็นเท้านายเป็นสาหร่ายอันโอชะกระมัง?
แต่แหม... คนที่ไม่ค่อยจะออกกำลังเป็นประจำ แค่ปีนๆ ไต่ๆ และสาวๆ โซ่ ไปได้สัก 10 นาทีเท่านั้นก็แฮ่กแล้ว ดังนั้น เมื่อไต่ไปหอบไปได้สัก 1,200 เมตร พี่นิตย์ คุณพึง และนายก็ยอมแพ้ในยกที่ 2 พากันหยุดปีน นั่งหมดแรงอยู่บนหน้าผากว้างที่ใครๆ ก็มาหยุดพักครึ่งทางกันที่นี่ เบื้องหลังของหน้าผาเป็นแผ่นหินขนาด 3 คูณ 8 เมตร สลักเนื้อเพลงปฏิวัติชื่อ “ลำนำของนายพล คิม อิล ซุง” เห็นนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีมาหยุดอ่านกันหลายกลุ่ม
ตุ้ยนุ้ยผู้น่าสงสารคงเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ต้องแบบน้ำหนักตัวตั้งเยอะปีนเขา แถมยังต้องคอยแปลที่ไกด์ท้องถิ่นอธิบายอีก ยิ่งสมาชิก 3 คนเกิดดื้อดึงไม่ยอมไปต่อ ตุ้ยนุ้ยก็เลยยิ่งห่วงหน้าพะวงหลัง แต่ก็ยังรักษาหน้าที่เป็นอันดีด้วยการหันมาสั่งทั้ง 3 คนว่า “หายเหนื่อยแล้วลงไปสมทบกับพวกข้างล่างรอผมนะ” ก่อนที่จะรีบปีนตามหนุ่มสาวไฟแรงที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้วกับไกด์
เมื่อฟองน้ำไต่ระทดระทวยตามทั้ง 3 สาวลงมาถึงข้างล่าง ก็ได้รับการบำบัดความเหนื่อยจากคุณหลังผู้แสนดี ที่ยื่นน้ำขวดเย็นเจี๊ยบพร้อมแก้วให้เราบริการตนเองแก้กระหาย และยังส่งห่อปลาแห้งท่อนเล็กๆ ยาวๆ รสชาติเป็นกลางตามสำนวนของนาย มาให้เรากินเล่น
ปลาแห้งชนิดนี้ เราเคยลิ้มรสมาแล้วเมื่อตอนไปดูกายกรรม แต่ไม่ทราบว่าทำไมวันนี้ถึงรู้สึกว่ามันอร่อยกว่าวันนั้นเยอะเชียว ปลานี้ห่อมาอย่างง่ายๆ ในกระดาษห่อของสีขาวหม่นๆ ไม่ใส่ถุงพลาสติก คิดเอาเองว่าเมืองนี้คงหาถุงพลาสติกไม่ค่อยได้ ก็ดีตรงที่ท่อระบายน้ำของเขาคงไม่ค่อยอุดตันเหมือนบ้านเรา
กว่าค่อนชั่วโมง คณะผู้พิชิตยอดเขาจึงไต่ลงมาด้วยใบหน้าชุ่มเหงื่อ โดยเฉพาะตุ้ยนุ้ยนั้นหน้าซีดทีเดียว หลังจากเติมพลังสูตรเดียวกันหมด คือน้ำขวดกับเบียร์ดำ และปลาแห้งไร้รสแล้ว ผู้พิชิตยอดเขาทั้งหลายถึงได้มีแรงคุยทับกันเรื่องวิวแสนงามบนยอดเขา ยั่วให้คนที่ไม่ได้ขึ้นไปถึงยอดอิจฉาเล่น
นายล้วงมะม่วงเค็มออกมาให้ฝ่ายเกาหลีชิม รู้สึกว่าเขาจะชอบ สาวไกด์นั้นหยิบเคี้ยวตุ้ย ๆ พวกผู้หญิงเอเชียละก็อย่างนี้แหละ ไม่ว่าชาติไหน ภาษาใด มักชอบของขบเคี้ยวเปรี้ยวเด็ดเผ็ดมันกันทุกคน นี่ถ้าได้ลองชิมส้มตำแซ่บๆ ที่เมืองไทย ฟองน้ำว่าเธอต้องลืมกิมจิไปอีกนาน
กลับจากปีนเขาราว 6 โมงเย็น แต่แดดยังแจ่มจ้าอยู่ เขา “แมวย่าง” ยามใกล้สนธยาดูสวบสงบไปอีกแบบหนี่ง และไม่มีสรรพสิ่งอื่นใดที่เคลื่อนไหวบนท้องถนน นอกจากรถบัสของเราเพียงคันเดียว
ตุ้ยนุ้ยประกาศก่อนลงจากรถว่า วันนี้จะจัดรายการดินเนอร์พิเศษให้ ไม่ไปทานที่ห้องเดิมละ ให้ทุกคนมารอที่ล็อบบี้เวลา 7 โมง แต่ก็อมพะนำไม่ยอมบอกว่าจะไปกินกันที่ไหน
ฟองน้ำสังเกตอยู่อย่างหนึ่งเรื่องประตูห้องพัก ทั้งที่บ้านมารัมและที่โรงแรม ‘แมวย่าง’ แห่งนี้ คือ แม้เราจะออกจากห้องพักและปิดประตูล็อกกุญแจแล้วก็ตาม เมื่อกลับมาทีไร จะพบประตูห้องเปิดโล่งอยู่ทุกครั้ง รวมทั้งประตูห้องน้ำด้วย เป็นดังนี้เสมอ ฟองน้ำจึงไม่ทราบว่าเขามีกุญแจห้องไว้ให้เราทำไม ดังนั้น วันหลังๆ เราจึงทิ้งกุญแจไว้ในห้อง และไม่ยอมเสียเวลาล็อกประตูอีก ก็เราไม่ได้มีเอกสารลับหรือของมีค่าอันใดที่จะต้องเก็บงำนี่นา
พอค่ำลงสักนิดหน่อย บ๋อยในเครื่องแบบชุดขาว ก็จะเข้ามาเปิดไฟสว่างไปทั่วห้องให้เราทุกวัน นอกจากนี้ ทุกเช้าเขาจะมาเก็บเสื้อผ้าของเราไปซัก และส่งกลับคืนมาในตอนเย็นของวันเดียวกันทุกครั้ง...
เมื่อนายอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกมาเดินเล่น ได้พบสาวฝรั่งเศสที่เคยเจอกันแล้วที่บ้านมารัม เธอมาพร้อมกับลูกชายอายุ 12 ขวบและสามี ทั้ง 3 คนมาถึงเขาเมียงญังโดยรถไฟ แล้วโรงแรมก็ส่งรถยนต์ไปรับที่สถานี ซึ่งอยู่ห่างกันแค่วิ่งรถ 10 นาที
แหม่มมาทำงานแปลหนังสือให้รัฐบาลได้ 6 เดือนแล้ว พอดีเป็นระยะปิดภาคฤดูร้อนที่ยุโรป สามีซึ่งเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยปารีสจึงพาลูกเดินทางมาเยี่ยม เสียดายที่ฟองน้ำไม่มีโอกาสฟังนายสัมภาษณ์เธอเกี่ยวกับประสบการณ์ในการทำงานที่เปียงยาง
ตุ้ยนุ้ยพาเราเดินอ้อมไปที่เฉลียงหลัง ซึ่งตอนนี้ สาวเสิร์ฟเอา ‘มุ้ง’ ลงกางกันแมลงเรียบร้อยแล้ว คุณหลังสวมบทบาทเจ้าภาพ ยืนคอยอยู่ที่โต๊ะยาวจัดไว้สำหรับ 20 คน รวมทั้งคนขับรถบัสของเรา
ตุ้ยนุ้ยบอกว่า เมนูนี้เขาลงมือเอง เป็นอาหารสูตรเกาหลีแท้ พวกเรากวาดตาดูแล้วน้ำลายสอ เมื่อเห็นเตาถ่านกำลังร้อนแดง มีตะแกรงย่างวางอยู่บนถ่าน มีเนื้อหมักพูนจานวางข้างๆ และยังชำเลืองเห็นเนื้ออีกค่อนกาละมังวางแอบอยู่ที่อีกโต๊ะใกล้ๆ นอกจากนั้น มียำถั่วงอก ยำปลาหมึก ผักสลัดต่างๆ และไก่ย่างชิ้นโตๆ ด้วย และแถมด้วยอาหารทำยากอีกจานที่ทำให้เราขำ คือจานไข่ต้มปอกเปลือกเรียบร้อย ซึ่งเป็นของชอบของตุ้ยนุ้ย
คิดแล้วเราก็ซึ้งในน้ำใจของคุณหลังและตุ้ยนุ้ย เขาเหนื่อยจากการปีนเขามาแท้ๆ ยังไม่ทันได้พักผ่อน ก็ต้องมาวุ่นวายจัดเตรียมอาหารให้เราอีก...!
ตุ้ยนุ้ยอธิบายว่า เนื้อย่างเกาหลี หรือ ‘บุลโกกิ’ ขนานแท้ต้องย่างด้วยเตาถ่านร้อนๆ ที่ใส่ถ่านพูนๆ แล้ววางตะแกรงลงให้สัมผัสกับถ่าน เนื้อจะสุกไวและได้รสนุ่มหวานหอม น้ำจิ้มหน้าตาคล้ายน้ำพริกเผา แต่มีรสเค็มกับเผ็ดเท่านั้น เนื้อย่างเกาหลีมื้อนี้อร่อยเด็ดขาดไปเลย (นาย กระซิบขอสูตรตุ้ยนุ้ยไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจนักว่าเมื่อนายไปลองทำทานเองแล้วมันจะเข้าท่าแค่ไหน)
เมนูบูลโกกิ
ขอบคุณภาพจาก Kimberley Low www.broadsheet.com.au
เราบอกกับคุณหลังว่า อยากมีโอกาสคุยอย่างไม่เป็นทางการกับอาจารย์ในสาขาวิชาใกล้ ๆ กับเรา ที่พูดภาษาอังกฤษบ้าง จะได้ไหม? จะจัดคุยกันเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 2-3 คนก็ได้ คุณหลังตรึกตรองอยู่ชั่วครู่ แล้วพยักหน้าว่าจะจัดการให้... เราเชื่อใจได้เลยว่า ถ้าคุณหลังสัญญาแล้วเป็นไม่พลาด
ตอนทานแกงจืดกับข้าวสวย ไม่ยักเห็นคุณหลังกับตุ้ยนุ้ยเอาข้าวใส่ปนลงไปในน้ำแกงเหมือนที่ท่านชาทำ เมื่อนายถาม ตุ้นนุ้ยร้องว่า นั่นเป็นวิธีกินของคนแก่ที่ฟันไม่ดีต่างหาก! ที่จริงแบบนั้นมันก็อร่อยดี นึกเสียว่าเป็นข้าวต้มเครื่อง ดังนั้น มื้อต่อๆ มาเราจึงไม่ได้เปลี่ยนสไตล์การกินข้าว คงใช้สไตล์ท่านชาอยู่เกือบทุกมื้อ
ค่ำคืนนั้น หลังจากร่ำเหล้าโสมและไวน์หวานของพวกผู้หญิงหมดไปหลายแก้ว เรารู้สึกเป็นกันเองกับฝ่ายเกาหลีที่ดูผ่อนคลายมากขึ้น ฟองน้ำเพิ่งเห็นว่า การแซวคุณหลังผ่านล่ามนี่สนุกดีเหมือนกัน เพราะเวลาคุณหลัง ‘ออกเวร’ แล้วปล่อยตัวสบายๆ บางทีก็เผลอพูดเกาหลีกับเรา และยิ้มมากขึ้น เราครื้นเครงเฮฮากันจนกะละมังเนื้อว่างเปล่าเมื่อใดแทบไม่รู้ตัว ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนเมื่อราว 5 ทุ่มเศษ
คุณหลังแจ้งว่า พรุ่งนี้บ่าย ศาสตราจารย์ ดร. หวาง จัง ยบ ซึ่งเป็นนายกสมาคมสังคมศาสตร์ที่เป็นเจ้าภาพเชิญเรามาดูงานนั้น ท่านจะให้โอกาสคณะเราเข้าพบปะสนทนาด้วย และหากทางเราอยากทราบอะไรก็ถามท่านได้ทุกอย่าง ในฐานะที่ท่านดำรงตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายกิจการต่างประเทศของพรรคคนงาน และเป็นผู้หนึ่งที่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของเกาหลีเหนือ
รายการนี้ไม่ได้อยู่ในโปรแกรมมาก่อน แต่ก็คิดว่าที่ท่านหวางใส่ใจให้เราเข้าเยี่ยมคารวะ คงเป็นเพราะตัวท่านเองเพิ่งกลับจากเมืองไทยหมาดๆ เมื่อต้นเดือนนี้ โดยเป็นอาคันตุกะรับเชิญของพรรคกิจสังคมเป็นเวลา 1 อาทิตย์
พวกเรารู้สึกกระตือรือล้นที่จะได้เยี่ยมคารวะบุคคลระดับคีย์แมนคนหนึ่งของประเทศนี้ เราจึงจัดประชุมเฉพาะกิจกลางดึกขึ้นอย่างคร่าว ๆ สั้น ๆ ที่ห้องรับแขกของหัวหน้าคณะ เพื่อตกลงกันว่าจะสนทนาเกี่ยวกับประเด็นใด หรือถามอะไรกับท่านประธานหวางบ้าง
ข่าวล่ามาแรงแจ้งย่อๆ ว่า ท่านหวางผู้นี้จบปริญญาเอกทั้งทางด้านปรัชญา เศรษฐศาสตร์ และกฎหมาย ท่านเคยเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัย คิม อิล ซุง อยู่ 15 ปี เคยเป็นโฆษกรัฐบาล... และปัจจุบัน ท่านดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคคนงานฝ่ายนโยบายต่างประเทศ
นายเป็นโรคชอบตรวจข่าวหนังสือพิมพ์เล่นก่อนนอน จึงชวนฟองน้ำแวะไปที่ล็อบบี้ หมายจะหยิบหนังสือพิมพ์ติดมือไปอ่านสักฉบับ แต่นายก็ต้องหน้าเบ้ เพราะหนังสือพิมพ์และวารสารที่กองอยู่นั้น ออกเมื่อ 10 วันก่อนแล้วทั้งสิ้น และมีหนังสือเพียง 3 ประเภท ตามที่นายเคยตั้งข้อสังเกตไว้แล้วในตอนที่ 3
โปรดติดตามตอนต่อไป.....

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา